อีกเพียงไม่กี่อึดใจ สำหรับการเปิดตัวของ Twilight ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ ซึ่งนักแสดงหนุ่ม โรเบิร์ต แพ็ททินสัน ที่รับบทเป็นแวมไพร์ในอุดมคติของสาวๆ จากวรรณกรรมขายดีของ สเตฟานี่ เมเยอร์ ก็สละเวลาจากการทัวร์โปรโมตที่สร้างความโกลาหลนี้ เพื่อมานั่งคุยกับเราอีกครั้ง
ได้ยินมาว่าแฟนๆ ต่างก็แสดงอาการคลั่ง ในระหว่างที่พวกคุณเดินสายเพื่อโปรโมต Twilight คุณเองได้รับผลกระทบมากแค่ไหน
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ผมว่ามันสนุกดีน่ะ และก็ยังแปลกอีกด้วย ทุกเมืองที่พวกเรากำลังจะเดินทางไป ก็มีการเตือนล่วงหน้าก่อนว่าเหมือนมีจลาจลเล็กๆเกิดขึ้น ซึ่งก็ยังดีที่เมื่อพวกเราเดินทางไปถึงมันก็สงบลงหน่อยแล้ว อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะผมคิดว่ามันอาจเกิดขึ้นเฉพาะเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ที่ไหนได้มันเกิดขึ้นทุกที่ ทุกเมืองที่เราผ่าน ทั่วโลกที่เราไป มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ
อะไรคือเรื่องแปลกที่สุดที่เคยเกิดขึ้น
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : โอเค มันเกิดขึ้นในนิวยอร์ค มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินขึ้นมาหาผมบนเวที เธอขอให้ผมกัดเธอ เธอไม่ได้พูดในโทนเสียงประมาณ "เฮ้ มากัดฉันหน่อยสิ ฮ่าๆ ล้อเล่น" คือแบบว่าน้ำเสียงเธอเอาจริงเอาจังมาก เธออยากให้ผมเป็น เอ็ดเวิร์ด และกัดเธอเหมือนกับแวมไพร์กัดมนุษย์
ดังนั้นคุณจึงกัดเธอ
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ใช่
จริงเหรอ
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ไม่! ผมล้อเล่น ไม่ได้กัดแน่นอน (หัวเราะ) แต่มันก็เป็นเรื่องน่าขัน เมื่อผมเข้าไปร่วมกิจกรรมเหล่านี้ ผู้คนที่อยู่ที่นั้นก็ต่างคิดแต่ว่าผมคือ เอ็ดเวิร์ด ปักใจเชื่อว่าผมคือตัวละครที่อยู่ในหนังสือ และก็ไม่มีนักแสดงที่ชื่อ โรเบิร์ต แพ็ททินสัน อยู่ในโลกนี้ มันน่าแปลกจริงๆสำหรับสิ่งที่พวกเขาตอบสนองต่อการปรากฏตัวของผม
คุณเคยถูกสะกดรอยตามไหมเวลาที่เดินอยู่บนถนน มีคนจำคุณได้ไหม
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ผมก็ไม่รู้น่ะ เพราะว่าผมไม่ได้ใช้ชีวิตแบบปกติมานานแล้ว พระเจ้า! มันนานแค่ไหนแล้วที่ผมสามารถเดินบนถนนเพียงคนเดียว การได้เห็นผู้คนมากมายรอคุณที่สนามบิน และทำให้คุณตาบอดด้วยแสงแฟลชจากกล้องของพวกเขา มันทำให้ผมรู้สึกหมดกำลัง
มีอะไรที่คืบหน้าเกี่ยวกับ New Moon ไหม
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ผมคิดว่า เมลิซซ่า โรเซนเบิร์ค (ผู้เขียนบทภาพยนตร์ Twilight) เขียนบทภาพยนตร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขารอเพียงแต่รับไฟเขียวจากสตูดิโอเท่านั้น ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่า Twilight จะทำได้ดีแค่ไหนในตารางบ๊อกส์ออฟฟิส
แคทธาลีน ฮาร์ควิค (ผู้กำกับ) เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า มันต้องทำเงินให้ได้เกิน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงจะสามารถสร้างภาคต่อได้
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : โอ้ ว้าว! ผมไม่คิดว่ามันต้องทำเงินถึงขนาดนั้นน่ะ เอ หรือว่าต้องน่ะ... ผมคิดว่าในภาคสองนั้นต้องมีการใช้ซีจีมากกว่าเดิม ดังนั้นทุนสร้างก็ต้องมากขึ้นด้วย ส่วนตัวแล้ว เล่มสองถือว่าเป็นเล่มโปรดของผม ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากที่จะกลับไปแสดงในภาคต่อ
คุณอ่านครบทุกเล่มแล้วหรือยัง
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ยังครับ ผมอ่านสามเล่มแรกแล้ว นอกจาก Breaking Dawn ซึ่งก็เป็นเพราะผมไม่อยากรู้ว่ามันจะจบยังไง ผมอยากมีความรู้สึก ในการที่ไม่รู้ว่าพวกเราจะมุ่งหน้าไปทางไหน ดังนั้นผมจึงอ่านแค่สามเล่มแรก คือผมก็อยากอ่านเล่มสุดท้ายน่ะ แต่ผมก็มีแรงจูงใจที่จะเก็บมันเอาไว้ก่อน
คิดอย่างไรที่คุณกลายเป็นติดอันดับหนุ่มฮ๊อตประจำปี ที่มีเพื่อนร่วมรายชื่ออย่าง แซค เอฟรอน จาก High School Musical และ Jonas Brothers
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : (หัวเราะ) มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ผมไม่รู้เรื่องนี้เลยจนกระทั่งแม่ของผมส่งอีเมล์ที่มีลิงค์มาให้ และในลิงค์นั้นก็บอกว่าผมเป็นหนึ่งในผู้ชายที่ฮ็อตที่สุดของปี มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะพุ่งเข้ามาหาคุณชั่วข้ามคืน มันตลกจริงๆ
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าคุณสามารถโค่นบัลลังค์ แซค เอฟรอน และกลายเป็นหนุ่มฮ็อตที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โรเบิร์ต แพ็ททินสัน : ผมไม่เคยคิดถึงจุดนั้นเลย ถึงแม้ว่ามันจะมีความรู้สึกแปลกๆ ในการได้เห็นหน้าตัวเองบนเสื้อเชิ๊ต ผมไม่เห็นว่ามันคือตัวตนของผม แต่ก็โชคดีตรงที่ว่า ผมไม่ต้องทำตัวให้ดูสดใสตลอดเวลา เพราะว่าผมแสดงเป็นแวมไพร์ที่ดูครุ่นคิด ผมคิดว่าการได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทุกคนเช่นนี้ ก็เหมือนเป็นคำสรรเสริญ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ผมคิดว่ามันคงมีเพียงไม่กี่ครั้ง ที่อะไรเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณ ผมคิดว่าตัวเองคงผ่านช่วงนั้นไปแล้ว กับประสบการณ์ที่ได้รับใน แฮรี่ พ๊อตเตอร์ ทั้งสองภาค แต่มันก็มาเกิดขึ้นกับตัวเองอีกครั้งในเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักแสดงที่โชคดีจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก