ลูกปัดโบราณหน้าคนโผล่ที่จีน ขุดพบในหลุมฝังศพที่แคว้นซินเจียง (มติชนออนไลน์)
ลูกปัดโบราณหน้าคนโผล่ที่จีน ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันระบุ ขุดพบในหลุมฝังศพที่แคว้นซินเจียง สมัยศตวรรษที่ 2-4 นับเป็นครั้งแรกที่ขุดพบ "สุริยเทพคลองท่อม" นอกพื้นที่ จ.กระบี่ อาจมีมากถึง 200 เม็ด เคยเห็นโชว์ในวัดคลองท่อมถึง 11 เม็ด
นพ.บัญชา พงษ์พานิช เลขานุการสุธีรัตนามูลนิธิ ผู้ดูแลลูกปัดโบราณสุริยเทพคลองท่อม อายุราวสองพันปี ให้สัมภาษณ์ว่า นพ.เจมส์ แลงก์ตัน ผู้เชี่ยวชาญแก้วและลูกปัดโลกชาวอเมริกันกำลังศึกษาวิจัยแก้วและลูกปัดอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ส่งอีเมล์ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ระบุมีรายงานพบลูกปัดหน้าคนเป็นลักษณะแบบเดียวกับที่พบใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพิ่มอีก 1 เม็ด ที่เมืองหยิงปัน (yingpan) แคว้นซินเจียง (Xinjiang) สาธารณรัฐประชาชนจีน
"นพ.เจมส์แจ้งว่า การค้นพบลูกปัดดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหารายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อจัดทำรายงานเผยแพร่ต่อสาธารณชนในเร็วๆ นี้" นพ.บัญชากล่าวอีกว่า ในอีเมล์ระบุว่า จำนวนลูกปัดหน้าคนหรือที่ชาวกระบี่เรียกว่า ลูกปัดสุริยเทพคลองท่อมนั้น นพ.เจมส์ประเมินภายหลังเข้าไปคุยกับพระครูอาทรสังวรกิจ ระหว่างยังเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองท่อมและชาวคลองท่อมเมื่อสิบปีที่แล้ว คาดอาจจะมีถึง 200 เม็ด
"นพ.เจมส์บอกว่า การขุดค้นลูกปัดใน อ.คลองท่อม มีมานานกว่า 30 ปี ถ้าขุดพบปีละประมาณ 4 เม็ดก็น่าจะพบแล้วประมาณ 120 เม็ด เท่าที่เคยนับระหว่างจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม นพ.เจมส์บอกว่า เห็นลูกปัดสุริยเทพโชว์อยู่ 11 เม็ด และยังเคยได้รับทราบว่าชาวบ้านนิยมแขวนเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หมายความว่าคงจะมีไม่น้อย"
นพ.บัญชายังกล่าวอีกว่า นพ.เจมส์ยังระบุผ่านอีเมล์ว่า เท่าที่มีการขุดค้นลูกปัดสุริยเทพนอกพื้นที่ อ.คลองท่อม ปรากฏว่าพบเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น คือเม็ดที่พบในหลุมศพสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 2-4 ที่หยินปัน แคว้นซินเจียง
"นพ.เจมส์บอกว่า ลูกปัดสุริยเทพคลองท่อมอีกเม็ดที่เห็นในต่างประเทศคือ ที่พิพิธภัณฑ์ลูกปัดในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา แต่ลูกปัดเม็ดหลังนี้ขุดพบใน อ.คลองท่อม"
นพ.บัญชากล่าวว่า นพ.เจมส์ยังบอกว่าไม่มีหลักฐานมากพอที่จะสรุปว่าลูกปัดหน้าคนที่ขุดพบใน อ.คลองท่อม นี้ผลิตขึ้นที่ไหนกันแน่ แต่น่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับลูกปัดแก้วโมเสกอีกหลายแบบพบที่คลองท่อมและแหล่งอื่นๆ ในภาคใต้ของประเทศไทย การผลิตลูกปัดลักษณะดังกล่าวใช้เทคนิคแพร่หลายมากในอาณาบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและในตอนเหนือของปากีสถาน ประเมินว่าอยู่ในระหว่างหนึ่งศตวรรษก่อนคริสตกาล จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 1
"นพ.เจมส์อ้างว่า จากการวิเคราะห์องค์ประกอบของแก้วพบว่าไม่เหมือนแก้วที่ผลิตในเอเชียอาคเนย์ แต่เหมือนแก้วจากดินแดนสาสะเนียน (Sasanian) ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณของอิหร่าน ระหว่างคริสต์ศักราช 226 ครอบคลุมประเทศอิหร่าน อิรัก และ อเมเนีย และเอเชียตะวันตกเกือบทั้งหมดรวมถึงตุรกี และจากการศึกษาคุณลักษณะแก้วที่คลองท่อมพบมีก้อนแก้วสาสะเนียนเป็นจำนวนมาก"
"นพ.เจมส์สันนิษฐานว่า มีการนำแก้วสาสะเนียนมาผลิตลูกปัดแก้วที่คลองท่อม และลูกปัดแก้วโมเสคชนิดอื่นๆ ที่ขุดพบในคลองท่อมยังเคยมีรายงานการพบที่อินเดียภาคเหนือ บังกลาเทศ และนิยา อันเป็นเส้นทางสายไหมทางตอนใต้แถบทะเลทรายตากลามะกันอยู่ในจีนอีกด้วย แต่ไม่มีการพบลูกปัดหน้าคนหรือสุริยเทพ"
นพ.บัญชากล่าวว่า นพ.เจมส์ระบุ ลูกปัดหน้าคนหรือสุริยเทพของคนไทยน่าสนใจและยังต้องศึกษาวิจัยค้นคว้าเพิ่มเติมอีกมาก โดยขณะนี้ได้วิเคราะห์องค์ประกอบแก้วจากเม็ดที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ไว้แล้ว หากวิเคราะห์เพิ่มเติมจากเม็ดที่เมืองไทยบ้างจะสามารถคลี่ปริศนาได้อีกหลายอย่าง
นพ.บัญชากล่าวว่า นพ.เจมส์ยังแสดงความยินดีภายหลังรับทราบข่าวลูกปัดสุริยเทพคลองท่อม อายุสองพันปีถูกโจรกรรมระหว่างนำไปแสดงนิทรรศการที่ มิวเซียมสยาม มีผู้ส่งคืนให้กับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
"นพ.เจมส์บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีที่จะปลุกให้คนไทยได้ลุกขึ้นมาชื่นชมและตระหนักในคุณค่าของบรรพชน นพ.เจมส์ได้ส่งภาพลุกปัดสุริยเทพทั้งหมดที่สำรวจและถ่ายภาพไว้ทั้งที่พบใน อ.คลองท่อม และสีธีรัตนามูลนิธิ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ลูกปัดในนครวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ปิดตัวลงเสียแล้ว โดยนพ.เจมส์ย้ำว่าสังเกตให้ดีจะเห็นลูกปัดสุริยเทพทำจากแก้วสองแท่งหรือมากกว่านั้น" นพ.บัญชากล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
