สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
หลังจาก นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง ตลอดช่วงบ่ายถึงค่ำวันที่ 3 กันยายน มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ยิ่งผู้สื่อข่าวที่ติดตามรายงานความเคลื่อนไหวของนายสมัครไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านายสมัครไปปฏิบัติภารกิจที่ใด
ประกอบกับกระแสข่าวการเข้าเฝ้าฯ รวมถึงประชุมองคมนตรี ยิ่งทำให้เกิดความสับสนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทำนองกระแสข่าวดังกล่าวอาจเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ในเวลา 07.00 น. วันที่ 4 กันยายน นายสมัคร มีกำหนดการออกแถลงการณ์สดชี้แจงสถานการณ์ปัจจุบันทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ ทำให้ลดทอนกระแสข่าวการตัดสินใจการลาออกของนายสมัครลง
นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมในเรื่องของการแถลงออกอากาศของนายสมัครในช่วงเช้าวันที่ 4 กันยายนในส่วนของสถานโทรทัศน์เอ็นบีทีไว้พร้อมแล้ว
ด้าน นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่นพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ที่นายสมัครจะประกาศยุบสภาหลังสภาผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณวาระ 3 ว่า แม้กลุ่มพันธมิตรและกลุ่มอำนาจเก่าจะกดดันให้นายสมัครยุบสภา แต่คงไม่ยุบ
ส่วนแนวทางของพรรคพลังประชาชนเพื่อแก้วิกฤติการเมือง นายปัญญา กล่าวว่า ขอให้ติดตามดูการประชุม ส.ส.อีสานพรรคพลังประชาชน ในวันที่ 4 กันยายนนี้เวลา 13.30 น. หลังประชุมเสร็จจะออกแถลงการณ์เปิดผนึกของผู้แทนปวงชนชาวไทย ฉบับที่ 2
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า นายกฯ น่าจะอยู่ไม่ได้ เพราะหลังประกาศ พรก.ฉุกเฉิน แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม รัฐบาลยังทำงานในทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ กลุ่มพันธมิตรยังปักหลักชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ดังนั้น หลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านวาระ 3 มีโอกาสสูงที่จะยุบสภา แม้ส.ส.ทุกพรรคไม่อยากให้ยุบสภาแต่อยากให้ทุกฝ่ายหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองก่อน ไม่เช่นนั้นการยุบสภาจะนำไปสู่ความเลวร้ายมากกว่าเดิม
ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีต่อผู้ชุมนุมภายในทำเนียบรัฐบาลกลางดึกคืนวันที่ 3 กันยายนว่า มีคนถามตนว่าหาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีลาออกแล้ว จะให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ตนขอบอกเลยว่าใครจะมาเป็นนายกฯก็ได้ หากรับข้อเสนอ 4 ข้อดังนี้ คือ
1. จะต้องดำเนินเอาผิดกับคณะรัฐมนตรีของนายสมัครทั้งชุด ในกรณีความผิดที่เอาอธิปไตยของชาติไปยกให้กับประเทศกัมพูชา
2. จะต้องดำเนินการเอาผิดกับรัฐมนตรีหวยบนดิน ที่ถูกศาลฎีกาแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตรวจสอบความผิด
3. จะต้องยกเลิกโครงการเมกะโปรเจค เช่น โครงการจัดซื้อรถเมล์ 6,000 คัน และโครงการผันระบบท่อ ทุกโครงการจะต้องหยุดในทันที
4. จะต้องประกาศยืนยันออกมาว่า จะไม่เข้าแทรกกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากใครสามารถทำตามนี้ได้ตนก็ยอมรับ และที่มีข่าวลือว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อาจจะมานั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เรื่องนี้หาก นายสมชาย ทำได้สิ่งที่ตนกล่าวนี้ นายสมชายก็เป็นนายกฯได้ แต่จะถามว่านายสมชายจะกล้าทำหรือไม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
