x close

เจาะใจ แอนดริว เกร็กสัน กับงาน และความรักที่มองไม่เห็น



เจาะใจ แอนดริว เกร็กสัน กับงาน และความรักที่มองไม่เห็น (ภาพยนตร์บันเทิง)

         หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่ กลับมาวันนี้ "แอนดริว เกร็กสัน" ไม่ใช่แค่นักแสดงคุณภาพ แต่มาพร้อมกับตำแหน่งเจ้าของบริษัท "มานาโปรดักชั่น" ซึ่งผลิตซีรีส์ "เกมลุ้นรัก" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกวันเสาร์เวลา 13.45 น.       

         ด้วยมาดผู้บริหารที่ต้องขายโฆษณาเองด้วย ทำให้เจ้าตัวพูดจามากขึ้น และทำให้เกิดคำครหาว่าแอนดริวกำลังเฟก แค่ต้องการสร้างภาพเฟรนด์ลี่ เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ส่วนลึกๆ นั้นก็ยังเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยากอยู่เหมือนเดิม      

         เมื่อภาพยนตร์บันเทิงมีโอกาสนั่งคุยนานๆ กับหนุ่มคนนี้ ในวันเปิดกล้องละครเรื่อง "มงกุฎแสงจันทร์" ที่แอนดริวเป็นพระเอก ก็เลยต้องตั้งคำถามให้แอนดริว อธิบายว่าลึกๆ แล้วนั้น แอนดริวเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องความรัก ที่วันนี้เขาบอกว่ายังมองไม่เห็นทางที่จะมีได้เลย    

กลับเข้าวงการมาได้ระยะหนึ่งแล้วเป็นอย่างไรบ้าง    

         แอนดริว : "กับวงการวันนี้ผมรู้สึกดี ไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษ คือเราหายไปนานๆ แต่ทุกคนยังตอบรับ แฮปปี้กับเรา (มีคนบอกว่ากลับมาครั้งนี้แอนดริวแฟกจัง) (หัวเราะ) ผมไม่เฟกหรอกครับ อะไรที่มันฝืนผมก็ไม่ทำ ผมยังเป็นเหมือนเดิม (ติสต์น้อยลง) ผมไม่เรียกว่าเป็นติสต์หรอกครับ คือถ้ามาในวันที่ทำงานผมก็ไม่คุยกับใครเท่านั้นเอง คือการทำงานเราก็ทำงาน ที่ทำให้พูดมากขึ้นมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานโปรดักชั่นที่ทำให้เราต้องสื่อสารกับคนอื่นเพิ่มมากขึ้น ถ้าแบบเมื่อก่อนเราดูแลแค่บทของตัวเอง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอะไร เราก็ต้องเอาแค่ตรงนั้นก่อน

         แต่ตอนนี้เราต้องทำทุกส่วน มันมีความจำเป็นที่เราต้องสื่อสารมากขึ้น ผมว่าถ้าคนเขามองในแง่ที่ดี ผมว่าก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเขามองในแง่ไม่ดี ไม่ว่ายังไงมันก็คงสัมผัสได้ ผมไม่อยากคิดมากเสียเวลา อยู่ที่ทัศนคติของคนที่มองเรา คือถ้าเขาไม่มาลองทำเองไม่เข้าใจหรอกครับ ผมเองก็พูดแต่เรื่องที่จำเป็นไม่ได้มาพูดอะไรล้อเล่นกับใคร"   

ฟีดแบ็กซีรีส์ "เกมลุ้นรัก" ล่ะเป็นอย่างไร    

         แอนดริว : "ฟีดแบ็กดีครับ สำหรับเวลาละครบ่ายวันเสาร์ ต่อจากมวยเป็นเวลาที่รู้สึกว่าหินเหมือนกัน ตัวผมไม่ได้คาดหวัง คิดแค่ว่าทำให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ผมขายโฆษณาเอง เพื่อที่จะหาเงินมาทำต่อ เมื่อก่อนเราแค่เล่น ไม่เคยทำ พอต้องมาทำก็แปลกดี เราไม่เคยลอง ลูกค้าก็น่ารักดีครับ อย่างพี่ๆ เอเจนซี่ทุกคน บางคนผมโทร.ไปเช้าเย็น เขาก็ยังดีกับผม ทำให้เราต้องเอาของที่ดีที่สุดไปเสนอขาย อย่าไปหลอกลวงเขา เราคิดว่าของเราก็โอเค. ขายเพื่อให้ได้งบ ซึ่งในเรื่องงบในการบริหาร มันเป็นโจทย์อย่างหนึ่งที่สำคัญเหมือนกันนะครับ ที่จะต้องบริหารให้ได้"     

ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่แล้วใช่ไหมถึงกลับมารับเล่นละคร    

         แอนดริว : "ละครของผมไปได้เรื่อยๆ ครับ เพราะเป็นซีรีส์ การรับงานเพิ่มคือเป็นโจทย์อย่างหนึ่งที่จะต้องทำให้ได้ ผมทำละครเป็นหลัก ที่มาเล่นของพี่ตู่คือคลาดกันมาหลายที พอดีตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี ทุกอย่างเหมาะสมก็รับครับ"   

ไม่คิดทำละครยาวบ้างเหรอ    

         แอนดริว : "การทำละครยาวผมไม่ได้กลัวอะไร แต่แค่วันนี้ผมมีงานของผมเอง แล้วก็ต้องมาเล่นละครด้วย แค่นี้ผมก็รู้สึกแล้วว่าเยอะแล้ว คือ ณ เวลาตอนนี้แค่ซีรีส์เรื่องนี้กินเวลาส่วนหนึ่งไป อาจจะยังไม่นิ่งไม่ลงตัว คงจะดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วพอมารับละครของพี่ตู่อีกเรื่องเราต้องบริหารให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากัน กับละครยาวค่อยๆ ไปทีละขั้นดีกว่า

         สำหรับผมคือบริษัทต้องหาทีมงานที่ไปกับเราได้ ซึ่งบางครั้งผมก็อยากได้คนที่ไม่ได้คิดแค่ว่ามาทำงานเช้า ตกเย็นตั้งเป้าไปกินเหล้ากันแล้ว มีชีวิตแค่นี้พอแล้ว ไม่อยากให้เขาพอใจกับงานว่านี่ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าอยากได้ลูกน้องที่มักใหญ่ใฝ่สูงนะ แต่อยากได้ลูกน้องที่คิดเรื่องงานเป็นหลัก อย่าหยุดแค่นี้ เช้าชามเย็นชามไม่เอา ซึ่งมันต้องใช้เวลาพอสมควรในการหา ถามว่าวันนี้มีไหม "มี" แต่มันต้องมีมากขึ้นอีก ผมอยากให้เนื้องานออกมาเป็นงานที่สมบูรณ์แบบ (แบบนี้ลูกน้องไม่กลัวแอนดริวหมดเหรอ) (หัวเราะ) ลูกน้องไม่กลัวผมหรอกครับ ก็มีบ้างที่ผมเล่นกับบางคนที่เราเจอกันมานาน"   

ท้อบ้างไหมพอต้องมาทำทุกอย่างเอง    

         แอนดริว : "เหนื่อยมีแต่ไม่ท้อครับ เรื่องงานมี คือเราต้องดูแลโปรดักชั่นด้วย ไหนจะต้องวิ่งเรื่องขายโฆษณา อย่างเรื่องถ่ายแล้วต้องบริหารเวลาถ่ายหลายวันเกินก็ไม่ได้เรามีงบประมาณที่จำกัด กลัวว่าจะถ่ายได้ไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด ผมพยายามเตรียมทุกอย่างเท่าที่จะเตรียมได้ คือทำทุกอย่างที่มันจะช่วยให้งานออกมาสมบูรณ์ งานผมมันต้องถ่ายไปออกไป กำหนดล่วงหน้ามากก็ไม่ได้"

มีคนบอกว่าแค่แสดงอย่างเดียวก็ได้เงินเยอะอยู่แล้ว ไม่ต้องเหนื่อยด้วย     

         แอนดริว : "ถ้าคิดในเรื่องความสบายนักแสดงดีที่สุดครับ แต่ถ้าคิดในแง่ที่ว่าไม่ได้กลัวที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ ผมว่าก็เป็นสิ่งที่ดี ประสบการณ์นี้เราหาไม่ได้ในที่อื่น ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันให้อะไรกับผมบ้าง แค่ผมทำงานในบริษัทตัวเองแล้วทำให้งานมันรันต่อไปได้ผมก็รู้สึกว่าดีแล้วครับ"       

ช่วงหายไปเหมือนแอนดริวจะอวบขึ้น ตอนนี้น้ำหนักคงที่แล้วหรือยัง       

         แอนดริว : "ผมก็ไม่ได้ฟิตเพิ่มเติมนะ คือออกกำลังอยู่บ้างเล็กน้อย กับน้ำหนักตอนนี้ก็อยู่ประมาณนี้ครับ ผมเป็นคนที่นอนดึก น้ำหนักจะขึ้นเอง ต้องนอนเร็วๆ ถ้านอนน้อยไม่ทานอาหารด้วยจะไม่สบาย ถ้าทำได้คือต้องไม่นอนดึก ถ้าไม่มีงาน 3 - 4 ทุ่มจะเริ่มง่วงแล้ว อีกอย่างคือถ้าเลยเวลานอนจะนอนยากแล้ว พอมาถ่ายละครต้องปรับตัวครับ คือเมื่อก่อนเราจะเคยกับวงการนี้ ว่างเมื่อไหร่ก็จะนอน แต่พักไปพักนึง ช่วงหลังๆ นี่ นอนดึกมากๆ จะไม่สบาย ผมพยายามหลีกเลี่ยง ปรับการนอนให้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวนะเพราะมีถ่ายละครของตัวเองบ้าง มันเลิกดึกอยู่บ่อยๆ"      

ทำแต่งาน กับความรักละค่ะ เงียบเลย          

         แอนดริว : "ผมไม่ได้รู้สึกว่าแปลกอะไร ปกตินะกับวัย ณ เวลานี้ ถ้าใครได้ลองมาใช้ชีวิตอยู่กับผมจะรู้ว่าไม่ค่อยมีเวลาจะไปอะไรกับใครในลักษณะแบบนั้น ถ้าเป็นเพื่อนเป็นอะไรแบบนี้สบายกว่า ให้คิดจะไปเริ่มต้นทำความรู้จักกับใครก็คงจะไม่ได้ เพราะสุดท้ายคือทุกคนต้องการคือเวลา แม้กระทั่งกับตัวผมเอง ยังไม่มีเวลาให้เลย (ถ้ามีสาวๆ เข้ามาล่ะ) ถ้ามีเข้ามา ดีครับ ยินดีครับ (หัวเราะ) ผมไม่ได้ปิดบังอะไร แต่ ณ เวลานี้ คือรอคนที่เข้าใจ เรื่องเวลาของเราก็โอเค.ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้เวลานะ (หัวเราะ) แต่เราต้องทำงาน"   

แอนดริว เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาสไหม    

         แอนดริว : "(ถอนหายใจ) ถ้าคนของเราเชื่อว่ามี หรืออาจจะไม่มีก็ได้ แต่ก็ไม่ได้คิดซีเรียสอะไร ผมว่าทุกคนเป็นธรรมชาติ พอถึงจุดหนึ่งทุกคนก็อยากจะมีคู่ ไม่ได้อยากให้เปรียบเทียบกับสัตว์นะ แต่ว่าเป็นธรรมชาติ สัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่อยากจะมี เป็นความต้องการเป็นสิ่งพื้นฐานที่ผลักดันชีวิตอย่างหนึ่ง บางทีผมอาจจะเจอคนคนนั้นแล้วก็ได้ ผมเป็นโสดมานานมากจนไม่รู้ว่าถึงเวลามีแล้วจะเป็นยังไง ผมจะไม่คิดว่าผมต้องการจะมีคนรัก ต้องการจะแต่งงาน ผมว่าเป็นเพื่อนกันมันคบกันนานกว่า"

แล้วเจอหรือยังคนแบบนั้นน่ะ    

         แอนดริว : "คนแบบนั้นเคยเห็นแล้ว แล้วเขาก็หายไปแล้ว (เพราะความผิดหวังทำให้ไม่อยากเริ่มต้นใหม่หรือเปล่า) ผมไม่ได้บอกว่าผมผิดหวังนะ (หัวเราะ) ห้ามตู่ไปก่อน การที่ต้องแยกกันไปไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่จะเริ่มต้นใหม่ เพียงแต่เราไม่ต้องการดิ้นรน ตอนนี้อยู่กับงานถ้าจะเจอเดี๋ยวเราก็คงจะเจอเอง ผมไม่ค่อยมองไกลมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอครับ"




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ฉบับที่ 1678 ปีที่ 34 วันที่ 18-24 มี.ค.2552
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะใจ แอนดริว เกร็กสัน กับงาน และความรักที่มองไม่เห็น อัปเดตล่าสุด 19 มีนาคม 2552 เวลา 16:02:49 26,326 อ่าน
TOP