x close

เปิดเส้นทางลัด-เส้นทางสยอง ฉลองสงกรานต์ปีวัวกระทิงเดือด


เปิดเส้นทางลัด-เส้นทางสยอง ฉลองสงกรานต์ปีวัวกระทิงเดือด (เดลินิวส์)

         7 วันฉลองสงกรานต์ยอดตายพุ่ง 368 เจ็บกว่า 4,803 ราย กลายเป็นพาดหัวข่าวประจำทุกช่วงเทศกาลวันหยุดยาวไปแล้ว ซึ่งหลายคนคงมีคำถามในใจ ทำไมเที่ยววันหยุดยาวทีไร เจ็บตายอื้อกันทุกที ไม่มีวิธีป้องกันอะไรแล้วหรือไง ? 

         ส่วนอีกหลายคน ก็พานเลิกเที่ยวไปเลย ด้วยเหตุผลคลาสสิกที่ว่า โอ๊ย..ไปเที่ยวทำไม หน้าเทศกาลคนเยอะ รถติด ขี้เกียจไปแย่งกินแย่งเที่ยวกับคนอื่น น่าเบื่อ ทั้งที่วันหยุดยาว ก็ใช้ปฏิทินเดียวกันทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่เลิกยึดติดกับความคิดเดิม ๆ โอกาสเที่ยวให้ฉ่ำปอด แบบเจ้านายไม่กัดจิกให้หงุดหงิดหัวใจในวันพักผ่อน คงจะหายากเต็มที 

         วันหยุดทั้งที เชื่อว่า พ่อแม่พี่น้องที่ต่างจังหวัดหลาย ๆ ครอบครัว คงอยากให้ลูกหลานกลับมาบ้านพร้อมหน้าพร้อมตา เหมือนกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่อยากชวนพี่น้องคนไทย ไปเที่ยวให้สมกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อุตส่าห์ปั้นโครงการเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคักขึ้นมา แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเกาสะดือเล่นอยู่ที่บ้าน ดูชาวบ้านเขาสนุกครื้นเครงสาดน้ำผ่านจอทีวี 

         ก่อนตัดสินใจเดินทาง ลองมาศึกษาเส้นทางของกระทรวงคมนาคม ที่คร่ำหวอดถนนทุกสายในประเทศ แนะนำเส้นทางลัดเลี้ยวไปยังภาคต่าง ๆ ช่วยย่นระยะเวลาบนท้องถนน โดยเปิดด้วย เส้นทางลัดจากกรุง เทพฯ สู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออีสาน กรมทางหลวงแนะนำเส้นทางที่ 1 ให้ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ต่อสายอุตราภิมุข เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ถึงต่างระดับบาง ปะอิน เข้าถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งสู่อ่างทาง เพื่อเดินทางสู่ ภาคเหนือ หรือเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวง หมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรีเพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าอยากทราบรายละเอียดเส้นทางเพิ่มเติม ให้โทร. 0-2521-3745, 0-2529-1441, 0-3524-5093 

         เส้นทางที่ 2 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) ใช้ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) จนถึงต่างระดับบางปะอินแล้วใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือใช้ถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) เพื่อไปภาคเหนือ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2529-1441, 0-2527-2488, 0-3524-5093 เส้นทางที่ 3 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) ใช้ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่านสุพรรณบุรีไปสู่ชัยนาทเข้าถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ไปสู่ จ.นคร สวรรค์ เพื่อไปภาคเหนือ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2527-2488, 0-3555-5434 

         เส้นทางที่ 4 จากถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนต่างระดับลำลูกกา (ทางหลวงหมายเลข 9) ถึงแยกพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวขวา เพื่อเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเลี้ยวซ้ายไปต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) เพื่อสู่ ภาคเหนือ สอบถามเส้นทางโทร. 0-2521-3745, 0-3524-5093, 0-3621-1105 เส้นทางที่ 5 จากบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ (ทางหลวงหมายเลข 304) ห้าแยกปากเกร็ด ใช้ถนนติวานนท์ (ทางหลวงหมายเลข 306) เลี้ยวขวาข้ามถนนบางพูน-บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) ผ่านต่างระดับเชียงรากน้อยจนบรรจบถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ที่ อ.บางปะหัน แล้วเดินทางไป ภาคเหนือ หรือเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2529-1441, 0-3524-5093, 0-3621-1105 

         เส้นทางที่ 6 จากต่างระดับรังสิต ไปตามถนนรังสิต-องครักษ์ (ทางหลวงหมายเลข 305) ผ่านทางต่างระดับธัญบุรี ตรงไปจังหวัดนครนายก, กบินทร์บุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2529-1441, 0-3733-5383 เส้นทางที่ 7 จากถนนรามอินทรา ใช้ถนนรามอินทรา-สุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านฉะเชิงเทรา, พนมสารคาม, กบินทร์บุรี, ปักธงชัย เข้าสู่ถนนมิตรภาพ (สาย 2) ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2521-3745, 0-3851-1015 

         ส่วนเส้นทางจาก กรุงเทพฯ สู่ ภาคตะวันออก เส้นทางที่ 8 ไปตามถนนบางนา-บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34) จนถึง กม.39 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 7) ที่ต่างระดับบางควาย มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก สอบถามรายละเอียดเส้นทาง โทร. 0-2397-4086, 0-3875- 8538 เส้นทางที่ 9 จากถนนศรีนครินทร์ (ทาง หลวงหมายเลข 3344) ใช้ทางหลวงพิเศษกรุง เทพฯ-ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2397-4086, 0-3857-8626 เส้นทางที่ 10 จากถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่าน จ.ฉะเชิงเทรา เข้าทางหลวงหมายเลข 314 แล้วใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี (สาย 7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก สอบถามเส้นทางโทร. 0-2521-3745, 0-3851-1015, 0-3857-8626 

         เส้นทางสู่ภาคใต้ เส้นทางที่ 11 ใช้ถนนธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : ถนนพระราม 2) เข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่จังหวัดภาคใต้ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2420-6821 เส้นทางที่ 12 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดภาคใต้ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2420-6821, 0-3425-8856 เส้นทางที่ 13 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย-นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี สู่จังหวัดภาคใต้ สอบถามเส้นทาง โทร. 0-2420-6821, 0-2433-0797, 0-3425-8856 

         ส่วนกรมทางหลวงชนบทแนะนำเส้นทางลัด คือ บ้านมะขามโพรง-บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เป็นเส้นทางลัดการจราจรที่ติดขัดบนถนนเพชรเกษมในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยว สามารถเลี่ยงมาใช้เส้นทางนี้เดินทางได้ สายทาง ปท. 3004 แยกทางหลวงหมายเลข 305-บ้านลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นเส้นทางลัดการจราจรที่ติดขัดบนถนนพหลโยธินขาออก ช่วงฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ถึงทางแยกต่างระดับบางปะอิน โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3312 ช่วงคลอง 7-8 (ประมาณ กม.ที่ 15) แล้วลัดเข้าสายทาง ปท. 3004 ไปยังทางหลวงหมายเลข 305 สายทาง นม. 1016 แยกทางหลวงหมายเลข 2 (กม.ที่ 142.000)-บ้านกุดคล้า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นเส้นทางลัดการจราจรที่ติดขัดบนถนนมิตรภาพในช่วงเทศกาล สายทาง สบ. 1021 บ้านหนองแค อ.เมือง จ.สระบุรี เป็นเส้นทางลัดการจราจรที่ติดขัดบนถนนพหลโยธิน 

         หลังเต็มอิ่มกับเส้นทางลัดเลี้ยวแล้ว เส้นทางต่อไปนี้ ขอย้ำให้จำขึ้นใจให้ดี เพราะเป็นเส้นทางสยองครองแชมป์ 20 อันดับทั่วประเทศ ให้รู้เป็นเครื่องเตือนใจจะได้ระมัดระวังกัน โดยปี 51 มีเส้นทางดังนี้

         1. ทางหลวงหมายเลข 2 สายทางสระบุรี-มวกเหล็ก กม.ที่เกิดเหตุ 142+260 (หมายถึงกม.ที่ 42 บวกอีก 260 เมตร) ครองแชมป์ตายสูงสุด 27 ศพ เจ็บ 31 คน ตามด้วยอันดับ 

         2. ทางหลวงหมายเลข 118 สายทาง กม. 20+000-กม.52+750 (ต่อเขตจังหวัดเชียงใหม่/เชียงราย) กม.ที่เกิดที่เหตุ 42+570 ตาย 17 เจ็บ 36 

         3. ทางหลวง 105 สายทาง ลานสาง-ห้วยตาหมื่น กม.ที่เกิดเหตุ 18+000 ตาย 10 เจ็บ 5 

         4. ทางหลวง 3467 สายทาง แยกทางหลวงหมายเลข 329 (นครหลวง)-บรรจบทางหลวงหมายเลข 3267 (ท่าเรือ) กม.ที่เกิดเหตุ 15+350 ตาย 10 เจ็บ 4 

         5. ทางหลวง 2 สายทาง บ้านไผ่-กม. 430+829 (ต่อแขวงฯ ขอนแก่น) กม.ที่เกิดเหตุ 425+650 ตาย 9 เจ็บ 2 

         6. ทางหลวง 1 สายทาง สระบุรี-พุแค (ต่อแขวงฯ ลพบุรี) กม.ที่เกิดเหตุ 114+789 ตาย 7 เจ็บ 2 

         7. ทางหลวง 9 สายทางพระประแดง-ตลิ่งชัน (รวมทางแยกต่างระดับฉิมพลี) กม.เกิดเหตุ 14+176 ตาย 7 เจ็บ 2 

         8. ทางหลวง 209 สายทาง ต่อเขตจังหวัดขอนแก่น/มหาสารคาม-กม.38+552 กม. เกิดเหตุ 25+450 ตาย 7 เจ็บ 7 

         9. ทางหลวง 304 สายทาง คอสะพานฝั่งใต้ กม.30+794-กม. 55+362 กม.เกิดเหตุ 50+063 ตาย 7 เจ็บ 30 

         10. ทางหลวง 408 สายทางทางแยกเข้าเชียรใหญ่-หัวไทร กม.เกิดเหตุ 53+650 ตาย 7 เจ็บ 1 

         11. ทางหลวง 1295 สายทาง แยกทางหลวงหมายเลข 11 (กกไม้แดง)-บรรจบทางหลวงหมายเลข 1115 กม.เกิดเหตุ 20+350 ตาย 7 เจ็บ 2 

         12. ทางหลวง 41 สายทาง ร่อนพิบูลย์-ท่าประจะ กม.เกิดเหตุ 40+000 ตาย 6 เจ็บ 2

          13. ทางหลวง 4 สายทาง กม. 41+067 (ต่อเขตแขวงฯ สมุทรสาคร)-จุดเริ่มทางเลี่ยงเมืองนครปฐม กม.เกิดเหตุ 45+970 ตาย 5 เจ็บ 4 

         14. ทางหลวง 4 สายทางต่อเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ควบคุม-สามแยกท่าชะมวง กม.เกิดเหตุ 26+420 ตาย 5 เจ็บ 27 

         15.ทางหลวง 24 สายทางสี่แยกปราสาท-แยกเข้าสังขะ กม.เกิดเหตุ 155+ 125 ตาย 5 เจ็บ 21 

         16. ทางหลวง 41 สายทาง บ.ท่าประจะ-บรรจบทางหลวงหมายเลข 4 (พัทลุง) กม.เกิดเหตุ 76+700 ตาย 5 เจ็บ 5 

         17.ทางหลวง 324 สายทางต่อทางของเทศบาลเมืองกาญจนบุรีควบคุม-กม.11+000 กม.เกิดเหตุ 6+500 ตาย 5 เจ็บ 17 

         18.ทางหลวง 402 สายทางต่อเขตเทศบาลภูเก็ตควบคุม-สี่แยกสะพานสารสิน กม.เกิดเหตุ 4+650 ตาย 5 เจ็บ 1 

         19.ทางหลวง 403 สายทางแยกทางหลวงหมายเลข 4-บรรจบทางหลวงหมายเลข 419 (ทางเลี่ยงเมืองตรัง) กม.เกิดเหตุ 17+623 ตาย 5 เจ็บ 1 

         20.ทางหลวง 3263 สายทางพระนครศรีอยุธยา-กม.30+000 กม.เกิดเหตุ 20+290 ตาย 5 เจ็บ 3 

         อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกัน และลดปัญหาความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นระหว่างขับรถเดินทางไกล ผู้ขับขี่ควรเตรียมทั้งตัว ทั้งรถดังนี้ ตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งาน เช่น ให้สังเกตเครื่องยนต์ ต้องเดินเงียบสม่ำเสมอ ให้เช็กช่วงล่าง คันชัก คันส่ง พวงมาลัย ตรวจสภาพยางรถ ลมยาง ยางอะไหล่ นอตล้อทั้ง 4 ล้อ ตรวจระบบเบรก น้ำมันเบรกพร่องลดหรือไม่ ตรวจสภาพการทำงานของเบรกมือ ตรวจสายพานเครื่องยนต์ชำรุด แตก หัก หย่อนหรือไม่ ตรวจการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น และน้ำหล่อเย็น 

         อย่างไรก็ตาม หากผู้ขับขี่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ทางกรมการขนส่งทางบก ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำเนินโครงการตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน โดยจะตั้งจุดบริการบนถนนสายหลัก และถนนสายรองทั่วประเทศ 250 ศูนย์ ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย. ตลอด 24 ชม. โดยมีบริการตรวจเติมน้ำกลั่น ตรวจเติมน้ำมันเครื่อง ตรวจเติมน้ำมันเบรก และน้ำมันคลัตช์ และการเปลี่ยนหลอดไฟสัญญาณฟรี ยกเว้นไฟหน้ารถยนต์ รวมทั้งติดแผ่นสะท้อนแสงสีแดงให้กับรถจักรยานยนต์ 

         ทั้งนี้ให้สังเกตป้ายโทนสีส้ม ตัวหนังสือสีน้ำเงินเข้ม แบนเนอร์ โทนสีส้ม คำว่า ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน โดยจะแจ้งระยะทางก่อนถึงเต็นท์ให้บริการเป็นระยะ ๆ เริ่มจาก 3 กิโลเมตร 2 กิโลเมตร 1 กิโลเมตร และ 500 เมตร มีนักเรียน นักศึกษาใส่เสื้อกั๊กสะท้อนแสงโทนสีส้มแถบเขียว ยกมือสวัสดี เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปใช้บริการ เต็นท์ให้บริการเป็นโทนสีส้ม 

         นอกจากนี้ ควรเตรียมอุปกรณ์และอะไหล่ที่จำเป็น เช่น ฟิวส์ของระบบไฟต่าง ๆ ประจำรถ ซึ่งรถทุกคันจะมีแผงฟิวส์ หรือกล่องฟิวส์ติดอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ หรือตอนหน้าของรถให้ศึกษาเป็นฟิวส์ของโคมไฟใด แตรอยู่ช่องไหน ขนาดกี่แอมแปร์ หลอดไฟหน้า-หลัง แกลลอนบรรจุน้ำหล่อเย็นสำรอง ไฟฉาย ไฟสัญญาณกะพริบสีแดงและสีเหลือง แผ่นป้ายแสดงเหตุฉุกเฉิน เครื่องดับเพลิง ลวดสลิงหรือเชือกลากรถยาวประมาณ 8-10 เมตร แม่แรงยกรถ กุญแจถอดนอตล้อ กุญแจแหวนหรือปากตาย ไขควงหัวแบน-หัวจีน 1 ชุดเล็ก ชุดปฐมพยาบาล 

         ส่วนผู้ขับขี่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง งดเว้นการดื่มสุรา ก่อนเดินทางควรศึกษาเส้นทางโดยตลอดเสียก่อน โดยตรวจดูจากแผนที่ถามผู้รู้หรือหน่วยบริการของตำรวจทางหลวง หรือการท่องเที่ยวเพื่อกำหนดเส้นทางการเดินทางว่าจากจุดใดไปจุดใด ถนนสายใด มีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปะยาง ร้านอาหาร หรือจุดพักรถที่ใดบ้าง และเวลากลางคืนไม่ควรขับติดต่อระยะทางยาวกว่า 150 กม. ควรเปลี่ยนให้ผู้อื่นขับแทน และพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าแซงในที่คับขัน บนสะพาน ในทางโค้ง ทางแยก ทางร่วม ให้สัญญาณก่อนหยุด ก่อนแซงทุกครั้ง การขับผ่านทางแคบ ทางโค้ง บนเนิน บนภูเขาควรขับให้ชิดขอบทางด้านซ้าย 

         ก่อนเก็บกระเป๋าเดินทาง อย่าลืมเก็บเรื่องทุกข์ใจทั้งการงาน การเงิน การเมืองไว้ที่บ้าน ตักตวงความสุขให้เต็มกับชีวิต สิ่งสำคัญที่สุด ต้องตั้งสติก่อนสตาร์ตให้ดี และถ้าอยากมีคาถาป้องกันตัว ก่อนขับรถลองภาวนา “เมตตัญ จะ สัพพะโรกัสมิง มานะสัมภาวะเย อัปปะริมาณัง” ของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี จะได้แคล้วคลาดปลอดภัย 

         ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุขวันปีใหม่ไทย


  ข้อมูลวันสงกรานต์ Glitter Dookdik วันสงกรานต์ เพียบ คลิกเลย



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

โดย จิตวดี เพ็งมาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดเส้นทางลัด-เส้นทางสยอง ฉลองสงกรานต์ปีวัวกระทิงเดือด อัปเดตล่าสุด 11 เมษายน 2552 เวลา 14:38:55 27,017 อ่าน
TOP