นายกฯ ย้ำ! ไม่เสนอกฎหมายนิรโทษกรรม (ไทยรัฐ)
สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติ ที่มีสาระสำคัญคือนิรโทษกรรมให้นักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง ต่อมานายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว แม้จะมีเสียงคัดค้านจากกองทัพว่าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่มีผลต่อการสร้างความสมานฉันท์ภายในชาติ ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีย้ำไม่เสนอกฎหมายนิรโทษกรรม
โดย เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่าง พ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติว่า รัฐบาลไม่มีความคิดที่จะเสนอกฎหมายนี้ แต่ในส่วนฝ่ายนิติบัญญัติ พรรคการเมือง และ ส.ส.มีสิทธิ์เสนอได้ 
ถามว่าการปฏิรูปการเมืองมีความคืบหน้าแค่ไหน
อภิสิทธิ์ : ขณะนี้กำลังพยายามปรึกษากับฝ่ายค้านอยู่ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากฝ่ายค้าน เพราะไม่อยากเดินฝ่ายเดียว หากจะตั้งวันนี้ก็ตั้งได้ แต่ถ้าตั้งแล้วคนบอกว่าไม่อยากได้รูปแบบนี้ มันก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ฉะนั้นพยายามใช้เวลาสักนิดคงไม่เป็นไร ขอให้ขบวนการเริ่มต้นแล้วเป็นที่ยอมรับ จะเป็นแนวทางที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า จะต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่
อภิสิทธิ์ : ถึงจุดหนึ่งก็จะต้องตัดสินใจว่าในที่สุดแล้วจำเป็นต้องเดินหน้า และมั่นใจว่ามีเหตุผลเพียงพอ ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ แต่อยากให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม จะต้องเร่งให้เร็วกว่านี้หรือไม่ เพราะสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองยังไม่ยุติ
อภิสิทธิ์ : ตอนนี้สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ที่มีความสงบเรียบร้อย แม้จะมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ถึงมีคณะกรรมการก็ไม่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวต่างๆ จะยุติ . . . เรื่องการปฏิรูปการเมือง ถ้าฝ่ายค้านตกลงในความคิดที่เสนอไป ก็จะเดินตามนั้น ถ้าเขาคิดว่ามีทางเลือกอื่นข้อเสนออื่น ก็จะมาร่วมพิจารณาด้วยกัน ไม่อยากให้มีธงที่ไปจากรัฐบาลว่า ทำอย่างนั้นหรือไม่ทำอย่างนี้ เพราะจะมีความเสี่ยงที่เป็นเงื่อนไขความขัดแย้งอีก ฉะนั้น เอากระบวนการที่เป็นที่ยอมรับสาระไปว่าตามกระบวนการนั้น การให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ตอนนี้มีความคิดเพิ่มเติมเข้ามาอีก กำลังพิจารณากันอยู่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะถ้าไม่เรียบร้อยแล้วเสนอไป ก็จะมีการวิจารณ์กัน จะเป็นปมขัดแย้งได้ ถามว่าจะต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้จุดยืนตรงกันหรือไม่
อภิสิทธิ์ : ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่ฝ่ายนิติบัญญัติก็เป็นสิทธิของเขา ในส่วนรัฐบาลมีจุดยืนของรัฐบาล ต้องยึดตามนโยบายรัฐบาล ในแนวทางปฏิรูปการเมือง ถ้าพรรคร่วมเอาด้วย จะเป็นปัญหาหรือไม่
อภิสิทธิ์ : ถ้าเสนอในนามพรรคการเมือง ก็เป็นดุลยพินิจของแต่ละพรรคการเมือง แต่ไม่ใช่กฎหมายของรัฐบาล มั่นใจว่าคุมเสียงพรรคร่วมได้ ใช่หรือไม่
อภิสิทธิ์ : มั่นใจว่าพูดคุยกันรู้เรื่อง เพราะยังยืนยันและเชื่อว่าทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลในขณะนี้ รู้ว่าเป้าหมายสำคัญคือการฟื้นเศรษฐกิจ และการไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง การที่พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมปฏิรูปการเมือง มีเงื่อนไขอะไรหรือไม่
อภิสิทธิ์ : ไม่มีเงื่อนไข มีแต่พูดกันถึงเรื่องปฏิรูปการเมือง เขียนไว้ในนโยบายรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว จะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่ นายกฯ พูดอย่าง แต่พรรคร่วมพูดอย่าง
อภิสิทธิ์ : ต้องดูที่ผลและบทบาทของแต่ละฝ่าย รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ไปห้าม ส.ส. แต่รัฐบาลต้องสามารถบริหารราชการแผ่นดิน และกุมสภาพเสียงข้างมากในสภาได้ตามระบบ ในระยะเวลา 6 เดือน จะได้เห็นความคืบหน้าการปฏิรูปการเมืองหรือไม่
อภิสิทธิ์ : คงไม่ทิ้งไว้ถึง 6 เดือน แต่ต้องยอมรับว่า ความเร่งด่วนของเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน เราดูภาพรวมของนโยบาย ในการสร้างบรรยากาศของเสถียรภาพในบ้านเมือง และจำกัดวงความขัดแย้ง ไม่มีประโยชน์ที่จะรีบทำแต่ไม่ได้แก้ปัญหา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
