ชูวิทย์เคลียร์วิศาลลงตัว ยอมรับ4เงื่อนไข คุยทิปนักร้องมากกว่านี้ (ไทยรัฐ)
ที่ศาลอาญา วันนี้ (6 พฤษภาคม) ศาลนัดไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทในคดีหมายเลขดำ อ.5066/2551 ที่นายวิศาล ดิลกวณิช ผู้ดำเนินรายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ สถานที่โทรทัศน์ ช่อง 3 อสมท เป็นโจทก์ฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 2 - 3 ตุลาคม พ.ศ.2551 ซึ่งนายชูวิทย์ จัดแถลงข่าวว่า นายวิศาล พูดจากวนประสาท ไม่มีมารยาท ไม่มีจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี เอาเรื่องในที่ลับมาขายในที่แจ้งขณะทำการสัมภาษณ์นายชูวิทย์ เมื่อครั้งลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพ จนต้องลงมือทำร้ายร่างกายนายวิศาล ด้วยการตีศอกใส่ที่กกหูด้านซ้าย
โดยวันนี้ นายชูวิทย์ และนายวิศาล เดินทางมาด้วยตัวเอง ใช้เวลา ในการเจรจาไกล่เกลี่ย นานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถตกลงกันได้ นายชูวิทย์ กล่าวภายหลังการไกล่เกลี่ยว่า บรรยากาศการพูดคุยกันวันนี้เป็นไปด้วยดี เพราะทั้งตนและนายวิศาลต่างต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ ตามแนวคิดหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง ส่วนตัวตนเห็นว่านายวิศาลเป็นนักข่าวที่ดี เป็นรุ่นน้องที่น่ารัก ส่วนเรื่องเงื่อนไขในการเจรจาตนเองรับได้ทั้งหมด เช่นที่ยืนยันยอมรับผิดและกล่าวขอโทษมาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามเงื่อนไขจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้นายวิศาลจำนวนเท่าใด นายชูวิทย์ กล่าวว่า "ไม่เท่าไหร่หรอก ทิปนักร้องยังมากกว่า"
ขณะที่นายวิศาล กล่าวว่า ในการเจรจากันวันนี้ ตนได้ยื่นเงื่อนไข 4 ข้อ คือ
1. ให้นายชูวิทย์ลงข้อความขอโทษ ที่กล่าวหาว่าตนเป็นสื่อมวลชนที่ไร้จรรยาบรรณ ขนาด 3 คูณ 4 นิ้ว ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด และคมชัดลึก จำนวนวันตามความเหมาะสม
2. ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้แก่ตน จำนวน 1 แสนบาท ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อสมท เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ตนคิดว่านายชูวิทย์ควรเป็นผู้รับผิดชอบ
3. ชดใช้ค่าเสียหายที่ตนต้องขาดงานไปเป็นเวลา 3 วัน ต่อรองกันแล้วคิดเป็นเงิน 1 แสนบาท
4. จ่ายค่าทนายความทั้งในคดีทำร้ายร่างกาย และคดีหมิ่นประมาท จำนวน 1 แสนบาท
โดย นายชูวิทย์ ได้ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมด ตนใจกว้างพอที่จะให้อภัย ทั้งที่หลังเกิดเหตุหูข้างซ้ายของตนดับไปถึง 1 เดือน หากเป็นคนอื่นคดีคงไม่จบง่ายแบบนี้ แต่หากนายชูวิทย์ สามารถทำตามเงื่อนไขได้ภายในเวลา 60 วัน พร้อมจะดำเนินการถอนฟ้องและถอนแจ้งความในคดีทำร้ายร่างกายด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
- หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
- หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
