การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 29 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ปิดฉากลงไปแล้ว โดยทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง จาก สมจิตร จงจอหอ มวยสากลสมัครเล่นรุ่น 51 กิโลกรัม และ "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ยกน้ำหนักรุ่น 53 กิโลกรัมหญิง รวมไปถึงอีก 2 เหรียญเงิน จากมนัส บุญจำนงค์ มวยสากลสมัครเล่นรุ่น 64 กิโลกรัม ซึ่งเป็นนักชกประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาคนแรกของไทยที่เบิ้ลเหรียญในกีฬาโอลิมปิกได้ 2 สมัยติดต่อกัน และ "น้องสอง" บุตรี เผือดผ่อง เทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัม หญิง ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงที่คนไทยมีทั้งความสุข และความทุกข์ แต่จากความสำเร็จครั้งนี้ทำให้คนไทยลืมความเครียดจากปัญหาการเมืองได้
โดยในการแข่งขันครั้งนี้ ได้สะท้อนสิ่งสำคัญของการกีฬาไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากการสำรวจของ "สวน ดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปที่ติดตามการถ่ายทอดสดโอลิมปิกครั้งนี้ ในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 1,028 คน (ชาย 475 คน 46.21 เปอร์เซ็นต์ และหญิง 553 คน 63.69 เปอร์เซ็นต์) ปรากฏว่า
ประเด็นของความสมหวังที่สุดของประชาชนในกีฬาโอลิมปิก อันดับ 1 นักกีฬาไทยได้เหรียญทอง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย 72.14 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 นักกีฬาไทยได้ประสบการณ์ในการแข่งขันระดับโลก 11.43 เปอร์เซ็นต์ และสมจิตรชกมวยเป็นครั้งสุดท้ายในกีฬาโอลิมปิก 7.86 เปอร์เซ็นต์ ส่วนความผิดหวังที่สุดของประชาชนในโอลิมปิกครั้งนี้ อันดับ 1 สงสารนักกีฬาที่พลาดเหรียญรางวัลทุกคน 49.23 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 ได้เหรียญรางวัลน้อยเกินไป 24.61 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3 การตัดสินของกรรมการในกีฬาบางประเภท เช่น มวย เทควันโด ฟันดาบ 12.31 เปอร์เซ็นต์
สำหรับนักกีฬาที่ประชาชนประทับใจมากที่สุดในครั้งนี้ คือ อันดับ 1 สมจิตร จงจอหอ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น 30.85 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล นักกีฬายกน้ำหนัก 27.95 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 3 มนัส บุญจำนงค์ นักกีฬามวย สากลสมัครเล่น 20.00 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 4 "น้องสอง" บุตรี เผือดผ่อง นักกีฬาเทควันโด 19.31 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนักกีฬาอย่างอำนาจ รื่นเริง มวยสากลสมัครเล่น วรพจน์ เพชรขุ้ม มวยสากลสมัครเล่น วีระเดช คอธนี ฟันดาบ และนักยิงปืน ที่พลาดหวังได้รับความนิยม 1.88 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ข้อคิดในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไป อันดับ 1 เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องควรหันมาพัฒนากีฬาไทยในทุกประเภทอย่างจริงจัง 26.04 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 การคัดเลือกนักกีฬาควรคัดเลือกให้มีคุณภาพ 20.83 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3 ความยุติธรรมหรือ ความเป็นกลางในการตัดสินของกรรมการ 17.71 เปอร์เซ็นต์
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
