x close

สาวต่อแก๊งลูกแป๋ง โยงคนมีสี สวมศพ-สวมบัตร


สาวต่อแก๊งลูกแป๋ง โยงคนมีสี สวมศพ-สวมบัตร (ข่าวสด)

สรุปประเด็นโดยกระปุกดอทคอม

          ตร.ลุยคดี "ลูกสาวแป๋ง" ลงพื้นที่ระนองสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการสวมศพลูกสาวปิยะ อังกินันทน์ และ ขรก.ที่เกี่ยวข้องกับการออกบัตรประชาชนและเปลี่ยนชื่อ ส่วนผู้ที่ช่วยเหลือให้ที่อยู่ ช่วยไม่ให้ถูกจับ และหาที่อยู่อาศัยให้สอบพบมีคนมีสีเกี่ยวข้อง ด้านเจ้าอาวาส และสัปเหร่อวัดที่ระนองยืนยันไม่เคยเผาศพคนชื่อกันต์กนิษฐ์ แต่เจ้าอาวาสยอมรับว่าออกใบรับรองการเผาให้ เพราะเป็นคำสั่งทางราชการให้อำนวยความสะดวกศพเหยื่อสึนามิ ขณะที่ตำรวจปากน้ำระนอง รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จกับผัวลูกสาวแป๋งแล้ว

          ความคืบหน้าของคดีที่นางกันต์กนิษฐ์ หรือปานจิต อังกินันทน์ หรือชิ้นศิริ อายุ 48 ปี บุตรสาวนายปิยะ อังกินันทน์ อดีตส.ส.เพชรบุรีหลายสมัย สวมศพจากเหตุภัยพิบัติสึนามิที่เกาะพยาม จังหวัดระนอง เพื่อหนีหนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 ป. และพ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ ป. สืบสวนขยายผลประเด็นเรื่องเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับการขอมีบัตรประชาชน หรือทำเรื่องที่หน่วยงานราชการว่า เข้าข่ายความผิดฐานการให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานหรือไม่ รวมทั้งขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด หรือให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ด้วย เพราะเชื่อว่าผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนน่าจะมีความรู้เรื่องการรวบรวมหลักฐานพอสมควร และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกระทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินคดี

          พ.ต.อ.กิตติศักดิ์กล่าวว่า นอกจากการขยายผลเรื่องแจ้งความเท็จและบัตรประชาชนแล้ว จะต้องสอบสวนเชิงลึกเรื่องเส้นทางการเงิน การถ่ายโอนทรัพย์สินด้วย รวมทั้งผู้ให้การช่วยเหลือไม่ให้ถูกจับกุม โดยในเบื้่องต้นมีผู้ให้เบาะแสว่า มีคนมีสีทั้งสองสีเกี่ยวข้อง

          ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนมีพฤติการณ์เปลี่ยนชื่อนามสกุลมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะนายชาญชัยนั้นพบว่ามีการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 5 ครั้ง โดยข้อมูลทั้งหมดจะนำไปรวมกับข้อมูลเรื่องการสวมบัตรประชาชนของนางกันต์กนิษฐ์ เพื่อตรวจสอบทางลึกว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมีส่วนร่วมกระทำผิดหรือไม่ เนื่องจากบัตรประชาชนที่ยึดมาได้นั้นเป็นบัตรจริงทั้งหมด แต่เปลี่ยนชื่อสกุล และข้อมูลต่างๆ ของบุคคลทั้งสอง

          ส่วนการสืบสวนขยายผลกรณีสวมศพสึนามินั้น พนักงานสอบสวนได้เคยทำหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวจากทาง สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งทั้งตำรวจ และทางวัด ไม่มีใครยืนยันว่าได้เห็นศพ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ พบว่าพื้นที่จังหวัดระนองนั้น มีการแจ้งพบศพที่สมอ้างเป็นนางกันต์กนิษฐ์ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุสึนามิเพียงศพเดียวเท่านั้น

          อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดสุวรรณคีรีวิหาร ที่นายชาญชัยอ้างว่าได้นำศพนางกันต์กนิษฐ์ มาบำเพ็ญกุศล และฌาปนกิจที่เมรุของวัด โดยพระครูรณังคณารักษ์  เจ้าคณะอำเภอเมืองระนองและเจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่านายชาญชัยนำศพนางกันต์กนิษฐ์มาบำเพ็ญกุศลหรือไม่ แต่ที่จำได้ทราบว่าประมาณต้นเดือนมกราคม 2548 มีชาย 3-4 คน มาหาที่วัด พร้อมกับแจ้งขอให้ทางวัดออกใบรับรองการเผาให้กับนางกันต์กนิษฐ์ โดยกลุ่มชายดังกล่าวได้ย้ำพร้อมอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้นำศพนางกันต์กนิษฐ์มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด 3-4 คืน ก่อนฌาปนกิจ ซึ่งพระครูไม่แน่ใจว่าการตั้งศพบำเพ็ญกุศลหรือไม่ แต่การที่กลุ่มชายดังกล่าวมาขอใบรับรองการเผา ถือว่าทำผิดขั้นตอน เนื่องจากก่อนที่ทางวัดจะออกใบรับรองการเผาได้ จะต้องมีใบรับรองการตายจากทางอำเภอเมืองระนอง มายื่นแสดงก่อน แต่เมื่อสอบถามกลับไปกลับไม่มี แต่มีชายคนหนึ่งนำเอกสารซึ่งน่าจะเป็นของปลอม เป็นลักษณะหนังสือทางราชการลงชื่อนายอำเภอเมืองสมัยนั้น ร้องขอให้ทางวัดดำเนินการให้ไปก่อน เนื่องจากทางอำเภออยู่ในระหว่างการปรับปรุงฐานข้อมูล ตนเห็นว่าเป็นหนังสือราชการ ไม่ได้คิดเฉลียวใจ จึงได้ออกใบรับรองการเผาให้ ประกอบกับในช่วงดังกล่าว มีหนังสือจากคณะสงฆ์มายังวัดว่า ถ้าเป็นศพสึนามิมาฌาปนกิจศพที่วัดให้อำนวยความสะดวกด้วย

          ขณะที่นายจรูญ เทพณรงค์ เจ้าหน้าที่ฌาปนกิจ (สัปเหร่อ) วัดสุวรรณคีรีวิหาร กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ดังกล่าวมากว่า 10 ปี ส่วนใหญ่จะจำญาติหรือชื่อผู้ตายที่มาใช้เตาเผาที่วัดได้เกือบทั้งหมด กรณีนางกันต์กนิษฐ์ยืนยันว่าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาฌาปนกิจที่เมรุของวัด อย่างแน่นอน อีกอย่างคือช่วงปี 2547-2548 เตาเผาของวัดจะเป็นเตาเผาถ่าน ผู้ที่ใช้เตาเผา จะต้องจ่ายค่าบำรุงเตาให้กับวัด 1,000 บาท เมื่อได้เงินมาตนจะลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบไม่ปรากฏชื่อนางกันต์กนิษฐ์ตามที่นายชาญชัยอ้างแต่อย่างใด จึงสันนิษฐานได้ว่า ไม่มีการนำศพผู้ใดมาบำเพ็ญกุศลหรือเผาทั้งสิ้น ที่นายชาญชัยอ้าง น่าจะเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ

          ทั้งนี้ พ.ต.อ.วีรศิลป์ ขวัญเซ่ง ผกก.สภ.ปากน้ำ กล่าวว่าทาง สภ. กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและสอบผู้เกี่ยวข้อง ในการร่วมดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ เพื่อขออนุมัติออกหมายจับในข้อหาแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เป็นการใช้พยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นและประชาชน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท พร้อมกับทำเรื่องขออายัดตัวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.ปากน้ำ ตามข้อหาดังกล่าว 

          รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิในพื้นที่จ.ระนอง ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระนอง ที่สรุปรวบรวมรายงานเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2548 พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 164 ราย และไม่ปรากฏรายชื่อนางกันต์กนิษฐ์ ชิ้นศิริ แต่อย่างใด


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวต่อแก๊งลูกแป๋ง โยงคนมีสี สวมศพ-สวมบัตร อัปเดตล่าสุด 28 มีนาคม 2552 เวลา 16:36:32 12,246 อ่าน
TOP