จ่ายเช็ค 2 พัน ถึงบ้านผู้ประกันสังคม ดีเดย์ 26 มี.ค. บสย.เปิดให้ขอค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีได้แล้ว (มติชนออนไลน์)
ชงครม.17ก.พ. พิจารณากรอบวงเงินงบฯปี53 ยังขาดดุลต่อเนื่อง คาดใช้6-8หมื่นล.ตั้งซอฟต์โลน รัฐส่งเช็คตรงถึงบ้านผู้ประกันสังคมช่วยค่าครองชีพ2พัน26 มี.ค.นี้ เชื่อไม่มีปัญหาวิธีดีสุด บสย.ขานรับเพิ่มทุน เปิดให้ยื่นขอค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีได้แล้ว
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างหารือเพื่อจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาว โดยจะใช้เวลาจัดทำประมาณ 2 เดือนควบคู่ไปกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่เน้นให้เกิดการสร้างงาน การลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ จะเสนอให้พิจารณากรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่ยังเป็นงบขาดดุลอย่างต่อเนื่อง
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลนนั้น อยู่ระหว่างการหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 6-8 หมื่นล้านบาท เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกและผู้ประกอบการท่องเที่ยว
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพตามนโยบายรัฐบาลคนละ 2,000 บาท สำหรับผู้มีเงินเดือนไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ว่า หลังจากที่งบประมาณเพิ่มเติมกลางปีผ่านสภา ก็จะเริ่มสั่งจ่ายเช็คถึงบ้านผู้มีสิทธิได้ในวันที่ 26 มีนาคม โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้พิจารณาเพิ่มเติมว่า จะให้ประชาชนสามารถนำเช็คที่ได้ไปใช้แทนเงินสดเพื่อซื้อสินค้าตามร้านค้าต่างๆ ได้ ซึ่งจะหารือกับภาคเอกชนว่าพร้อมรับเช็คแทนเงินสดหรือไม่ เบื้องต้นไม่น่ามีปัญหาสำหรับร้านค้าใหญ่ที่ต้องการขายสินค้าอยู่แล้ว
"นอกจากนี้อาจจะสร้างแรงจูงใจในการใช้เช็คเงินสดไปซื้อสินค้าแทนที่จะนำไปเข้าแบงก์ ด้วยการเจรจาให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการให้ส่วนลดด้วย 10-20% ซึ่งจะทำให้ซื้อสินค้าได้มากกว่า 2,000 บาท" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ไม่ใช้วิธีโอนเงินสด 2 พันบาทเข้าบัญชี เพราะเกรงว่าจะมีบางส่วนไม่ยอมถอนเงินมาใช้จ่าย ซึ่งขัดกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้นำเงินไปใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายรอบ ส่วนที่ไม่จ่ายเป็นคูปอง เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาทำคูปองปลอมออกมา จึงเห็นชอบให้สั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสด
"การสั่งจ่ายเป็นเช็คน่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะผู้ที่ได้รับเป็นกลุ่มคนทำงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมอยู่แล้ว ทำให้การส่งเช็คถึงบ้านไม่น่าจะเกิดปัญหา โดยรัฐบาลจะรับภาระค่าธรรมเนียมการออกเป็นเช็คประมาณ 40 ล้านบาท" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลจะเพิ่มทุนให้ บสย. ซึ่งจะทำให้สามารถค้ำประกันสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ได้มากถึง 3 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ผู้สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อเข้ามาได้ตามสำนักงานในภูมิภาค เนื่องจาก บสย.มีทุนที่จะดำเนินการไปก่อนได้ โดยผู้ประกอบการทุกกลุ่มสามารถยื่นขอมาได้ แต่จะเน้นให้กลุ่มเอสเอ็มอีต่อเนื่องด้านท่องเที่ยวก่อน เช่น โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงกลุ่มส่งออก เพราะมีการจ้างงานมากและได้รับความเดือดร้อนที่สุด โดย บสย.จะค้ำประกันสูงสุดรายละไม่เกิน 20 ล้านบาท แต่เฉลี่ยน่าจะไม่เกิน 2 ล้านบาท และจะลดขั้นตอนการอนุมัติจาก 2 สัปดาห์ เหลือ 3-5 วัน เพื่อให้เงินถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเร็ว ซึ่งไม่น่ามีความเสี่ยงเพราะธนาคารพาณิชย์ได้คัดเลือกลูกค้ามีศักยภาพมาแล้วระดับหนึ่ง คาดว่าจะช่วยเอสเอ็มอีได้ 1.5 หมื่นราย ก่อให้เกิดการจ้างงาน 3 แสนคน เกิดเงินหมุนเวียน 3 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แบบฟอร์มที่สำนักงานประกันสังคมแจกไปตามบริษัทเอกชนที่มีผู้ประกันตนในขณะนี้ ระบุให้ผู้ประกันแจ้งว่าประสงค์จะขอรับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 2,000 บาท จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารใด โดยมีรายชื่อธนาคาร 11 แห่งให้เลือก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
