x close

หัวอกแม่ ในวันที่ลูก ขวัญ ถูกตีต่อหน้า


ปราณี ไวทยานนท์ ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์


          "ปราณี ไวทยานนท์" คุณแม่ เพื่อน ครูและผู้จัดการส่วนตัวของ "ขวัญ-อุษามณี" บอกว่า ต้องแอบร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกสาวกับนักแสดงคนอื่นๆ ในกองละคร ปมรักรอยอดีต เพราะเห็นคนทำร้ายลูกคนละตุ้บคนละตั้บ แต่กลับทำอะไรไม่ได้

          "...แอบไปร้องไห้..." ปราณี ไวทยานนท์ ผู้รับหน้าที่ทั้ง คุณแม่ เพื่อน ครู และผู้จัดการส่วนตัวของ นางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ บอกกับเราอย่างนั้นเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวกับนักแสดงคนอื่นๆ ในกองละคร "ปมรักรอยอดีต" ที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ

          "เรามองไปเห็นคนยืนตีลูกเรา ทำร้ายลูกเรา คนนั้นตุ้บ คนนี้ตั้บ แต่เราทำอะไรไม่ได้เลย" ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเปิดทางให้คนมาทำร้ายลูก ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวที่ไปรุมสัมภาษณ์ หรือใครต่อใคร แต่หากลูกสาวไม่ได้อยู่ในวงการนี้ คงจะทำหน้าที่แม่ได้สมบูรณ์ขึ้น

          "ถ้าลูกไม่ได้เป็นนักแสดง วันหนึ่งลูกเดินมาหกล้มต่อหน้าเรา หรือเด็กข้างบ้านมาตีลูกเราโดยที่ลูกเราไม่ผิด เราก็จะบอกว่าอย่าทำน้อง อย่าตีน้อง เราจะเข้าไปดูว่ามีปัญหาอะไร ถ้าเด็กคนนั้นผิด เราก็จะสามารถโต้ตอบเขาได้  เด็กคนหนึ่งทำอะไรผิด มีอะไรก็ต้องตักเตือน สอน ถ้าเด็กมันดื้อก็ต้องบอกพ่อแม่เขา เพราะพ่อแม่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่

          แต่ทุกวันนี้ลูกเราเป็นนักแสดง เป็นคนของประชาชน ถ้าขวัญเขาไปเจอปัญหาเราไม่สามารถไปยุ่งกับเขาได้ เขาจะหาว่าแม่ก้าวก่าย วุ่นวาย เรื่องมาก เราจะเอาแต่ความทุกข์ของแม่ส่วนตัวไปบอกกับเขาว่าขวัญต้องตอบแบบนี้ ขวัญอย่าพูดนะ เราทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแม่ไม่เห็นมีใครมาสรรเสริญว่าแม่ทำหน้าที่ดี หรือถูกต้อง" ปราณีกล่าวยิ้มๆ พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็แค่วิบากกรรมที่ตนเองและลูกต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้

          "ก่อนที่เราจะขึ้นไปสู่ที่สูงๆ มันต้องเจอกับอุปสรรคบ้างอยู่แล้ว ไม่เป็นไร เรามาอยู่ตรงนี้ก็ต้องทำใจมาตั้งแต่แรก ว่าเราจะอยู่อย่างมีความสุขรึเปล่า เราสุข เราทุกข์ก็อยู่ที่ตัวเรา ไม่มีใครมาทุกข์กับเราด้วย เราสามารถเลือกให้เรามีความรู้สึกที่ดีๆ ได้

          มันไม่มีอะไรได้มาพร้อมกัน 2 อย่าง โดยสมบูรณ์หรอก ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา เราอยากจะรับความเครียดตรงนั้นไหม เราเอาเข้ามาทุกอย่างก็เสียหมด สมองเสีย อารมณ์ก็เสีย พอเราอยู่ใกล้ใคร เขาก็มองเค้าไม่ดีไปหมด เราไม่เลือกที่จะทำแบบนั้น ทุกอย่างมันอยู่ที่เหตุและผล เครียดมันก็มีบ้าง บางทีก็ถามตัวเองว่าทำไมต้องเป็นเรา"

          แต่นั่นก็แค่แว้บหนึ่งในความคิดเท่านั้น เพราะจากนี้ไปคงไม่มีคำว่าน้อยใจ เสียใจ ท้อแท้ ออกจากปากสองแม่ลูกเด็ดขาด "ถ้าเราพูดน้อยใจ เสียใจในวาสนา ก็มีแต่คนสมน้ำหน้า หัวเราะเยาะ เราก็บอกว่าเรายอมรับในทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แต่ทำบุญเสริมบารมีก็แค่นั้น ดีแล้วที่ลูกขวัญเจออะไรตั้งแต่อายุน้อยๆ มันจะทำให้เขาแกร่ง เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมารักเราได้อยู่แล้ว ทุกอย่างมีคนรักก็มีคนเกลียด"

          นี่คือสิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่เข้าวงการตั้งแต่อายุยังไม่เต็ม 3 ขวบ ถูกเพาะบ่มมาโดยตลอด กระทั่งกลายเป็น ขวัญ อุษามณี อย่างทุกวันนี้ "เราบอกเขามาตั้งแต่เขาเพิ่งเริ่มถ่ายโฆษณา แล้วเส้นทางมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เราก็ถามเขาว่าเมื่อเวลาที่ดูละครขวัญชอบตัวไหนลูก นางเอกหรือว่านางมารร้าย"

          ปราณีว่าแม้ความจริงแล้วทุกตัวในเรื่องมีความสำคัญ แต่เวลาสอนก็ต้องให้เลือก แล้วตอนนี้เขาถูกวางภาพให้เป็นนางเอก เราก็สอนให้เขาเป็นคนดีทั้งในจอและนอกจอ ให้เขาพูดเพราะๆ ให้เป็นที่รักของคนอื่นตลอดเวลา ไม่ใช่ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง

          ซึ่งนั่นก็เป็นกลเม็ดอย่างหนึ่งที่ทำให้ชีวิตในวงการบันเทิงยาวนานขึ้น "ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้านะ มันเป็นสัจธรรม ในสถานภาพนี้มาเร็วไปเร็ว เราก็ให้ลูกปรับตัวให้รับสภาพให้ได้ ทำใจเอาไว้ทุกอย่าง ถ้ามาถึงเขา เขาจะได้ไม่เฮิร์ท ไม่เสียใจ ไม่ผิดหวัง อยู่ตรงนี้อย่าคิดว่าเราเป็นเทวดานางฟ้า อย่าไปวาดความหวังสูงส่ง จะอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรนานๆ เราต้องอยู่ด้วยความจริงที่เป็นเรา"

          วันแม่ปีนี้ปราณีบอกว่า ไม่หวังอะไรจากลูก แค่บางครั้งนั่งนึกเล่นๆ คนเดียวก็อยากได้ลูกหมามาเลี้ยงสักตัวเท่านั้น แต่ลูกสาวก็กำนัลให้มากกว่า "เราสอนให้เขาใช้เงินอย่างประหยัด แต่เขาไปถ่ายแฟชั่นให้นิตยสารเล่มหนึ่งมา แล้วได้บัตรกำนัลซื้อเพชรราคา 1 แสน เขาก็ให้เรา"

          ฟ้าหลังฝนใครๆ ก็มองว่าคงจะสดใสกระจ่างตา เหตุการณ์นี้ก็คงไม่ต่างกัน เพราะนอกจากแม่จะได้เพชรเป็นของขวัญแล้ว ลูกสาวก็ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมบำรุงผิวหน้าเพิ่มอีกตัวด้วย แต่ถึงกระนั้นหัวอกแม่ ก็ยังเป็นหัวอกแม่ คงไม่มีใครรักและห่วงใยลูกได้ดีเท่ากับผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายกันแต่สูงวัยกว่าได้ เหมือนอย่างที่ปราณีนั่งมองหน้าเราแล้วคิดหนักว่า ต่อไปชีวิตลูกจะเป็นอย่างไร เมื่อวันเวลาขโมยความเป็นแม่ไปทุกวัน

          "เราแก่แล้ว ดูแลเขาไม่ได้ 24 ชั่วโมงเหมือนก่อน" แต่แววตาที่มองลูกสาวที่เดินวนเวียนอยู่ข้างๆ ก็ทำให้คนมองรู้สึกได้ว่า แม้จะมีเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง แม่ก็จะยังทำหน้าที่แม่ อย่างที่เคยเป็นมา


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หัวอกแม่ ในวันที่ลูก ขวัญ ถูกตีต่อหน้า อัปเดตล่าสุด 12 สิงหาคม 2551 เวลา 19:30:44 59,081 อ่าน
TOP