พิสูจน์ "น้องโบว์" ไม่ใช่แก๊สน้ำตา พฐ.สรุปผลตรวจ สารบึ้มคนละชนิด (ข่าวสด)
กองพิสูจน์หลักฐานสรุปผลพิสูจน์ "น้องโบว์" พันธมิตรแล้ว ตรวจพบ "ซี-โฟร์" ในเสื้อยืดสีเหลืองและเสื้อชั้นใน ซึ่งไม่ตรงกับแก๊สน้ำตาของตำรวจทั้งชนิดยิงและขว้าง ซึ่งมีสารวัตถุระเบิดชนิด "อาร์ดีเอ็กซ์" เป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไม่มี "ซี-โฟร์" แต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่า กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปผลตรวจพิสูจน์วัตถุพยานที่พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ส่งมาให้ตรวจพิสูจน์ซึ่งเป็นเสื้อผ้าของน.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ประกอบด้วยเสื้อยืดสีเหลือง 1 ตัว เสื้อชั้นในสีครีม สภาพฉีกขาด 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สภาพฉีกขาด 1 ตัว โดยมีจุดประสงค์ในการตรวจพิสูจน์ต้องการทราบว่า มีสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุระเบิดติดอยู่วัตถุของกลางทั้งหมดนี้หรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.สมภพ พุฒศรี นักวิทยาศาสตร์ สบ.3 กลุ่มงานตรวจเคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยา กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจพิสูจน์ด้วยวิธีการตรวจทางกายภาพ ตรวจทางเคมี ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ใช้ไอออนสแกนตรวจหากลุ่มวัตถุระเบิดเบื้องต้น ใช้เครื่อง เอฟทีไออาร์, จีซี-เอ็มเอส, เอ็กซ์อาร์เอฟ ตรวจยืนยันใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปผลการตรวจ ได้ผลการตรวจออกมาว่า ตรวจพบสารเคมีที่เป็นวัตถุระเบิดชนิดซี-โฟร์ติดอยู่ที่เสื้อยืดสีเหลือง และเสื้อชั้นในสีครีมที่ส่งมาตรวจ และตรวจพบสารเคมีชนิด อาร์ดีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นสารประกอบวัตถุระเบิดติดอยู่ที่กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากข้อมูลทางเทคนิคของ กองพิสูจน์หลักฐาน ระบุว่าแก๊สน้ำตาทั้งชนิดยิง และชนิดขว้างที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีใช้จะมีสารวัตถุระเบิดชนิด อาร์ดีเอ็กซ์ เป็นส่วนประกอบเท่านั้น ซึ่งไม่มี ซี-โฟร์ เป็นส่วนประกอบแต่อย่างใด และกรณีที่พบสารวัตถุระเบิดชนิด ซี-โฟร์ ที่เสื้อชั้นในและเสื้อยืดของน.ส.อังคณานั้น เพราะตรวจพบวัตถุทรงกลมที่เหลือจากการระเบิดไม่สมบูรณ์บริเวณรอยไหม้สีดำของเสื้อชั้นในและเสื้อยืดดังกล่าว และเมื่อนำวัตถุทรงกลมนั้นมาตรวจปรากฏว่าเป็นสารวัตถุระเบิดชนิด ซี-โฟร์ ส่วนในวัตถุพยานที่ได้จากผู้บาดเจ็บรายอื่นพบเฉพาะสาร อาร์ดีเอ็กซ์ เท่านั้น ซึ่งสารวัตถุระเบิดชนิด ซี-โฟร์ เป็นสารวัตถุระเบิดต่างชนิดจากสารวัตถุระเบิดชนิด อาร์ดีเอ็กซ์ เพราะมีสารเคมีประกอบต่างชนิดกัน
วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงการออกหมายจับเพิ่มเติม 21 แกนนำกลุ่มพันธมิตรกรณีบุกยึดทำเนียบรัฐบาลว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตการออกหมายจับครั้งนี้ล่าช้าเพราะผู้ใหญ่ในรัฐบาลให้ดึงเรื่องไว้นั้น ยืนยันว่าไม่มี ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน การออกหมายจับต้องออกหมายเรียกก่อน คนที่ออกมาให้ข่าวคงเอาขั้นตอนสุดท้ายมาตอบสื่อมวลชนก่อน ยืนยันไม่มีใบสั่งใดๆ เกี่ยวกับการทำงานเรื่องนี้
ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวที่ว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อาจเป็น 1 ใน 21 แกนนำพันธมิตรที่จะถูกออกหมายจับว่า ไม่ทราบเรื่อง และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรตอนนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องว่าไปตามกระบวนการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้านายกษิตถูกออกหมายจับจริง ต้องออกจากตำแหน่งรมต.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องการออกหมายจับอะไร ต้องรอให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน จากนั้นค่อยมาดูกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์