x close

ใจเราเคียงกันนิรันดร


ใจเราเคียงกันนิรันดร


นำแสดงโดย : หานจ้ายสือ, หลินซินหยู, ซุนซิ่ง, หยางจื้อเหว่ย, หยีซ่านหนี, หลินเหม่ยเจิน
เวลาออกอากาศ : ทุกวันวันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 02.00 – 04.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

          ในใจของจ้าวเหยียนจู่มีคำถามที่ไม่เข้าใจติดค้างอยู่ เมื่อครั้งที่เหยียนจู่มีอายุได้สิบขวบ เป็นวัยแห่งการจดจำ เหยียนจู่และเอ่อเสียงผู้พ่อไปที่จื้อลี่ จนได้รู้จักกับตัวแทนขายไวน์ หญิงนักตรวจสอบคุณภาพไวน์และโจโจ้ลูกสาวของเธอได้สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมให้เหยียนจู่ หญิงนักตรวจสอบคุณภาพไวน์เป็นหญิงสาวที่งดงาม อ่อนหวานละมุนละไม ในเวลานั้นโจโจ้มีอายุเพียงหกขวบ เด็กหญิงที่ซุกซน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสว่างสดใสราวกับแสงอาทิตย์ เหยียนจู่ซึ่งเติบโตในครอบครัวที่อบรมเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด ความทรงจำในวัยเยาว์ที่ยากจะลืมได้

          ในเวลานั้นเหยียนจู่สัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของพ่อกับหญิงนักตรวจสอบคุณภาพไวน์ ที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษ เหยียนจู่ซึ่งอยู่ในฐานะลูกได้เรียนรู้ถึงชีวิตอันวุ่นวายของผู้ใหญ่เข้าโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่ทันไรเหยียนจู่และพ่อก็ต้องเดินทางกลับประเทศ นับตั้งแต่กลับถึงบ้าน เหยียนจู่รู้แต่เพียงว่าพ่อเปลี่ยนไปมาก พ่อมีท่าทีเย็นชาต่อแม่ แม้ว่าเป็นครอบครัวนักธุรกิจที่มีพ่อแม่ลูก แต่ในสายตาคนภายนอกก็ถือได้ว่าเป็นครอบครัวตัวอย่าง อย่างไรก็ตามมีเพียงเหยียนจู่เท่านั้นที่รู้ดีว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนต้องแสร้งทำเป็นครอบครัวที่มีแต่ความสุขเท่านั้น

          เหยียนจู่ตระหนักดีว่าเมื่อพ่อแม่อยู่ต่อหน้าเขา พ่อแม่จะดูรักใคร่และให้เกียรติกันและกัน แต่เมื่อสภาพเปลี่ยนแปลงไป ก็ดูเหมือนว่าครอบครัวนี้จะสูญสิ้นซึ่งจิตวิญญาณ เหยียนจู่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหลังจากนี้อีกไม่นานเขาจะต้องถูกส่งไปใช้ชีวิตกับยายที่เกาหลี นับแต่นี้เป็นต้นไปเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างอ้างว้างเดียวดายจนกว่าจะเรียนจบ เมื่อเหยียนจู่สำเร็จการศึกษากลับมา ก็ถามเอ่อเสียงถึงโจโจ้เด็กหญิงที่เขารู้จักที่ไร่องุ่นว่าเวลานี้เธออยู่ที่ใด เป็นอย่างไรบ้าง เอ่อเสียงไม่อยากให้ซินหยุนกลัดกลุ้มใจ ดังนั้นจึงโกหกเหยียนจู่ว่าหลายปีก่อนโจโจ้ตายด้วยโรคติดต่อ เหยียนจู่เศร้าโศกเสียใจมากถึงกับถอดสร้อยคอที่มีจุกไม้ก๊อกออกมาแล้วขว้างลงไปในน้ำ

          ในชีวิตนี้เอ่อเสียงทำความผิดเพียงสองอย่าง ความผิดแรกคือได้รู้จักกับหลีมู่อิน แล้วทำร้ายเธอจนทำให้เธอสูญสิ้นซึ่งความรัก ความผิดที่สองสืบเนื่องมาจากความรักที่มีต่อหลีมู่อิน ทำให้เขาทรยศต่อซินหยุนภรรยาของเขา สิ่งที่เอ่อเสียงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ก็คือเขาไม่สามารถดูแลลูกสาวของหลีมู่อินได้ ทั้งที่ก่อนที่หลีมู่อินจะจากโลกนี้ไปได้ฝากฝังลูกไว้กับเขา แต่เขากลับส่ง อี้เฉียวไปสถานสงเคราะห์

          เอ่อเสียงจำได้ว่าเขาจูงมืออี้เฉียวเดินไปตามถนน ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถดูแลอี้เฉียวได้ ความจริงแล้วเอ่อเสียงอยากเลี้ยงดูอี้เฉียว อยากเห็นเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อย่างน้อยถือว่าชดเชยให้หลีมู่อินได้บ้าง แต่มู่อินยืนกรานว่าไม่อยากจะทำลายครอบครัวของเอ่อเสียง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เอ่อเสียงต้องจำใจปฏิบัติตามความต้องการของมู่อิน โดยส่งอี้เฉียวไปที่สถานสงเคราะห์ ทั้งหมดเป็นความปรารถนาดีของมู่อินที่มีต่อเอ่อเสียง แต่ถึงกระนั้นก็ตามเจิ้งซินหยุนภรรยาของเอ่อเสียงกลับเข้าใจผิดคิดว่าอี้เฉียวเป็นลูกของเอ่อเสียงกับชู้ ทำให้ความแค้นทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลายปีต่อมา ซินหยุนก็ได้พบกับต้นเหตุของปัญหา

          กาลเวลาผ่านไป เนื่องจากสถานพักผ่อนนั่วเวยประสบปัญหาจากการบริหารงานจึงทำให้สถานพักผ่อนนั่วเวย ถูกขายทอดตลาด และเดือดร้อนถึงสถานสงเคราะห์ เย่ฉินซวนผู้อำนวยการสถานสงเคราะห์ตัดสินใจจัดงานการกุศลขึ้นเพื่อรับบริจาคเงินช่วยสถานสงเคราะห์ เซียงอี้แสดงเปียโนในงาน ด้วยความตื่นเต้น ทำให้โรคหัวใจของเซียงอี้กำเริบขึ้นมา อี้เฉียวรู้เรื่องนี้เข้า ด้วยความเป็นห่วงเซียงอี้ อี้เฉียวตัดสินใจถอดสร้อยคอจุกไม้ก๊อกซึ่งถือได้ว่าเป็นยันต์คุ้มกายโดยไม่เคยห่างจากตัวเธอเลยให้เซียงอี้ โดยหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยคุ้มครองเซียงอี้

          หลี่เจี๋ยแพทย์หนุ่มซึ่งหลงรักเซียงอี้ เมื่อรู้ว่าเซียงอี้ไม่สบาย เขาก็รีบมาหาเธอทันที ด้วยความรักที่มีต่อเซียงอี้ ทำให้ หลี่เจี๋ยตามจีบเซียงอี้โดยไม่ลดละ เซียงอี้รู้สึกเบื่อหน่ายและรำคาญใจ ดังนั้นจึงเข้าไปแอบในห้องน้ำหญิงจนได้พบกับซินหยุน ซินหยุนตกตะลึงเมื่อเห็นสร้อยคอจุกไม้ก๊อก ดังนั้นจับจ้องไปที่เซียงอี้โดยไม่ละสายตา

          ที่แท้ซินหยุนได้รับความช่วยเหลือจากหลี่ป๋อกวางเพื่อสนิทของเธอ ถึงได้รู้ว่าเอ่อเสียงให้การอุปการะเด็กกำพร้าคนหนึ่งในสถานสงเคราะห์ ซินหยุนสันนิษฐานว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นเลือดเนื้อเชือไขของเอ่อเสียงกับมู่อิน ซินหยุนเกิดความคิดที่จะให้การอุปการะเด็กกำพร้าขึ้นมา โดยหวังว่าการทำเช่นนี้นั้นจะได้ใจเอ่อเสียงและเหยียนจู่กลับมา แต่เมื่อซินหยุนเห็นสร้อยคอจุกไม้ก๊อก ที่สวมใส่อยู่ที่คอเซียงอี้แล้วเธอก็เข้าใจผิดคิดว่าเซียงอี้เป็นลูกในไส้ของมู่อิน ในที่สุดซินหยุนก็ตัดสินใจให้การอุปการะเซียงอี้โดย ไม่ต้องใคร่ครวญเลย

          เอ่อเสียงไม่รู้ถึงความในแต่อย่างใด ไม่รู้ถึงความอิจฉาของภรรยาและปัญหาที่จะตามมา เขาคิดในทางที่ดี เชื่อคำพูดภรรยา เหยียนจู่เติบโตกับยายที่เกาหลี จากนั้นก็ไปศึกษาต่อที่อเมริกา เอ่อเสียงและซินหยุนมีเหยียนจู่เป็นลูกเพียงคนเดียว เมื่อต้องอยู่กันตามลำพังสามีภรรยาโดยไม่มีลูกอยู่ด้วยก็ทำให้บ้านเงียบสงัด ถ้าหากรับอุปการะเด็กผู้หญิงไว้สักคนน่าจะเป็นการดี

          เซียงอี้จะต้องไปจากสถานสงเคราะห์ ทำให้อี้เฉียวเศร้าโศกเสียใจไม่น้อย อี้เฉียวเป็นเด็กสาวที่จิตใจดีงาม เธอตระหนักดีว่าเซียงอี้อยากมีครอบครัวมานานแล้ว วันนี้มีผู้ใจบุญขออุปการะเซียงอี้ สมควรที่จะดีใจกับเซียงอี้ถึงจะถูก แต่สิ่งที่อี้เฉียวไม่เข้าใจก็คือพ่อบุญธรรมของเซียงอี้นั้นกลับเป็นเอ่อเสียงผู้มีพระคุณที่แอบให้การอุปการะเธอมาโดยตลอด ที่สำคัญยังมีมิตรภาพอันดีกับแม่ของเธออีกด้วย

          ลี่ซีหลงรักอี้เฉียวมาตั้งแต่เล็ก เขารู้ดีว่าอี้เฉียวไม่เคยลืมรักในวัยเด็กเลย แต่เขาก็ไม่นึกเสียใจ เขาดูแลปกป้องคุ้มครอง อี้เฉียวเป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งด้วยความบังเอิญ ลี่ซีเห็นสร้อยคอจุกไม้ก๊อกของเหยียนจู่ซึ่งเหมือนกับสร้อยคอของอี้เฉียว ลี่ซีลังเลใจอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้อี้เฉียวรู้ ที่แท้เหยียนจู่ก็คือเอวิสเด็กหนุ่มในวัยเยาว์ของอี้เฉียวนั่นเอง หลังจากที่อี้เฉียว รู้ความจริงนี้แล้วก็ไปหาเหยียนจู่ บังเอิญเหยียนจู่ไม่อยู่ อยู่แต่เพียงเซียงอี้เท่านั้น เซียงอี้ขอร้องอี้เฉียวอย่าได้เปิดเผยความจริงให้เหยียนจู่รู้ เนื่องจากเธอได้หลงรักเหยียนจู่เข้าแล้ว อี้เฉียวไม่เชื่อเลยว่าเซียงอี้จะขอร้องเธอเช่นนี้ ทันใดนั้นเองโรคหัวใจของเซียงอี้ก็กำเริบขึ้นมา เหยียนจู่กลับมาพอดีจึงพาเซียงอี้ไปส่งโรงพยาบาล หลังจากที่อาการป่วยของเซียงอี้หายห่วงแล้ว อี้เฉียวตัดสินใจทำตามความปรารถนาของเซียงอี้ อี้เฉียวกำชับเซียงอี้ให้ทนุถนอมความสุขในปัจจุบันให้ดี เธอยินดีมอบความสุขนี้ให้ตลอดไป เซียงอี้ซาบซึ้งน้ำใจของอี้เฉียวยิ่งนัก

          อี้เฉียวเดินไปตามถนนด้วยความอ้างว้างเดียวดาย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เวลานี้เธอต้องกล่าวคำลากับความรักในวัยเยาว์ของเธอ นับแต่นี้เป็นต้นไป อี้เฉียวต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ไวน์  จะต้องประสบความสำเร็จในวงการนี้ให้ได้

          สถานพักผ่อนนั่วเวยยังไม่รอดพ้นจากชะตากรรมที่ต้องถูกขายทอดตลาด ลี่ซีขออยู่เป็นคนดูแลความเรียบร้อย ไม่เพียงเท่านั้นลี่ซียังตั้งอกตั้งใจศึกษาการออกแบบตามความใฝ่ฝันของเขาในที่สุดความสามารถของลี่ซีก็เป็นที่จับตามองของศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ศาสตราจารย์แนะนำลี่ซีเข้าทำงานที่บริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียง ทำให้ลี่ซีได้รู้จักกับหวงหมิงจินลูกสาวของเถ้าแก่ใหญ่ การรู้จักกับหมิงจินในครั้งนี้นั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของลี่ซีครั้งยิ่งใหญ่

          หลังจากที่เหยียนจู่รู้ความจริงว่าเซียงอี้คือโจโจ้แล้ว เขาก็เปิดเผยความในใจต่อเธอ เนื่องจากเซียงอี้รู้อยู่แก่ใจดีว่าเธอไม่ใช่โจโจ้ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเหยียนจู่มีช่องว่างขึ้นมา ในวงการไวน์ เหยียนจู่และอี้เฉียวต่างรู้จักกันมานานแล้ว ที่สำคัญคือเหยียนจู่พบว่าจิตใจที่เย็นชาของเขาจะสูญสลายไปในทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดกับอี้เฉียว เขารู้สึกว่า อี้เฉียวมีความสุขกับการดำเนินชีวิต เข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คืออี้เฉียวเป็นคนที่ทำลายความเย็นชาของเขาให้หมดสิ้นไป ทำให้เขาได้รู้จักับชีวิตในอีกมุมมองอื่นที่เขาไม่ได้สัมผัส ที่สำคัญความรู้สึกเหล่านี้เป็นความรู้สึกที่เขาเคยสัมผัสมาก่อน ทำให้เขาหวนนึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์ขึ้นมา ทุกครั้งที่นึกถึงรอยยิ้มของโจโจ้ซึ่งเหมือนกับแสงอาทิตย์ซึ่งสาดส่องขึ้นมาก็จะทำให้เขาหวนนึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์ เซียงอี้เกิดความหึงหวงและไม่พอใจมาก ในที่สุดก็ทำให้เซียงอี้ทำความผิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ทุกคนต้องเสียใจ

          ครั้งแรกที่เอ่อเสียงได้รู้จักกับอี้เฉียวนั้น ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่ถามไถ่ดูแล้วถึงรู้ว่าอี้เฉียวเป็นเด็กกำพร้า เอ่อเสียงรู้ว่าอี้เฉียวมีความสนใจไวน์เป็นพิเศษ มีความรู้เรื่องไวน์เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงตัดสินใจชวนอี้เฉียวมาเป็นผู้จัดการร้านไวน์ อี้เฉียวเกรงว่าเซียงอี้จะเข้าใจผิด ดังนั้นจึงปฏิเสธความหวังดีของเอ่อเสียงไป

          วันเกิดของอี้เฉียว ลี่ซีจัดงานวันเกิดซึ่งยากจะลืมได้ให้อี้เฉียว หลังจากที่ทุกคนที่มาร่วมงานกลับไปอย่างมีความสุขแล้ว ลี่ซีก็หยิบตั๋วเครื่องบินไปจื้อลี่ออกมา จากนั้นลี่ซีก็บอกว่าเขายินดีทำทุกอย่างเพื่อเธอ อี้เฉียวกอดลี่ซีด้วยความดีใจ เธอบอกลี่ซีว่าเพียงเท่านี้ก็พอใจแล้ว

          รุ่งเช้า อี้เฉียวเดินอยู่ในไร่อง่น เธอตกใจมากเมื่อพบเห็นเอ่อเสียงเดินอยู่ในไร่องุ่น เอ่อเสียงพบว่าอี้เฉียวก็อยู่ในไร่องุ่นเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงถามว่าอี้เฉียวมาที่นี่ได้อย่างไร อี้เฉียวโกหกว่าเซียงอี้เล่าให้เธอฟังว่าสถานที่นี้สวยงามมาก ดังนั้นจึงมาดูให้เห็นกับตา เอ่อเสียงจับตาดูพฤติกรรมของอี้เฉียว ทำให้เขารู้ว่าอี้เฉียวรักสถานที่แห่งนี้มาก ก่อนที่เอ่อเสียงจะเดินทางกลับไต้หวัน เอ่อเสียงถามอี้เฉียวว่าเธอคือโจโจ้ใช่หรือไม่ เดิมทีนั้นอี้เฉียวก็ปฏิเสธ ต่อมาถึงได้เปิดเผยความจริงว่าเธออยากให้เซียงอี้สปรารถนา ดังนั้นจึงให้เซียงอี้สวมรอยเป็นเธอ

          เอ่อเสียงพาอี้เฉียวกลับมาด้วย ทำให้เซียงอี้เกิดความไม่สบายใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจเปิดเผยความจริงให้เอ่อเสียงรู้ว่าเธอไม่ใช่โจโจ้ แต่ถึงกระนั้นก็ตามเธอก็รักเหยียนจู่ด้วยความจริงใจ    เอ่อเสียงบอกเซียงอี้ว่าไม่ควรปกปิดความจริงอีกต่อไป เซียงอี้ขอเวลาให้เธอบ้าง เธอจะต้องเปิดเผยความจริงออกมาอย่างแน่นอน เอ่อเสียงพยักหน้ายอมรับ

          ป๋อกวางหลงรักซินหยุนมาตั้งแต่หนุ่มแล้ว แต่เนื่องจากซินหยุนรักเอ่อเสียง จึงทำให้ป๋อกวางต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจเท่านั้น สืบเนื่องมาจากเอ่อเสียงนอกใจซินหยุน ทำให้ป๋อกวางเริ่มจีบซินหยุน ทุกครั้งที่ซินหยุนมีเรื่องทุกข์ร้อนก็จะมาปรับทุกข์ให้ป๋อกวางฟัง ซินหยุนบอกป๋อกวางว่าการที่เธอตัดสินใจอุปการะเซียงอี้นั้นถือเป็นความผิดครั้งยิ่งใหญ่ของเธอ การทำเช่นนี้นั้นไม่เพียงไม่ทำให้เอ่อเสียงและเหยียนจู่กลับมาหาเธอ ทั้งสองกลับให้ความสำคัญเซียงอี้มากกว่าเธอเสียอีก

          ป๋อกวางสุดที่จะทนต่อไปได้จึงตัดสินใจบอกรักซินหยุน แต่ซินหยุนกลับบอกป๋อกวางด้วยความเย็นชาว่าเธอรักเอ่อเสียงเพียงคนเดียวเท่านั้น ขอให้ป๋อกวางอย่าได้เข้าใจผิดคิดกับเธอมากกว่าความเป็นเพื่อน ป๋อกวางเปลี่ยนความรักเป็นความแค้น หลังจากที่เอ่อเสียงตายแล้ว ป๋อกวางติดต่อเลขาเพื่อทำลายบริษัทสกุลจ้าว แต่เวรกรรมมีจริง ป๋อกวางถูกดำเนินคดี ไม่ถอนใบอนุญาตไม่สามารถเป็นแพทย์ได้อีกต่อไป ที่สำคัญยังไม่ได้รับการยกโทษจากซินหยุน ป๋อกวางรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป โชคดีที่ป๋อกวางผิดแล้วรู้จักแก้ไข ทำให้ทุกคนต่างให้อภัยในความผิดที่เขาทำลงไป ต่อมา หลี่เจี๋ยเสียสละครั้งยิ่งใหญ่เพียงต้องการช่วยเซียงอี้ ป๋อกวางช่วยหลี่เจี๋ยจนผ่านพ้นวิกฤตไปได้

          เซียงอี้เกิดความหึงหวงขึ้นมาเมื่อเห็นเหยียนจู่ดีต่ออี้เฉียวเป็นพิเศษ เซียงอี้สร้างความอึดอัดใจให้อี้เฉียวหลายต่อหลายครั้ง อี้เฉียวรู้สึกรันทดเมื่อเห็นเซียงอี้เปลี่ยนแปลงไปมากมายถึงเพียงนี้ ไม่ควรเลยที่ยอมให้เซียงอี้สวมรอยเป็นเธอ

          ในที่สุดเหยียนจู่และเซียงอี้ก็หมั้นกัน แต่ในงานหมั้น ทันทีที่เซียงอี้เห็นอี้เฉียงมาร่วมงาน เธอก็แสร้งทำเป็นลมหมดสติ  เซียงอี้ฉวยโอกาสที่เธออยู่กับอี้เฉียวตามลำพังนั้นต่อว่าอี้เฉียวเป็นการใหญ่ ถ้าหากอี้เฉียวต้องการให้เธอมีความสุข ก็ขอให้อี้เฉียวอย่าได้ปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกต่อไป เอ่อเสียงได้ยินคำพูดของเซียงอี้ที่พูดกับอี้เฉียว ดังนั้นจึงรั้งคนทั้งสองเอาไว้ เอ่อเสียงพูดคุยกับเซียงอี้ในห้องพัก เมื่อถึงห้องพัก เอ่อเสียงเสียใจมากที่เห็นเซียงอี้จิตใจคับแคบ อี้เฉียวยอมให้เซียงอี้สวมรอยเป็นเธอแล้วเพื่อให้สมรักกับเหยียนจู่ เหตุใดเธอจึงไม่พอใจ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเขาควรจะเปิดเผยความจริงให้เหยียนจู่รู้เสียที

          เซียงอี้ได้ยินเช่นนั้นจึงร้องออกมาว่าไม่มีใครจะมาทำลายความสุขของเธอได้ ถึงแม้จะเป็นเอ่อเสียงก็ตาม เอ่อเสียงตะลึงกับคำพูดของเซียงอี้ ด้วยความโกรธทำให้โรคหัวใจของเอ่อเสียงกำเริบขึ้นมา เอ่อเสียงหยิบยาขึ้นมากิน แต่ไม่ทันระวังทำขวดยาตกพื้น เอ่อเสียงบอกเซียงอี้ให้หยิบยาให้เขา ด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ ทำให้เซียงอี้ไม่ยอมช่วยเหลือโดยปล่อยให้เอ่อเสียงขาดใจตาย เซียงอี้เห็นเอ่อเสียงสิ้นใจ แม้ว่าเธอจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่เธอก็สามารถเดินเข้าไปในงานหมั้นโดยแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ จนกระทั่งซินหยุนมาพบว่าเอ่อเสียงสิ้นใจตายในห้องพัก

          การตายของเอ่อเสียง ทำให้เหยียนจู่สงสัยว่าเป็นฝีมือของป๋อกวางและซินหยุนที่ร่วมมือกันซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูว่าป๋อกวางและซินหยุนมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษ ซินหยุนยืนยันว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เหยียนจู่กลับไม่เชื่อและไม่ให้อภัยเธออีกด้วย ซินหยุนสิ้นหวัง เดิมทีคิดฆ่าตัวตาย แต่อี้เฉียวกลับมาพบเห็นเข้าโดยขัดขวางซินหยุนไว้ อี้เฉียวพาซินหยุนไปยังห้องเช่าของเธอ โดยบอกให้เธอพักที่นี่ไปก่อน

          หลังจากที่เอ่อเสียงตายแล้ว เหยียนจู่ก็ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทสกุลจ้าว แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนสักเท่าใดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานเจียง ถึงกับออกปากว่าจะได้เห็นดีกัน บริษัทสกุลจ้าวถูกป๋อกวางทำลาย ทำให้เหยียนจู่ถึงกับต้องขายกิจการสกุลจ้าว เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ตามเหยียนจู่ก็ไม่ยอมขายร้านไวน์ที่เอ่อเสียงรักและหวงแหนมากไป แต่ประธานเจียงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวถึงกับทุบราคาไวน์ลง ทำให้ราคาไวน์ตกต่ำ การที่ทำเช่นนี้นั้นเพราะต้องการตัดช่องทางตลาดไวน์

          ร้านไวน์ถูกประธานเจียงคุกคามอย่างหนักถึงขั้นต้องปิดร้านไปในที่สุด จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นกับคนในครอบครัวของประธานเจียง เหยียนจู่เกลี้ยกล่อมประธานเจียงเห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของไวน์ ที่สำคัญประธานเจียงยังพบว่าเหยียนจู่เป็นคนตรงไปตรงมา ด้วยเหตุนี้เองก่อนที่ประธานเจียงจะกลับไปดูแลครอบครัว ประธานเจียงได้ยกบริษัทให้เหยียนจู่ดูแล แม้ว่าสร้างความลำบากให้เหยียนจู่ แต่เหยียนจู่ก็ไม่ท้อกลับทำให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีก

          ในวันเปิดพินัยกรรมของเอ่อเสียง อี้เฉียวซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับเอ่อเสียงเลยกลับได้รับไร่องุ่นจากเอ่อเสียง ต่อมาสืบเนื่องจากเกิดวิกฤตกับบริษัทสกุลจ้าว อี้เฉียวต้องตัดใจขายไร่องุ่น เพื่อให้เหยียนจู่ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ พินัยกรรมของเอ่อเสียง ทำให้เซียงอี้เกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมา รวมทั้งซินหยุนและเหยียนจู่ก็เกิดความกังขาเช่นกัน เซียงอี้ด่าทออี้เฉียวว่าทำทีให้เธอสมความปรารถนา แต่ความจริงแล้วกลับต้องการฮุบทรัพย์สมบัติของสกุลจ้าวไว้เอง อี้เฉียวสุดจะทนต่อไปได้ขอให้เซียงอี้ให้เกียรติเธอบ้าง ไม่เช่นนั้นเธอจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้ทุกคนรู้ เซียงอี้เคียดแค้นมากเมื่อได้ยินเช่นนั้นไม่คิดว่าอี้เฉียวจะใช้ไม้ตายนี้กับเธอ

          เซียงอี้ไปที่บ้านอี้เฉียวเพื่อบอกให้ซินหยุนรู้ว่าการที่เอ่อเสียงมอบไร่องุ่นให้อี้เฉียวนั้น สืบเนื่องมาจากการที่อี้เฉียวเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่งของเอ่อเสียง เอ่อเสียงนอกใจซินหยุนโดยไม่ใยดีว่าจะทำร้ายจิตใจซินหยุนสักเพียงใด ซินหยุนสะเทือนใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เมื่ออี้เฉียวกลับถึงบ้าน ซินหยุนผลักอี้เฉียวด้วยความโกรธ จากนั้นก็ถามอี้เฉียวว่าคำพูดของเซียงอี้เป็นความจริงหรือไม่ ด้วยความที่ไม่ระวังซินหยุนผลักอี้เฉียวตกบันได ทำให้อี้เฉียวหมดสติไป

          เหยียนจู่ได้รับโทรศัพท์จากซินหยุน เหยียนจู่รีบรุดมาหาอี้เฉียวด้วยความร้อนใจ จากนั้นก็อุ้มเธอไปส่งโรงพยาบาล หลังจากที่อี้เฉียวได้สติขึ้นมาแล้ว อี้เฉียวกลับไม่บอกเหยียนจู่ว่าซินหยุนทำร้ายเธอ ทำให้ซินหยุนซาบซึ้งน้ำใจยิ่งนัก ต่อมา ซินหยุนรู้ความจริงว่าอี้เฉียวก็คือโจโจ้ เมื่อรู้ความจริงเช่นนี้แล้วซินหยุนก็ให้กำลังใจเหยียนจู่ทนุถนอมอี้เฉียวไว้ให้ดี

          ระหว่างที่อี้เฉียวพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นเอง เหยียนจู่มาเยี่ยมอี้เฉียวทุกวันจนห่างเหินกับเซียงอี้ หลี่เจี๋ยเรียกร้องความเป็นธรรมให้เซียงอี้ หลังจากที่เซียงอี้รู้ว่าหลี่เจี๋ยไปเล่นงานเหยียนจู่แล้ว เธอก็ตำหนิติเตียนหลี่เจี๋ยเป็นการใหญ่ หลี่เจี๋ยไม่พอใจที่เหยียนจู่ปฏิบัติต่อเซียงอี้ แรกเริ่มเดิมทีนั้นหลี่เจี๋ยก็ปฏิญาณว่าเขาจะรักมั่นต่อเซียงอี้เพียงคนเดียว แต่ในเวลานี้มีหญิงอื่นข้างกายเขาแล้ว ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป อี้เฉียวสุดที่จะทนได้ที่เห็นเหยียนจู่ถูกทรยศ ดังนั้นจึงตัดสินใจเปิดเผยความจริงว่าเธอคือโจโจ้ออกมา ทุกคนตกใจมากเมื่อรู้ความจริง ทุกคนทดสอบว่าอี้เฉียวคือโจโจ้จริงหรือไม่ แต่แล้วก็พบว่าเธอเป็นตัวจริง เซียงอี้ยอมรับว่าเธอสวมรอยเป็นโจโจ้ แต่ในเวลานี้เธอจะหมั้นกับเหยียนจู่ เป็นภรรยาที่ยังไม่เข้าพิธีของเหยียนจู่ ถ้ายกเลิกการแต่งงาน เธอจะฆ่าตัวตาย

          อีกด้านหนึ่งนั้น สืบเนื่องมาจากความพยายามและพรสวรรค์ ทำให้ลี่ซีประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แม้ว่าเขาและ อี้เฉียวเป็นแฟนกัน แต่การปรากฏตัวของเหยียนจู่นี้เอง ทำให้ลี่ซีเกรงว่าจะต้องสูญเสียอี้เฉียวไป แม้ว่าเขาจะบอกตัวเองมาตลอดว่าเชื่อใจอี้เฉียว แต่เหตุการณ์หลายอย่างก็ทำให้ลี่ซีตัดสินใจไปศึกษาต่อต่างประเทศ หลายวันต่อมา ลี่ซีประสบอุบัติเหตุที่ต่างประเทศ หมดสติไปเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากหมิงจินรักลี่ซีมาก และการไปศึกษาต่อต่างประเทศของลี่ซีนั้นก็เป็นความคิดเธอ ทำให้เธอต้องรับผิดชอบดูแลลี่ซี ถึงกระนั้นก็ตามหมิงจินก็ไม่ได้บอกอี้เฉียวรู้ว่าลี่ซีประสบอุบัติเหตุ ลี่ซีเดินทางไปอเมริกาโดยผิดใจกับพ่อของเธอ

          อี้เฉียวไม่ได้รับการติดต่อจากลี่ซีเลย ทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงลี่ซีขึ้นมา ลี่เฟยไปหาเหยียนจู่เพื่อสืบข่าวคราวของลี่ซี เหยียนจู่ไม่อยากให้อี้เฉียวและลี่ซีต้องเป็นห่วง ดังนั้นไปตัดสินใจเดินทางไปอเมริกาจนพบว่าลี่ซีประสบอุบัติเหตุยังไม่ได้สติเลย หมิงจินโกหกเหยียนจู่ว่าลี่ซีดื่มเหล้าจนเมามายและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ ลี่ซีแสดงความรับผิดชอบโดยการแต่งงานกับเธอ อย่างไรก็ตามหมิงจินก็ยอมรับว่าเธอรักลี่ซี เพื่อลี่ซีแล้ว เธอไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย เหยียนจู่ซาบซึ้งใจที่หมิงจินมีต่อลี่ซี เหยียนจู่บอกหมิงจินว่าเขายินดีรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของลี่ซี ขอเพียงลี่ซีฟื้นได้สติขึ้นมาโดยเร็ว อย่าได้ผิดต่อความรักที่อี้เฉียวและหมิงจินมีให้เขา เหยียนจู่รับปากกับหมิงจินว่าเพื่ออี้เฉียวแล้ว ก่อนที่ลี่ซีจะฟื้นได้สติขึ้นมา เขาจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับลี่ซีให้อี้เฉียวรู้เป็นอันขาด

          หลี่เจี๋ยรักเซียงอี้มาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธออยู่ที่สถานสงเคราะห์ แม้ว่าภายหลังคนที่เซียงอี้รักจะไม่ใช่เขาก็ตาม ในใจของหลี่เจี๋ยก็ยังคงมีเซียงอี้เพียงคนเดียวเท่านั้น หลังจากที่ฐานะของเซียงอี้ถูกเปิดเผยแล้ว หลี่เจี๋ยก็ไม่ได้ทอดทิ้งเธอไปเพียงเพราะคำโกหกของเธอ ในทางกลับกันหลี่เจี๋ยกลับให้กำลังใจเซียงอี้ให้เป็นเซียงอี้ที่มีจิตใจดีงามคนเดิม ต่อมา เซียงอี้ใช้ประวัติการตรวจรักษาปลอมหลอกลวงเหยียนจู่ให้แต่งงานกับเธอ นึกไม่ถึงว่าเหยียนจู่กลับรู้ความจริงเสียก่อน

          เซียงอี้ถูกซินหยุนไล่ออกจากบ้าน หลี่เจี๋ยก็ยังคงดูแลเซียงอี้เป็นอย่างดี ในที่สุด เซียงอี้ก็ต้องยอมแพ้ต่อความจริงใจของหลี่เจี๋ย เธอยินดีใช้ชีวิตกับหลี่เจี๋ยจนวันตาย แม้ว่าต่อมาเรื่องที่เซียงอี้เป็นเหตุให้เอ่อเสียงถึงแก่ความตายนั้นถูกเปิดเผยออกมา แม้ว่าหลี่เจี๋ยจะไม่สามารถทำใจยอมรับเซียงอี้ได้ แต่หลี่เจี๋ยก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่าเขารักเซียงอี้มาก หลังจากที่ซินหยุนให้อภัยเซียงอี้แล้ว หลี่เจี๋ยก็ใจอ่อนทำใจยอมรับเซียงอี้ ขณะที่เซียงอี้คิดว่าปัญหาทุกอย่างยุติลงด้วยดีแล้วนั่นเอง นึกไม่ถึงว่าโรคหัวใจของเธอกลับทรุดลง เซียงอี้ไม่อยากให้หลี่เจี๋ยต้องเดือดร้อน ดังนั้นจึงตัดสินใจไปจากโรงพยาบาล

          หลังจากที่หลี่เจี๋ยรู้ว่าเซียงอี้หลบหนีไปจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็ออกตามหาเซียงอี้อย่างจ้าละหวั่น ระหว่างทางนั่นเอง ขณะที่เซียงอี้กำลังจะข้ามถนน ได้มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้าใส่เซียงอี้ด้วยความเร็วสูง หลี่เจี๋ยช่วยชีวิตเซียงอี้ไว้จนตัวเองต้องตาย เซียงอี้สะเทือนใจมากกับการตายของหลี่เจี๋ย เดิมทีเธอก็จะคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่กลับถูกป๋อกวางขัดขวางไว้ ป๋อกวางบอกเซียงอี้ว่าเขารับปากหลี่เจี๋ยว่าจะดูแลเซียงอี้ ที่สำคัญชีวิตของเซียงอี้เป็นของหลี่เจี๋ย เซียงอี้ควควรหวงแหนชีวิตของเธอเอาไว้ เซียงอี้ได้ยินเช่นนั้นจึงตัดสินใจมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อหลี่เจี๋ย

          หนึ่งปีต่อมา ซินหยุนและป๋อกวางคบหากัน เซียงอี้ไปยังสถานที่ที่ต้องสูญเสียหลี่เจี๋ยไป เซียงอี้ตัดสินใจช่วยงานคลินิกของป๋อกวาง ความสัมพันธ์ระหว่างเหยียนจู่และอี้เฉียวแนบแน่นขึ้น ในที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจแต่งงานกัน ลี่ซีได้รับกำลังใจจากหมิงจิน ทำให้ฟื้นได้สติขึ้นมา ลี่ซีขอบคุณหมิงจินที่ทำทุกอย่างเพื่อเขา ที่สำคัญลี่ซีพบว่าเขาหลงรักหมิงจินเข้าแล้ว ทุกคนต่างลงเอยด้วยดี พลาดไม่ได้กับภาพยนตร์จีนไต้หวันที่จะมาสั่นสะเทือนหัวใจคุณใน "ใจเราเคียงกันนิรันดร" ทุกคืนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 02.00 - 04.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ใจเราเคียงกันนิรันดร โพสต์เมื่อ 24 ธันวาคม 2551 เวลา 10:05:13 13,311 อ่าน
TOP