อุเทนฯ - ปทุมวันไล่ยิงหน้าห้าง สองอธิการบดีถกยุติศึกวันนี้ (คมชัดลึก)
เปิดศึกอีกรอบ ช่างกลปทุมวันยกพวกตะลุมบอนอุเทนฯ หน้าห้างมาบุญครอง ทั้งมีด ไม้ หินปากระจกห้างแตกเสียหาย ตำรวจเข้าระงับยังถูกปิดล้อม ก่อนขอกำลังเสริมสลายเหตุ รวบเด็กอุเทนฯ ได้ 3 ค้นตัวพบทั้งมีด ปืน ศธ.เต้น จี้ผู้บริหารชี้แจงด่วน เผย 11 กุมภาพันธ์ มีนัดหารืออธิการบดี 2 สถาบันอยู่แล้ว แต่กลับมาเกิดเหตุเสียก่อน
นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (ช่างกลปทุมวัน) และนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ยกพวกก่อเหตุวิวาทกันอีกรอบ หลังจากเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ทำหน้าที่กาวใจ โดยนัดหมายให้นักศึกษาทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันด้วยการจับมือ พร้อมแลกดอกกุหลาบแก่กัน แต่นักศึกษาทั้งสองฝ่ายกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่สบตา หรือพูดคุยกันแต่อย่างใด
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ณรงค์เดช มูลศาสตร์สาทร รอง ผกก.ปป. ได้รับแจ้งเหตุนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กว่า 50 คน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกระจกห้างสรรพสินค้ามาบุญครองและบริษัทใกล้เคียงได้รับความเสียหาย จากการตรวจค้นตัวนักศึกษา พบอาวุธมีด 2 เล่ม และปืน 1 กระบอก อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนักศึกษาทั้งสองสถาบันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขับไล่ให้สลายตัวแล้ว โดยมีกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งเฝ้าระวังบริเวณจุดเกิดเหตุ
เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากนักศึกษาจากทั้งสองสถาบันยกพวกฝั่งละกว่า 50 คน ชกต่อยตะลุมบอนกันบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ทั้งเจ้าหน้าที่สายตรวจและจราจรกว่า 20 นาย ช่วยกันเข้าระงับเหตุ ก่อนควบคุมตัวกลุ่มนักศึกษาที่ก่อเหตุวุ่นวายดังกล่าวได้ 3 ราย ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย พร้อมอาวุธปืนขนาด 32 มม. จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาทั้งสองสถาบันเปิดศึกวิวาทกันตั้งแต่บริเวณสะพานลอยข้ามแยกปทุมวัน ซึ่งอยู่หัวมุมของห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง โดยกลุ่มนักศึกษาจากอุเทนถวายจำนวนหนึ่ง เข้าไปชกต่อยกลุ่มนักศึกษาช่างกลปทุมวัน ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาช่างกลปทุมวันอีกจำนวนหนึ่งจะยกพวกมากว่า 50 คน เพื่อมาช่วยเพื่อน ทำให้กลุ่มนักศึกษาอุเทนถวายที่มาก่อเหตุวิ่งหนีเข้าไปหลบในสถาบันตัวเอง
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรซึ่งอยู่ประจำป้อมจราจร แยกปทุมวัน จำนวน 2 นาย เห็นเหตุการณ์ก็พยายามวิ่งเข้าไประงับเหตุตะลุมบอน และพยายามเข้าควบคุมตัวนักศึกษา แต่ก็ถูกกลุ่มนักศึกษาช่างกลปทุมวันกว่า 50 คน เข้าปิดล้อม เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามเข้าระงับเหตุปฏิบัติหน้าที่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายต้องวิทยุขอกำลังเสริมจากสายตรวจ สน.ปทุมวัน จากนั้นกลุ่มนักศึกษาช่างกลปทุมวันจำนวนดังกล่าวยกพวกเดินจากหัวมุมแยกปทุมวัน ผ่านหน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครองจนถึงโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส โดยมีนักศึกษาบางคนเดินลงไปบนถนนเพื่อเข้าไปยั่วยุกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวายภายในรั้วมหาวิทยาลัยซึ่งจับกลุ่มอยู่ในรั้วนับร้อยคน
เมื่อกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวายถูกกลุ่มช่างกลปทุมวันยั่วยุ จึงกรูกันออกมาจากรั้วสถาบันตัวเองกว่า 50 คน แล้วเกิดตะลุมบอนชกต่อยกันขึ้นที่หน้าโรงแรมปทุมวันฯ จนถึงหน้าห้างมาบุญครอง และยังมีบางส่วนเข้าไปต่อยตีกันภายในห้างมาบุญครอง ทำให้ประชาชนในละแวกดังกล่าว รวมถึงคนที่อยู่ในห้างมาบุญครองพากันตื่นตกใจ เพราะกลัวจะถูกลูกหลง เนื่องจากระหว่างที่นักศึกษาทั้งสองกลุ่มก่อเหตุวิวาทกัน ก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้ง นอกจากนี้นักศึกษาทั้งสองสถาบันยังมีอาวุธอย่างอื่น เช่น ท่อนไม้ ก้อนหิน มีด เข้าปะทะกัน เหตุตะลุมบอนดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 10 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย เข้ามาระงับเหตุ ทำให้นักศึกษาทั้งสองสถาบันแตกฮือ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างที่นักศึกษาทั้งสองสถาบันก่อเหตุตะลุมบอนกันอยู่ ทางห้างมาบุญครองได้ประกาศปิดประตูห้างทุกด้าน รวมทั้งร้านค้าที่อยู่ภายในห้างก็ปิดด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักทุกเส้นทาง และภายหลังเหตุการณ์วิวาทของนักศึกษาทั้งสองสถาบันสงบลง ปรากฏว่าบริเวณประตูเข้าห้างมาบุญครองประตูที่ 3 กระจกด้านบนของประตูซึ่งเป็นกระจกนิรภัยอย่างหนาแตกละเอียด เป็นช่องกว้างประมาณ 1 เมตร เนื่องจากถูกขว้างปาก้อนหินขนาดใหญ่ หลังจากนั้นพนักงานทำความสะอาดของห้างมาบุญครองก็มาเก็บกวาดทำความสะอาด ก่อนจะเปิดบริการตามปกติ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงตื่นตกใจกันอยู่
พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุวิวาทของนักศึกษาทั้งสองสถาบันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังเข้าระงับเหตุ โดยสามารถควบคุมตัวนักศึกษาได้ 3 คน คือ นายสว่างพงศ์ ธรรมจารย์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ขนาด 32 มม. 1 กระบอก นายบัณฑิต ต่ายวิจิตร อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก พร้อมอาวุธมีด 1 เล่ม และนายศิริวงศ์ ทองส่งโสม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก พร้อมอาวุธมีด 1 เล่ม
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังเก็บอาวุธมีดจากที่เกิดเหตุได้อีก 3 เล่ม พร้อมกัญชาห่อเล็กอีก 1 ห่อ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ปทุมวัน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บขณะเข้าระงับเหตุ ถูกรถประชาชนเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ ทราบชื่อคือ ด.ต.สหทัย วงศ์คะสุ่ม ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ปทุมวัน
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแก้แค้นเอาคืน ซึ่งทั้งสองสถาบันเป็นอริกันมานาน และเจ้าหน้าที่สามารถจับนักศึกษาที่ก่อเหตุได้ 3 คน เป็นนักศึกษาจากอุเทนถวายทั้งหมด และแจ้งข้อหาต่อนายสว่างพงศ์ พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในเมือง หรือที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และแจ้งข้อหานายบัณฑิตกับนายศิริวงศ์ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หรือที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะแจ้งข้อหาทั้งสามร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาททำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวจะดำเนินการเอาผิดต่อกลุ่มนักศึกษาที่ก่อเหตุวุ่นวายทั้งสองสถาบัน และจะนำภาพจากกล้องวงจรปิดและวิดีโอคลิปจากโทรศัพท์มือถือที่พยานในที่เกิดเหตุบันทึกเอาไว้ มาเป็นหลักฐานและติดตามตัวบุคคลที่ปรากฏในภาพมาดำเนินคดี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเสด็จฯ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จฯ มายังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเหตุวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนขบวนเสด็จไม่กี่นาที
ด้านนายทอม (สงวนชื่อ-สกุลจริง) ผู้บันทึกภาพวิดีโอคลิปจากโทรศัพท์มือถือ เล่าว่า เป็นพนักงานของห้างมาบุญครอง ก่อนเกิดเหตุสังเกตเห็นนักศึกษาช่างกลจับกลุ่มกันอยู่อย่างผิดสังเกต ก็คิดในใจว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ จึงเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปไว้ และไม่นานก็มีกลุ่มนักศึกษาอีกกลุ่มวิ่งกรูมาจากอีกฝั่งถนน แล้วเกิดตะลุมบอนกันขึ้น ทำให้ประชาชนที่มาเดินซื้อของภายในห้างพากันตื่นตกใจ ไม่กล้าออกไปไหน ได้แต่อยู่ในห้าง รวมถึงประชาชนที่อยู่ข้างนอกก็พากันวิ่งหลบ เพราะกลัวจะถูกลูกหลง
ขณะที่ จ.ส.ต.ธัญอมร หนูนารถ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ปทุมวัน หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากวิทยุว่ามีเหตุนักศึกษาตีกันจำนวนมาก บริเวณหน้าห้างมาบุญครอง ซึ่งขณะนั้นกำลังรอรับเสด็จฯ อยู่บริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังได้รับแจ้งขอกำลังเสริม จึงรีบไป ซึ่งมีเพียงกระบองติดตัว เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบกลุ่มนักศึกษาจำนวนมากกำลังชกต่อยกัน แต่ตนก็ไม่สามารถเข้าไปห้ามปรามได้ เนื่องจากกลุ่มนักศึกษามีจำนวนมาก จึงเข้าไปขอยืมอาวุธปืนจากตำรวจจราจร เพื่อเอาไปขู่กลุ่มนักศึกษาให้หยุดก่อเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่สายตรวจมาช่วยกันอีกหลายนาย ทำให้กลุ่มนักศึกษาที่ตีกัน แยกย้ายหนี
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังให้ ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน เมื่อทราบแล้วจึงจะสามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม จะกำชับให้ทั้งสถานศึกษา ตำรวจ หน่วยเสมารักษ์ กวดขันเข้มงวดมากขึ้น เพราะเข้าใจว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้น ใหม่ๆ ก็เข้มงวดกัน แต่พอเรื่องผ่านไปก็อาจจะเข้มงวดน้อยลง ทำให้เกิดเหตุขึ้นมาได้
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สถานศึกษาทั้งสองแห่งที่ยกพวกตีกันนั้น ก็อยู่ในบัญชีสถานศึกษาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าห้างมาบุญครองก็อยู่ในบัญชีจุดเสี่ยง มีโอกาสที่เด็กจะปะทะกันได้บ่อย โดยย่านนี้ก็มีตั้งแต่มาบุญครอง สยามสแควร์ และสามย่าน ทั้งนี้เมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้วจึงจะตอบได้ว่าผู้บริหารสถานศึกษาจะมีความผิดฐานปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันนักเรียน นักศึกษา ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ เพราะบางครั้งก็เป็นเรื่องสุดวิสัยที่จะไปป้องกันเด็กยกพวกตีกันจริงๆ
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้โทรศัพท์ไปหา รศ.ดร.สมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ขอให้สรุปเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งรายงานให้ตนทราบ เพื่อจะได้รายงานต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ต่อไป เพราะที่ผ่านมาผู้บริหารของ 2 สถาบัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำหนดที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมเอเชีย เพื่อหาทางแก้ปัญหาระหว่าง 2 สถาบันอยู่แล้ว แต่มาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นก่อน อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ต้องมาดูว่าใครผิด และไม่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องนโยบายและมาตรการป้องกันนักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท และทำร้ายกันหรือไม่
รศ.ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. จะมีการหารือร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่โรงแรมเอเชีย เพื่อหาแนวทางข้อยุติปัญหาการระแวงกันและกัน โดยหากสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่ได้ ก็คงให้นักศึกษาต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องเกี่ยวข้องกัน อีกทั้งหากใครทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ก็จะถูกทำโทษโดยการไล่ออกจากสถาบันการศึกษา
ทั้งนี้การพูดคุยหารือกันนั้น เรื่องนี้มีการวางแนวทางไว้นานแล้วที่จะให้อธิการบดีทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน และบอกกล่าวให้นักศึกษาได้รับรู้ถึงแนวทางแก้ไข สำหรับการยกพวกตีกันที่บริเวณมาบุญครองในครั้งนี้ ได้สอบถามไปยังนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งนักศึกษาบอกว่า มาบุญครองนั้นเป็นถิ่นของอุเทนถวาย และอุเทนถวายเคยประกาศไว้ว่าไม่ให้เด็กปทุมวันเข้ามาเหยียบ การปะทะกันครั้งนี้ เพราะนักศึกษาจากปทุมวันได้ไปเดินเที่ยวเล่น และเจอกับเด็กอุเทนถวายเข้า ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว เรื่องนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าจำนวนเด็กในส่วนของปทุมวันมีทั้งหมดกี่คน และสาเหตุแท้จริงของการยกพวกตีกันในครั้งนี้เกิดจากอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ พบว่ายังมีชายที่ไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันทั้งสองถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะอีก 1 คน โดยมีพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ทราบชื่อคือ นายสุเทพ วิวัฒนเจริญชัย อายุ 35 ปี พนักงานของร้านมณธิราจิวเวลรี่
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุนายสุเทพเดินอยู่ชั้น 2 ของห้างมาบุญครอง มีกลุ่มนักศึกษาไม่ทราบสถาบันประมาณ 4-5 คน ที่หนีตำรวจเข้ามาในห้าง เมื่อมาพบนายสุเทพ เข้าใจผิดคิดว่านายสุเทพเป็นนักศึกษาสถาบันคู่อริ จึงวิ่งกรูเข้ารุมชกต่อย ก่อนฉกเอาโทรศัพท์มือถือของนายสุเทพ แล้วหลบหนีไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก