x close

เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ วงการบันเทิงและตัวตนของเขา



          "ตอนหลังก็เริ่มรู้ว่าทำไมดาราต้องตอแหล..."

          ที่จริงแล้วหลายคนที่ได้เห็นหนุ่มผมยาวสุดเซอร์ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ตอนเข้าวงการแรกๆ ก็คิดกันว่าเขาคงจะต้องเป็นอะไรได้มากกว่าเป็นมือกีตาร์ของวงอินดี้ร็อคอย่าง สเลอร์ อย่างเดียว

          และก็จริงนั่นแหละ เพราะตอนนี้เขากลายเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่มีผลงานภาพยนตร์อย่าง บอดี้ ศพ19 และ รักสามเศร้า งานสร้างชื่อที่เขาร่วมแสดงกับ ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ แฟนสาว และยิ่งไปกว่านั้นคือเร็วๆ นี้ เขาจะมีผลงานละคร แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา ทางช่อง 7 ที่จะเล่นประกบกับนางเอกอย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ และในปีหน้าเขาก็กำลังจะมีหนังอีกเรื่อง ความจำสั้นแต่รักฉันยาว ที่เล่นประกบกับ นิน่า-ญารินดา บุนนาค ที่จะออกฉายประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า


ลุคใหม่ เป้ อารักษ์ ในหนังเรื่อง ความจำสั้นแต่รักฉันยาว

ลุคใหม่ เป้ อารักษ์ ในหนังเรื่อง ความจำสั้นแต่รักฉันยาว


          ยังไม่ต้องนับว่าเขาขึ้นทำเนียบหนุ่มฮ็อตคนหนึ่งของเมืองไทยไปแล้วด้วย 

          ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงแค่ปีกว่าๆ เท่านั้นเอง

          เขาจับผมยาวๆ ขึ้นมาทัดหู นิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนจะบอกว่า "มันค่อยๆ มาเรื่อยๆ"

          "แต่จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันนะ" 

          เป้ บอกว่า สำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องของความโชคดีมากๆ ที่มาถึงตรงนี้ได้ โดยไม่ต้องกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนไปเสียก่อน

          "คือผมเองก็ไม่ได้หน้าตาดีมาก ฝีมือก็แบบมีคนเก่งกว่าผมเยอะ แต่ก็แบบว่าโอเครวมแล้วแนวน่ะ ทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสมากกว่า"

          อันที่จริงก่อนหน้านี้ เป้บอกว่า เขาเคยมีงานโฆษณาและถ่ายแบบมาบ้าง แต่ก็ออกไปในทางได้แต่แคสต์เพื่อเลือกตัวมากกว่า และส่วนมากก็ไม่ถูกเลือกด้วยซ้ำ แต่ที่ยังไปๆ อยู่ก็หวังแค่จะได้เงินมาทำเพลงกับเพื่อนๆ เท่านั้น

          แต่แล้ว เงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ แอ๊คติ้งโค้ชของค่ายหนังจีทีเอช ก็เป็นคนที่มีเข้าส่วนเปลี่ยนชีวิตเขา เพราะทำให้คนที่ไม่เคยคิดจะเอาดีทางการแสดงอย่างเขา รู้สึกสนุกกับการแสดงมาจนถึงทุกวันนี้

          "การแสดงหนังมันยากครับ ก่อนเล่นบอดี้ฯ มีการเรียนแอ๊คติ้ง เพราะเมื่อก่อนผมทำไม่ได้ แต่พี่เงาะก็ช่วยผมทำลายบาเรีย ให้ได้รู้ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น แสดงออกได้มากขึ้น ได้เล่นกับอารมณ์ตัวเองด้วย มันก็เลยสนุก"

          นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาชอบการแสดง คือทุกครั้งที่แสดง ความรู้สึกเขาจะเหมือนได้ก้าวข้ามขีดจำกัดอะไรบางอย่างเสมอๆ

          "อย่างในบอดี้ฯ คิดดูสิ ใครจะได้เจอประสบการณ์เจอะผีพี่สาวตัวเองกลับมาหลอกบ่อยๆ" เป้บอกพลางยิ้มกวนๆ แล้วว่า ด้วยจังหวะและความสำเร็จของหนังเรื่องที่สองอย่าง "รักสามเศร้า" เลยทำให้มีบริษัทละครติดต่อเข้ามา จนเขาได้มาเล่นละครคู่กับอั้ม-พัชราภา 

          "มันเป็นเรื่องของการเสนอโอกาสน่ะครับ คือทางโพลีพลัสเขาชวน ที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีหลายที่ติดต่อมา แต่ผมปฏิเสธ แต่คราวนี้มีการคุยกันชัดเจน แล้วผมมองว่าเป็นการช่วยโปรโมตวงผมด้วย เพราะวงก็ไปแสดง ก็เลยลองดู ส่วนสัญญาไม่ได้เซ็น แต่เราก็สัญญาว่าจะไม่ยุ่งที่อื่นถ้าเป็นเรื่องของทีวี แล้วอย่างอื่นเขาก็ไม่ยุ่ง"

          ถ้าจะบอกว่า ส่วนหนึ่งนั้นการรับงานแสดงของเขาเป็นการทำเพื่อวง เป้ว่า ก็อาจจะเกินไป เพราะที่จริงทั้งหมดเป็นงานของตัวเขาเองมากกว่า การโปรโมตวงเป็นแค่ผลพลอยได้ที่ดีเท่านั้น

          "ถ้าผมมีชื่อเสียงมากขึ้น วงก็มีชื่อเสียงมากขึ้น ผมเลยพยายามผลักดัน อย่างเอาวงไปเล่นรักสามเศร้า เอาวงไปเล่นละคร แต่ส่วนหนึ่งนั้นคือคนทำเขาก็อยากได้ด้วย และยินดีที่ละครเขาจะมีลุคใหม่ๆ" 

          แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องแลกมากับการเข้ามาสู่แสงสปอตไลท์ ก็คือบางเรื่องชีวิตเขาก็ยากขึ้นอย่างเรื่องที่เขาคบหากับก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ ก็ถูกจับตามองมากขึ้น

          "ที่จริงก็ไม่ใช่ว่าชอบนะ แต่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะว่าเล่นหนังด้วยกันก็เลยถูกโปรโมต เราก็ต้องปรับตัวกับอะไรที่เข้ามาใหม่เยอะ แต่ว่าตอนหลังก็ดีขึ้น"

          เป้ ยอมรับว่า แรกๆ เขาเองไม่คุ้นนักกับวงการบันเทิงไทย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะรับมือนักข่าวยังไง เพราะเท่าที่เคยคุยกับนักข่าวก็เป็นเรื่องเพลงเท่านั้น

          "ผมเป็นคนพูดตรงไง บางเรื่องผมไม่ต้องพูดก็ได้ใช่ไหม อย่างเขาถามความสัมพันธ์เป็นไงบ้าง เอ่อ..วันนี้เพิ่งทะเลาะกันมา ซึ่งผมก็บอก แต่ตอนหลังก็เริ่มรู้ว่าทำไมดาราต้องตอแหล คือบางเรื่องพูดไปก็ไม่เป็นผลดีกับตัวเอง เราก็ต้องป้องกันตัวเองบ้าง ป้องกันแฟนเราด้วย พ่อแม่เขาด้วย เพราะเรื่องชู้สาวนี่คนไทยเขาถือ แต่ก็ชอบฟังด้วย ผมยังชอบเลย" สารภาพแล้วเขาก็หัวเราะจนตาหยี

          แต่ด้วยระยะเวลากับนักข่าวบันเทิงบางคนที่ออกจะเป็นห่วงกับการตอบคำถามแบบ "ตรงๆ" ของเขาจนอดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำ ตอนนี้เขาจึงไม่ "ตรงเป๊ะ" เหมือนเดิมแล้ว

          "เราต้องปกป้องตัวเองในบางมุม จึงพยายามพูดในสิ่งที่สมควรจะพูด คือผมก็ไม่ได้โกหก แค่บอกในสิ่งที่ควรจะบอก"

          ข้อสำคัญอีกอย่างที่ เป้ บอกว่าเขาได้เรียนรู้แล้ว ก็คืออย่าสนใจข่าวที่เกิดขึ้นให้มากนัก เพราะบางอย่างก็เป็นแค่ส่วนผสมของการโปรโมตเท่านั้น

          แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็ยังไม่คุ้นกับวงการบันเทิงอยู่ดี สังเกตจากอาการตื่นๆ ตอนที่เขาไปร่วมงานแถลงข่าวใหญ่ช่อง 7 เมื่อเร็วๆ นี้

          "มันบ้าคลั่งมากครับ เพิ่งเคยเห็นคนหล่อๆ สวยๆ รวมกันอยู่เป็นร้อยคน แล้วแต่ละคนก็มีออร่ามาก" เล่าพลางทำตาโตให้รู้ว่าอารมณ์เขาน่ะ ตื่นเต้นจริงๆ และถึงแม้ทุกวันนี้เขาจะมีอาชีพเป็นนักแสดงพ่วงขึ้นมาอีกอาชีพหนึ่ง แต่ถึงเวลาจริงเขาก็ไม่คิดว่าจะอยู่ในอาชีพนี้ได้นานสักเท่าไหร่ เพราะทุกวันนี้ก็มีงานเป็นร้านเสื้อผ้าที่หุ้นกับเพื่อนอยู่ ทั้งยังเป็นงานที่เขามองว่าอาจจะเป็นอนาคตของชีวิตก็ได้

          "ผมว่าพอถึงเวลาอายุของมันจะหมดไปเองในเรื่องการแสดง พอมีเด็กหล่อกว่า เซอร์กว่า ผมก็หมดแล้ว ดนตรีน้อยลง คือพออายุมากทำไปอาจจะไม่มีใครฟัง เดี๋ยวนี้วงแต่งตัวเพราะกว่าเพลงอีกนะ แล้วจะดังกว่าด้วย อย่างสเลอร์อายุมันก็มีหมด เพราะเราทำด้วยพลังหนุ่ม ถึงจุดหนึ่งผมคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังทำอยู่ เพียงแต่จะไม่ใช่อาชีพแล้ว เป็นแค่สิ่งที่ผมรัก งานที่จะอยู่คือธุรกิจเล็กๆ ที่ดำรงชีวิต ชีวิตเล็กๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ตอนนี้รายได้คือมาจากการแสดงและดนตรี จากร้านยังไม่ได้สักบาท" เขาหัวเราะตาหยีอีกแล้ว

          "ผมชอบชีวิตที่มีอิสระ ดีกว่าทำงานออฟฟิศแล้วได้เงินเดือนละ 40,000 ได้แค่เดือนละ 5,000 แต่มีอิสระก็ยังดีกว่า นี่ถ้าร้านตัวเองปันผลได้เดือนละ 10,000 หรือน้อยกว่า ผมว่าผมก็อยู่ได้ครับ"

          ชีวิตคนเราบางครั้งเหมือนจะเป็นไปแบบง่ายๆ แต่บางครั้งก็กลับยากซะงั้น เป้เองบอกว่า ชีวิตเขาเองก็ไม่ต่าง อย่างไรก็ตาม เขาก็มีเคล็ดลับในการจัดการชีวิตอยู่บ้าง

          "เหมือนเพลงแรกที่เราเล่นบนเวที ที่จะตื่นเต้นไปหมด ซาวด์ไม่ดี เน่าสุดจริงๆ เหมือนคัตแรกของการแสดงหนัง ที่ยังเล่นไม่ได้ ยังไม่เป็นตัวละครตัวนั้น" นี่คือความยากของ "การเริ่มต้น"

          แต่หลังจากอดทนและพยายามทุกอย่างก็จะดีกว่าเสมอ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
- pantip.com
- GTH

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ วงการบันเทิงและตัวตนของเขา อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2551 เวลา 13:42:36 38,175 อ่าน
TOP