ทหารไทย-เขมร สงบศึกชายแดน (ไทยรัฐ)
สถานการณ์ชายแดนด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดเขาขาด เมื่อวันที่ 2 เมษายน ถัดมาอีกวันเกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณร่องน้ำห้วยตามาเรีย ทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บหนึ่ง ส่วนทหารกัมพูชาก็มีรายงานการสูญเสียเช่นกัน โดยต่างฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝ่ายรุกล้ำพื้นที่ก่อน ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในพื้นที่นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 เมษายน พล.ต.กนก เนตระคเวสะนะ ผบ.กองกำลังสุรนารี และคณะได้เดินทางไปที่วัดแก้วสิกขาคีรีสะวารา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อประชุมร่วมกับทหารกัมพูชา นำโดย พล.ท.แซไล ดึก ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา มีนายทหารของทั้ง 2 ฝ่าย เข้าร่วมประชุมพร้อมหน้า โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปบันทึกภาพทำข่าวแต่อย่างใด
หลังการประชุม พล.ต.กนก เนตระคเวสะนะ ผบ.กองกำลังสุรนารี กลับลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ผลการเจรจาร่วมกันในระดับพื้นที่เป็นไปด้วยความเข้าใจกันดี ผู้บังคับบัญชาของทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย เหตุการณ์ปะทะกันที่ผ่านมาเนื่องจากการเข้าใจผิดกัน และในครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ยืนยันร่วมกันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นมาอีก
แหล่งข่าวทางทหารเปิดเผยว่า หลังจากที่มีการปะทะกันขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชา ได้เสริมทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์หนัก รวมถึงรถถังเข้ามาในพื้นที่ช่องบันไดหัก ส่วนฝ่ายไทยยังไม่มีการเสริมกำลังแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านภูมิซรอลที่อยู่ใกล้จุดปะทะ ยังคงประกอบอาชีพเหมือนเดิม ไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจหรือหวาดกลัว ส่วนใหญ่บอกว่าชินกับเหตุการณ์เช่นนี้ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารไทย ยังไม่มีการเตรียมอพยพขนย้ายจะรอฟังฝ่ายราชการ เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงมากไปกว่านี้
ที่ จ.เชียงใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทราบว่ามีการประสานงานทำความเข้าใจระดับนโยบายอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็วๆ นี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประชุมอาเซียนซัมมิท แต่ได้กำชับให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานงานพูดคุยโดยเร็วที่สุด หากใน 1-2 วันนี้ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมในทางลบ จะบ่งบอกว่าทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าทางการกัมพูชาขนอาวุธหนักไปบริเวณชายแดน นายกฯ ตอบว่า กองทัพและรัฐบาลติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวตลอดเวลา อย่างไรก็ตามในการประชุมอาเซียนในช่วงสัปดาห์หน้า คงมีโอกาสหารือกับสมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ตนจะย้ำจุดยืนเดิมคือเร่งให้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการเจรจา แต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะหากมีการเคลื่อนไหวอาจทำให้มีการเข้าใจผิดกันได้
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
