หลังจากคบหาดูใจกันมานานถึง 12 ปี ล่าสุดมนต์รักนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ระหว่าง "น้องอร สู้โว้ย" หรือ "ร.ท.หญิง อุดมพร พลศักดิ์" อดีตจอมพลังสาวทีมชาติไทย ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี ค.ศ.2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ กับแฟนหนุ่ม "เจ้าตี๋" หรือ "รัตน์-ชัยรัตน์ ล้อประกานต์สิทธิ์" อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ก็ได้ฤกษ์จัดพิธีหมั้นตามประเพณีไทยไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางสักขีพยาน ทั้งญาติสนิทมิตรสหายและครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ณ บ้านเลขที่ 218 ชุมชนมหาชัยอุดมพร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของฝ่ายสาว โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.พจน์ เหรียญมณี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) เป็นประธานในพิธี
บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเริ่มด้วยพิธีสงฆ์ เวลา 06.00 น. จากนั้นเวลา 09.29 น. นายสุเทพ และนางเฉียว ล้อประกานต์สิทธิ์ พ่อและแม่ของฝ่ายชาย ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ได้นำขบวนสินสอดทองหมั้นและอาหารคาวหวานเข้ามาสู่ขอตามประเพณีไทย จากนั้นช่วงบ่ายมีงานเลี้ยงรับรองแขก มีรำวงย้อนยุคมาสร้างความครื้นเครง ซึ่งพ่อและแม่ของเจ้าสาวคือ นายบุญส่ง และนางศศิธร พลศักดิ์ ได้ปิดซอยจัดงานเลี้ยงกันเลยทีเดียว
หลังพิธีหมั้น "น้องอร" ซึ่งมีสีหน้าปลาบปลื้มใจ กล่าวว่า แฟนหนุ่มเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ตลอดเวลา 12 ปี ที่คบหาดูใจกันมา ซึ่งครบ 12 ปี เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจตอบรับคำขอแต่งงาน และอีกสิ่งที่สำคัญคือ ไม่เคยทอดทิ้งกันในยามตกทุกข์ได้ยาก แม้ปัจจุบันครอบครัวของตนจะมีฐานะที่ดีขึ้น แต่ตนก็ไม่เคยลืมอดีตที่เคยตกทุกข์ได้ยาก และได้รับการหยิบยื่นช่วยเหลือจากแฟนหนุ่มเสมอ
"เรื่องสินสอดทองหมั้นนั้น แฟนหนุ่มก็จัดหามาให้ตามประเพณี มีทั้งแก้วแหวนเงินทอง อรไม่ได้มองว่าต้องจัดหามาเยอะ จะมามากหรือน้อย หรือแม้เขาจะมีมาแค่บาทหรือสลึง อรก็ยินดี เพราะมองที่เขาเป็นคนดี เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ได้มองที่ขันหมาก มองระยะยาวถึงการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขกับคนดีที่เราเลือก เพราะหลายคู่ที่แต่งงานกันใหญ่โต สินสอดทองหมั้นมากมาย สุดท้ายก็เลิกรากันไปก็เยอะ ตอนแรกรู้สึกเฉยๆ นะ แต่พอเห็นเขาแห่ขันหมากมา ตื่นเต้นและปลื้มใจมากที่เขาให้เกียรติอรและครอบครัวของอร"
อดีตจอมพลังสาวเหรียญทองโอลิมปิกกล่าวต่อว่า หลังแต่งงานแล้วจะย้ายไปอยู่เรือนหอ ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่แฟนหนุ่มซื้อไว้และยกให้ตนเป็นเจ้าของ สำหรับเรื่องอนาคตจะรับราชการทหารต่อไป พร้อมดูแลธุรกิจส่วนตัวกับแฟนหนุ่มเหมือนเดิม ส่วนเรื่องทายาทนั้น คงไม่รีบร้อนอะไร คาดว่าอีกประมาณ 2-3 ปี หากทุกอย่างพร้อมก็คงจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ด้านนายชัยรัตน์กล่าวว่า ครั้งแรกที่เห็น "น้องอร" ก็ชอบทันที จนถึงทุกวันนี้ ความรู้สึกยังไม่เคยเปลี่ยน และให้คำมั่นว่าจะดูแล "น้องอร" ให้มีความสุขมากที่สุด สำหรับพิธีการต่อไปนั้น ในวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายนนี้ จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกอบพิธีสมรสพระราชทาน "น้ำสังข์ข้างที่" ให้ในเวลา 15.00 น. ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และหลังจากนั้น หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะจัดพิธีมงคลสมรส ในวันที่ 28 ธันวาคม 2551 ที่โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจากมติชนออนไลน์ และหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
