x close

ถนนชีวิต...แม่อายุน้อย

หญิงมีครรภ์

 

On the Road of Mother So Young 

          หญิงสาวเหล่านั้นต้องวนเวียนอยู่กับคำถามที่ว่า ฉันมีทางเลือกอะไรบ้าง? แล้วชีวิตฉันจะเป็นอย่างไรกับทางที่เลือกเดินในครั้งนี้ 

          นี่ไม่ใช่บทเกริ่นนำของนวนิยายเรื่องดัง แต่เป็นสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวกับสถานภาพของแม่หลายๆ คนที่พรั่งพร้อม แต่ถ้าชีวิตเหล่านั้นเป็นคนใกล้ตัว เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นญาติ หรือแม้แต่อาจเป็น "ลูกสาว" ของเราเองในวันหนึ่ง หากสังคมยังคงสับสนและพลิกผันตลอดเวลาเช่นนี้ล่ะ????

          ดวงใจสเปเชี่ยลในครั้งนี้จึงจะชวนให้คุณๆ ได้ลองร่วมสำรวจเส้นทางชีวิตของแม่อายุน้อยเหล่านี้ไปพร้อมๆกัน...เพราะนอกจากถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือแล้ว เหนืออื่นใด การรู้เพื่อเท่าทันสถานการณ์สำคัญที่สุด

          ....แต่หากบังเอิญว่าคุณคือหนึ่งในหญิงสาวเหล่านั้น แม้ชีวิตที่ผ่านมาจะนำความบอบช้ำมาให้แค่ไหน เราขอเป็นกำลังใจให้ก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางชีวิตพร้อมลูกน้อยที่น่ารักของคุณ

          หลากทัศนะเสียงสะท้อน....กรณีตั้งท้องอายุน้อย ++

          "ถ้าท้องหนูก็คงไม่ได้ทำงาน ต้องอุ้มท้องอยู่ที่บ้าน เหตุผลหลักๆ คือหนูยังไม่อยากให้แม่รู้ ยังไม่พร้อมให้แม่รู้ ...หนูคิดอยู่อย่างเดียวว่าคงเอาเขาไว้ไม่ได้ มันคือจุดเดียวที่ตัดสินใจเด่นชัด ยังไงก็ต้องเอาออก จะเจ็บทรมานแค่ไหนก็ต้องเอาออก ไม่รู้นะ หนูไม่อยากให้แม่ร้องไห้ หนูสงสารเขา หนูรู้ว่าถ้าเกิดแม่หนูรู้ แม่ก็คงไม่ให้หนูเอาออก หนูไม่อยากให้แม่เสียใจ เพราะจำได้ตลอดว่าแม่เขาหวังในตัวหนูมาก เขาบอกว่าหนูเป็นคนเดียวนะที่แม่หวัง อย่าทำให้แม่ผิดหวังนะ (อายุ 18 ปี กำลังทำงาน)" 

          "กลัวพ่อแม่รู้ด้วย ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงไหวไหมด้วย ตอนนั้นก็คิดจะไปทำแท้งนะคะ แต่คิดอีกทีก็กลัวบาป คิดอยู่คนเดียว โห...ร้องไห้ทุกวันเลย ก็อยากคุยกับแม่นะ แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้อยู่กับแม่ ไม่รู้จะคุยกับใคร....." (อายุ 20 ปี ทำงาน)

          "ไม่พร้อมนะ เรายังไม่อยากมีลูกตอนนี้ คือเรายังอยากเที่ยว อยากใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ก็กะมีซัก 27-28 นั่นแหละ ตอนนี้ยังไม่พร้อม..." (โสด อายุ 23 ปี ทำงาน)

          "ใจแตกกันเยอะนะเด็กสมัยนี้ ยังเรียนไม่จบกันเลย ไม่อยากอุ้มหลานหรอก อายชาวบ้านเขาตายเลย....คงเหมือนกับที่เขาว่ามีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้านนั่นล่ะมั๊ง...." (แม่ อายุ 52 )

          นี่เป็นเพียงเสียงสะท้อนจากสังคมบางส่วน ซึ่งอาจจะเป็นคำตอบที่ตอกย้ำว่าการที่เด็กสาวเปลี่ยนสถานะเป็นแม่ตั้งแต่อายุน้อย ไม่ใช่เรื่องชวนพิศมัยสักเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ากรณีนี้คงไม่มีคำตอบสำเร็จรูป...

          To be or not to be MOTHER .... ทางสองแพร่งที่ต้องเลือก

          Not to be MOTHER .... ขอเลือกที่จะไม่เป็นแม่

          เวลา 5 ทุ่มของคืนวันศุกร์ แสงไฟสลัวในร้านอาหารกึ่งผับ เสียงเพลงดังฟังสบายหู ผมนั่งอยู่กับ "กี้" และ "หนิง" 2 หญิงสาวที่ยินดีเล่าถึงถึงประสบการณ์ที่เจ็บปวดที่ผ่านมาของเธอ ผมได้คุยกับ กี้ นักข่าวสาวของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังแห่งหนึ่งเป็นคนแรก

          "แวบแรกที่รู้ กี้คิดเลยว่าจะต้องเอาออก เพราะยังเรียนไม่จบกันทั้งคู่ พอบอกแฟนเขาบอกให้เอาออกก่อนเถอะ จริงๆ พอมีเขาขึ้นมากี้ก็รักนะ แต่เก็บเขาไว้ไม่ได้จริงๆ วันนั้นกี้ยังจำได้เลยว่าเดินๆ อยู่แล้วมีคนวิ่งมาจะชน กี้รีบเอามือกุมท้องไว้เลย... ใจก็นึกว่านี่กี้เป็นห่วงเขาเหรอ? ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเอาเขาออกเนี่ยนะ วินาทีนั้นกี้ตื้อไปหมดเลย ทั้งช็อกทั้งเสียใจ กี้อยากเก็บเขาไว้นะ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ .." 

          เรื่องอายที่ต้องอุ้มท้อง คำดุด่าของทางบ้าน ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเท่าไหร่ในความรู้สึกของหญิงสาวคนนี้ แต่ผู้ชายของเธอยังไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีความมั่นคงในชีวิต ถ้าเธอต้องลาออกมาเลี้ยงลูก หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? นั่นต่างหากคือสิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจบอกลากับลูกในท้อง...

          หนิงเองก็เช่นกัน แต่ผิดกับกี้ก็ตรงที่หนิงเคยผ่านการทำแท้งมาแล้วถึง 3 ครั้ง หนิงยอมรับว่าเธอใช้ชีวิตอย่างตามใจตัวเองมากเกินไป ผมอดนึกแปลกใจไม่ได้ที่บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 อย่างเธอคนนี้จะเคยผ่านการทำแท้งมาแล้วถึง 3 ครั้ง ... "เสียใจสิ...แต่นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเลือกเอง" หนิงพูดแล้วก็กระดกเครื่องดื่มในมือ จากนั้นก็เล่าด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ผสมปนเปกันอยู่...เธอเพิ่งจะเสียลูกคนที่ 4 ไป ทั้งๆ ที่ครั้งนี้ตั้งใจจะเก็บเอาไว้...

          ถ้าชีวิตคนเราเป็นเหมือนในนิยาย ชีวิตของหนิงก็คงจะเป็นนิยายที่มีสีสันจัดจ้านฉูดฉาด ตอนนี้บทชีวิตของเธอได้เดินมาถึงจุดแสนเศร้าที่น้อยคนนักที่จะเข้าใจได้จริง สองเดือนก่อนหนิงกำลังมีความสุขกับการเตรียมตัวแต่งงานซึ่งกำลังจะมีขึ้นกับชายหนุ่มที่เธอรัก แต่แล้วคู่หมั้นของหนิงก็จากไปก่อนที่จะถึงงานแต่งงานได้เพียงไม่กี่เดือน ...หนึ่งเดือนหลังจากนั้นประจำเดือนที่ควรมาก็ขาดหายไป หนิงรับรู้แล้วว่าตัวเองตั้งท้อง...

          "หมอบอกหนิงแล้วตั้งแต่ครั้งที่ 3 ว่าอาจจะมีเด็กอีกไม่ได้แล้วนะ เพราะมดลูกคุณอ่อนแอมากแล้ว ตอนจะแต่งงานก็กังวล แต่ก็ไม่ได้บอกเขา พอมีครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีพี่เขาแล้ว หนิงก็รู้ทันทีว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในชีวิตแล้วที่ฉันจะได้เป็นแม่ ..."

          หนิงในวันนี้ไม่เหมือนอดีตเมื่อหลายปีก่อน เธอมีหน้าที่การงานที่ดีและค่าตอบแทนที่สูงพอสมควร หนิงคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเป็น Single Mom "อาจจะเห็นแก่ตัวนะ แต่คิดว่าลูกจะทำให้ชีวิตของหนิงดีขึ้น" เธอว่าอย่างนั้นแล้วก็พยายามวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งล้วนปฏิเสธที่จะรับฝากครรภ์ให้เธอ และแนะนำให้เอาเด็กออกเสียเพราะมดลูกที่อ่อนแอ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงว่าเด็กอาจจะออกมาไม่สมบูรณ์ ทั้งยังอาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวเธอเอง... หนิงพยายามดิ้นรนดึงดันจนคุณหมอท่านหนึ่งยอมรับดูแล แต่สุดท้ายลูกของหนิงก็จากเธอไปจนได้ ... หนิงหมดโอกาสที่จะได้ให้กำเนิดลูกด้วยตัวของเธอเอง ...ตลอดกาล

          ทั้งหนิงและกี้พูดตรงกันว่าทุกวันนี้ เวลาเห็นเด็กเล็กๆ น่ารัก ตาใสๆ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม พวกเธอมักจะนึกถึงลูกของพวกเธอทุกครั้งไป มันอาจจะเป็นความรู้สึกผิดที่คอยวนเวียนอยู่ในจิตใจ และต้องเป็นสิ่งที่พวกเธอต้องทนแบกรับกันอยู่....แต่ก็คงจะต้องเป็นอย่างที่หนิงว่า "เสียใจสิ...แต่นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเลือกเอง"

          สำหรับเนื้อหาส่วน Just be Mother So Young เลือกที่จะเป็นแม่ ยอมรับเมื่อก้าวพลาด ....กับปลายทางแห่งความสุข เชิญติดตามได้ในเล่มค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

นิตยสาร Modern Mom  ฉบับที่ 110 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2547
โดย กองบรรณาธิการนิตยสารดวงใจพ่อแม่ Modern Mom 
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถนนชีวิต...แม่อายุน้อย อัปเดตล่าสุด 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา 15:25:00 37,456 อ่าน
TOP