x close

โคตรเพชร โอละพ่อ!

โคตรเพชร

โคตรเพชร

โคตรเพชร



         คดีฉกโคตรเพชรโอละพ่อแล้ว! ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสรุปเป็น "เพชรเทียม" ราคาแค่ร้อยเดียว เผยดูด้วยตาก็รู้ว่าของปลอม พิสูจน์จะจะใช้กระดาษทรายน้ำถูเหลี่ยมกร่อนทันตา ชี้ในโลกนี้มีโคตรเพชรไม่กี่ก้อน มูลค่าต้องไม่ต่ำกว่าพันล้าน ตำรวจเล็งฟ้องกลับเหยื่อแจ้งความเท็จ

          วันนี้ (31 กรกฎาคม) นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เปิดเผยถึงกรณีโคตรเพชร มูลค่า 315 ล้านบาท ถูกคนร้ายฉกไปและนำมาคืนในภายหลัง ว่า ตนได้รับการประสานงานจากตำรวจสน.ดอนเมืองให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ทำให้ตนต้องระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 7 คน เพื่อมาร่วมพิสูจน์ว่าเพชรที่ถูกฉกไปนั้นเป็นของจริงหรือไม่ โดยมีผู้เกี่ยวข้องทั้งทางฝ่ายของนายหน้าและฝ่ายของเจ้าของเพชร มาร่วมกันพิสูจน์ว่าเป็นของแท้หรือเทียมในครั้งนี้ด้วย

          "เมื่อผมเห็นเพชรในตอนแรกหยิบขึ้นมาดูก็รู้ได้ทันทีว่า ไม่ใช่เพชรแท้ เป็นเพียงแก้ว คิวบิกเซอร์โคเนีย (Cubic Zirconia ) หรือเพชรเทียม ซึ่งมีส่วนประกอบทางเคมี ที่ทำขึ้นมาเพื่อที่จะใช้เป็นเครื่องประดับแทนเพชรจริงเท่านั้น หากให้ผมซื้อก็คงซื้อได้ในราคา 100-200 บาทเท่านั้น ไม่ได้มีมูลค่ามากมายเป็นร้อยล้านบาท" นายสมชาย กล่าว

          นายสมชาย กล่าวอีกว่า เพื่อให้เป็นทางการจึงให้คณะกรรมการคนอื่นร่วมกันเป็นพิสูจน์ทั้งหมด โดยแต่ละคนดูด้วยสายตานั้น ยืนยันเป็นเสียงเดียวว่าไม่ใช่ของจริง ไม่ได้มีมูลค่ามากมายตามที่เป็นข่าว และเพื่อให้เป็นทางการมากยิ่งขึ้น จึงใช้เครื่องมือมาตรวจประกอบ ด้วยการใช้กระดาษทรายน้ำ เริ่มต้นด้วยการถูเบาๆ รอบก้อนโคตรเพชร ปรากฏว่าเหลี่ยมนั้นถูกลบลงอย่างง่ายดาย หากเป็นเพชรจริง เหลี่ยมดังกล่าวจะไม่ถูกลบเลยแม้แต่น้อย

          "ถ้าเป็นของจริงในโลกนี้มีเพียงไม่กี่ก้อน เพราะเป็นเพชรก้อนใหญ่ มูลค่าที่คิดว่าจะซื้อขายกันได้นั้น ต้องไม่ต่ำกว่า พันล้านบาท ในประเทศไทยคงไม่มีใครมีเพชรก้อนใหญ่ขนาดนี้เก็บเอาไว้ จะมีแต่นักธุรกิจร่ำรวยมหาศาลในต่างประเทศที่ชอบสะสมเพชรเก็บไว้เท่านั้น และไม่มีใครยืนยันได้ว่า จะมีในโลกนี้สักกี่ก้อน" นายสมชาย กล่าว

          นายสมชาย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะสรุปออกมาว่าไม่ใช่ของจริงก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องการที่จะให้ออกใบรับรองว่า วัตถุชิ้นนี้คืออะไรกันแน่อย่างเป็นทางการ ซึ่งทางสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ จึงส่งให้ทางสถาบันชั้นนำของประเทศคือ เอ.ไอ.จี.เอส (Asian Institute of Gemology Sciences) เป็นผู้ออกใบรับรองให้อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าวัตถุนี้จะเป็นของปลอมก็ตาม เพื่อนำไปยืนยันในชั้นการสอบสวนของตำรวจต่อไป 

          ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอัญมณี ได้ทำการตรวจสอบ เพชรตามที่ผู้เสียหายระบุ พบว่าเป็นเพียงแร่ชนิดหนึ่ง ไม่ใช่เพชรมูลค่าหลายร้อยล้านตามที่ผู้เสียหายระบุ ซึ่งขั้นตอนต่อไป พนักงานสอบสวนรอผลการตรวจของผู้เชี่ยวชาญอัญมณีส่งมาประกอบสำนวนคดี ส่วนการแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ กับผู้เสียหายนั้นทางพนักงานสอบสวน จะต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายก่อน แต่จากข้อมูลเบื้องต้น การกระทำดังกล่าว ก็เข้าข่ายแจ้งความเท็จแล้ว

          ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นางรินทร์ลภัส บุญยจิรพัฒน์ อายุ 58 ปี กรรมการบริษัทจัดหางาน ซาป้า อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์วิส ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ สน.ดอนเมือง ว่าถูกคนร้ายแต่งกายสุภาพด้วยการสวมสูทผูกเน็กไท 2 คน เข้ามาทำทีซื้อเพชรก่อนจะโขมยเพชรขนาด 2,100 กะรัต มูลค่ากว่า 315 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนจนนำไปสู่การออกหมายจับกุมผิดคน จนกระทั่งมีบุคคลลึกลับติดต่อนำมาคืนให้เมื่อวานที่ผ่านมา



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โคตรเพชร โอละพ่อ! อัปเดตล่าสุด 1 สิงหาคม 2551 เวลา 11:55:16 34,082 อ่าน
TOP