x close

ใส่สูทเก๋-หาบขนมขาย หนุ่มใหญ่ปิ๊งไอเดียสู้ชีวิต


         เรื่องราวชีวิตของหนุ่มใหญ่ จากแดนอีสาน ผุดไอเดียเก๋ ใส่สูทผูกเนกไท หาบขนมขาย สร้างจุดสนใจจนลูกค้าติดใจรายนี้ เปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีพ่อค้าขนมหวานคนหนึ่ง แปลกไม่เหมือนคนขายของทั่วไป คือ แต่งตัวเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ไว้ผมทรงเอลวิส เพรสลีย์ สวมชุดสูท ผูกเนกไท สวมรองเท้าหนัง เดินเร่หาบขนมขายอยู่ย่านเอกมัย ในซอยสุขุมวิท 49 เขตวัฒนา กทม.

         ผู้สื่อข่าว เดินทางไปตามหาจนพบหนุ่มใหญ่รายนี้ ขณะร้องเชิญชวนลูกค้าอยู่หน้าปั๊มน้ำมันทีพีไอ ในซอยสุขุมวิท 49 ทราบชื่อว่า นายบุญมี ใหมพรหม อายุ 52 ปี เป็นชาว ศรีสะเกษ อยู่ในชุดเสื้อสูทสีเทา ผูกเนกไทสีแดง ร้องเท้าหนังขัดมันวาววับ แบกหาบขนมหวานหลากชนิด อาทิ ข้าวต้มมัด ขนมเปียกปูน บัวลอยไข่หวาน ข้าวเหนียวสังขยา ขนมต้ม ขนมถั่วแปบ ขนมไข่หงส์ กล้วยบวชชี ผัดหมี่ เป็นต้น ทั้งนี้ นายบุญมี เล่าว่า ของทุกชนิดล้วนเป็นฝีมือของ นางฟ้ารุ้ง ใหมพรหม ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ที่อยู่กินกันมากว่า 30 ปี 

         นายบุญมี ย้อนอดีตก่อนมาหาบขนมขายว่า เดิมทำงานทุกอย่างชนิดหนักเอาเบาสู้ รับจ้างหมด เป็นจับกัง กรีดยาง เฝ้าสวน เฝ้าบ่อปลา ทำนา สารพัด เพราะความรู้น้อยจบแค่ ป.4 และขึ้นเหนือล่องใต้ ไปมาเกือบแล้วทุกจังหวัด ชีวิตอยู่ไปวันๆ จึงตัดสินใจพาภรรยาเข้ากรุงเทพฯ มาเช่าบ้านอยู่ในซอยกำเนิดทรัพย์ ถนนพระราม 9 เดือนละ 1,500 บาท บอกกับภรรยาว่า จะไม่ทำอาชีพเก่าๆ อีกแล้ว ภรรยาแนะนำให้หาบขายขนมไปเร่ขาย ตามสถานที่ก่อสร้าง และหน้าออฟฟิศทั่วไป โดยจะเป็นคนลงมือทำให้

         พ่อค้าขนมหวาน เล่าอีกว่า แรกๆ ก็ขายไม่ค่อยได้กำไร เพราะต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมอาชีพมากมาย แต่ตนไม่ท้อ อาศัยความขยัน ยอมตื่นแต่เช้าตี 4 ครึ่ง หาบไปขายตามตรอกซอกซอย เดินลัดเลาะไปทั่ว ตั้งแต่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ทะลุเข้าไปในซอยเอกมัย ผ่านหน้า โรงพยาบาลคามิลเลียน ชุมชนสุเหร่าบ้านดอน โรงพยาบาลพร้อมมิตร โรงพยาบาลสมิติเวช แวะพักเที่ยงขายหน้าปั๊มน้ำมันทีพีไอ ต้องหาบขนมนํ้าหนัก 50 กิโลกรัม เป็นระยะทางไป-กลับ 6 กิโลเมตร ขายแบบนี้ทุกวัน 

         นายบุญมี เล่าถึงไอเดียเก๋ชนิดแหวกวงการพ่อค้าหาบเร่เป็นเจ้าแรกว่า ขายมาได้ 6 ปี ก็พอสู้ทนได้บ้างไม่ได้บ้าง พอมีพอกินไปวันๆ จนกระทั่งมาสังเกตเห็นพนักงานออฟฟิศ ใส่สูทผูกเนกไททำงาน แล้วนึกย้อนถามตัวเองว่า ทำไมพ่อค้าหาบขนมหวานจะทำไม่ได้ จึงตัดสินใจปฏิรูปตัวเองใหม่ ไว้ทรงผมแบบเอลวิส เพรสลีย์ ลงทุนซื้อเสื้อสูท กางเกง เนกไท รองเท้าหนัง รวมราคา 400 บาท เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีนี้เอง ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากหน้าหลายตา บางครั้งมีดาราจอดรถซื้อหลายคน แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร นอกจากจำ "หม่ำ จ๊กมก" ได้คนเดียว ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ พอมีเงินเหลือเก็บ

         ด้าน นางฟ้ารุ้ง ภรรยาคู่ชีวิต เปิดเผยว่า ตอนแรกก็คิดว่าแกบ้า เพราะสมัยก่อนเคยขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุจนจำใครไม่ได้อยู่นาน และได้ต่อว่าต่อขานไปว่าทำแบบนี้ทำไม แต่พอแกให้เหตุผลถึงการแข่งขันกับเพื่อนร่วมอาชีพ จึงเข้าใจ และเห็นผลกำไรที่ได้มาคุ้มกับการลงแรง โดยตนจะมีหน้าที่ลงมือเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสม ก่อนจะลงมือทำขนมเองทุกอย่าง และเตรียมให้สามีออกไปขายตอนตี 4 ครึ่งทุกวัน สนนราคาก็อยู่ที่ถุงละ 5 บาท 10 บาท เดี๋ยวนี้พอมีเงินออมฝากธนาคารไว้บ้างแล้ว แต่ไม่ขอบอกตัวเลข

         เมื่อถามถึงเคล็ดลับ ที่ทำให้ครอบครัวเริ่มลืมตาอ้าปากได้ในวันนี้ นางฟ้ารุ้ง บอกว่า นอกจากความขยันของสามีแล้ว ความเป็นคนมัธยัสถ์ อดออม ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และอยู่อย่างพอเพียงก็มีส่วนเช่นกัน

         สำหรับลูกค้าขาประจำรายหนึ่ง กล่าวว่า เห็นพ่อค้าขนมใส่สูทคนนี้ทุกวัน เป็นคนขยัน พูดจาไพเราะ "ครับผม" ทุกคำ เป็นคนอัธยาศัยดี แต่งตัวเนี้ยบ ทรงผมแบบเอลวิส สวมสูท ผูกเนกไท ใส่รองเท้าหนังขัดมัน เหลือรับประทาน เสน่ห์ของพ่อค้าขนมหวานใส่สูท นอกจากเรื่องการแต่งตัวแล้ว ที่ลูกค้าชื่นชอบมากก็คือ ชอบดูหมอ ทำให้ลูกค้าติดอกติดใจ และที่สำคัญจะมาตรงเวลาทุกวัน




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ใส่สูทเก๋-หาบขนมขาย หนุ่มใหญ่ปิ๊งไอเดียสู้ชีวิต อัปเดตล่าสุด 11 สิงหาคม 2551 เวลา 16:25:34 34,218 อ่าน
TOP