สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ทำเนียบองคมนตรี ได้มีการประชุมทำเนียบองคมนตรี โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือในหลายประเด็น โดยเฉพาะสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดความขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้ โดยอยากให้ทุกฝ่ายยึดถือกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลัก
"ตอนนี้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งกันอย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็นการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยระบบวีดิโอลิงค์ ที่มีการพาดพิงถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และองคมนตรีอีกหลายท่าน ว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งที่ประชุมไม่ค่อยสบายใจกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมุ่งทำให้เกิดความแตกแยกกันมากขึ้น" แหล่งข่าวในที่ประชุมระบุ
ทางด้านคนใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เปิดเผยว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้มีปฏิกิริยาหรือวิตกกับสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินพาดพิงองคมนตรี และกองทัพ ที่ระบุว่า มีการจับมือกันโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่ พล.อ.เปรม ห่วงเรื่องความแตกแยกของคนในชาติมากกว่า เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งมีการโฟนอินมากเท่าไหร่ สถานการณ์บ้านเมือง ก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความแตกแยกของคนในสังคมที่นับวันจะเริ่มมากขึ้น
"การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ต้องการเรียกมวลชนให้ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล กองทัพ และกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้ เห็นว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ มีทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวมันเอง ข้อดี คือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้มวลชน เพื่อมาสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อ ส่วนผลเสีย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะขาดความเชื่อถือจากนานาประเทศ เพราะตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยอมเดินทางมาเข้าประเทศเพื่อรับโทษตามที่ศาลพิจารณา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังคงเป็นนักโทษ จะพูดโจมตีรัฐบาลและกองทัพอย่างไร นานาประเทศก็คงคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขี้แพ้ชวนตี" คนใกล้ชิด พล.อ.เปรม ระบุ
ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะอยากให้การเมืองแก้ไขกันเอง แต่เป็นห่วงเรื่องการพาดพิงองคมนตรีมากกว่า เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดว่า องคมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งๆ ที่อำนาจหน้าที่ขององคมนตรี ไม่มีฐานะที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามที่ประชุมไม่ได้หารือถึงการทำงานของรัฐบาล เพราะไม่ห่วงการทำงานของรัฐบาล คิดว่าน่าจะแก้ไขปัญหาของประเทศไปได้ด้วยดี และเรื่องทุกอย่างต้องปล่อยให้ทางรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
