x close

เผย พื้นที่เสี่ยงภัย รอบเมือง

กรุงเทพมหานคร



เผย "พื้นที่เสี่ยงภัย" รอบเมือง  เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้...พึงระวัง!! (เดลินิวส์)

          จากสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยกลับไม่ปลอดภัยไปซะแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กหญิง วัย 13 ปี ถูกแก๊งรถตู้หื่นโปะยาสลบลักพาตัวจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปข่มขืนแล้วล่ามโซ่ขัง  ไว้ยังบ้านพักในจังหวัดปทุมธานี หลายคนอ่านข่าวแล้วรู้สึกหดหู่ใจ และเชื่อว่าต้องมีคำถามตามมาว่า เหตุใดสถานที่ที่คนพลุกพล่าน อย่างอนุสาวรีย์ชัยฯ จึงเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้

          "ถึงแม้บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะเป็นแหล่งชุมชนมีผู้คนสัญจรไปมามากมาย แต่ก็มีพวกมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ และ  ก่อเหตุอาชญากรรมจำนวนมากด้วยเช่นกัน" สิน นิติธาดากุล ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักเทศกิจ แสดงความคิดเห็น พร้อมเปิดเผยสถิติพื้นที่เสี่ยงภัยในกรุงเทพมหานครว่า จากการสำรวจแต่ละสำนักงานเขตพบว่าในปี พ.ศ. 2551 มี พื้นที่เสี่ยงภัยทั้งหมด 530 จุด  และปี พ.ศ. 2552 มีจำนวน 460 จุด โดยแบ่งพื้นที่เสี่ยงภัยเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. จุดเปลี่ยวตามตรอกซอกซอย 2. สะพานลอยคนข้าม และ 3. อาคารหรือบ้าน รกร้าง ซึ่งสถิติทั้งหมดรวมจุดที่เคยเกิดเหตุอาชญากรรมด้วย

          ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ส่วนหนึ่งมาจาก "โครงการเทศกิจเพื่อนชุมชน" ที่ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเดินเท้าเข้าไปตรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมสอบ  ถามปัญหาเรื่องความปลอดภัย  ในจุดเสี่ยงภัยต่างๆ เพื่อจะนำ มาวิเคราะห์และหาแนวทางการป้องกัน อย่างเช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางสำนักงานเขตราชเทวีเมื่อทราบแล้วจะหาวิธีการป้องกันหรือแนวทางที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีการที่ว่านี้คือ ติดตู้เขียวตามจุดต่างๆ พร้อมส่งเทศกิจสายตรวจไปดูแลเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังนำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบว่าจุดเปลี่ยวบริเวณใดบกพร่องอย่างไรบ้าง เช่นพื้นที่เปลี่ยวมืดก็เสริมกำลังเจ้าหน้าที่และปรับภูมิทัศน์โดยนำไฟมาติดตั้งให้สว่างขึ้น เชื่อว่าจะสามารถ ลดปัญหาการก่ออาชญากรรมในจุดเสี่ยงภัยได้ หากประชาชนพบจุดเสี่ยงภัยเพิ่มสามารถแจ้งกับทางสำนักเทศกิจทราบได้ที่ 1555 หรือ 0-2465-0532 

          ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังทราบข่าวมีความตื่นตัวไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรม พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.ฝ่าย ป้องกันอาชญากรรม ให้ข้อมูล ว่า เอแบคโพลล์ได้สำรวจความพึงพอใจของประชาชนพบว่า มีความหวาดระแวงด้านอาชญากรรมในเรื่อง สภาพแวดล้อมเป็นอันดับหนึ่ง จึงมีความคิดดำเนินการลดความหวาดระแวงโดย "ดำเนินโครงการการป้องกันอาชญากรรมโดยสภาพแวดล้อม" สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจออกสำรวจพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดเหตุอาชญากรรมหรือไม่ เพราะสาเหตุใด หรือยังไม่เคยเกิดแต่น่าจะเกิด เช่น พื้นที่ที่เป็นป่าหญ้ารกรุงรัง มีบ้านร้าง ไม่มีแสงสว่าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้จากประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงพื้นที่ หลังจากได้ข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์หาแนวร่วมจากภาครัฐบาล ได้แก่ ไม่มีแสงสว่างก็ติดต่อการไฟฟ้ามาดำเนินการหรือพื้นที่รกร้างติดต่อสำนักงานเขตนั้นๆ มาทำการล้อมรั้ว หรือบริเวณหมู่บ้านมีแคมป์คนงาน ก่อสร้างประชาชนเกรงจะไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าไปดำเนินการขึ้นทะเบียนแฝงคนแปลกหน้าให้เพื่อลดความหวาดระแวง อย่างไรก็ตาม หากดำเนินการไปแล้วยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกจะใช้มาตรการพิเศษ อย่างเช่น ในพื้นที่เขตตลิ่งชัน ถือเป็นพื้นที่เปลี่ยวเคยเกิดเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการพิเศษโดยการ จัดรถตู้ตำรวจรับ - ส่ง ประชาชน รวมทั้งใช้นโยบายหลักทำให้คนในชุมชนรู้จักกัน และตั้งกรรมการกลางมาช่วยตำรวจ ซึ่งทั้งหมด ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง

          ยิ่งเมื่อทราบว่ามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนด้านคมนาคมขนาดใหญ่ จึงมีความสอดคล้อง  กับโครงการที่ทำอยู่ เพราะปกติอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยต่างเวลากัน หากเป็นเวลากลางวันประชาชนจะเสี่ยงภัย กับการถูกกรีดหรือ ล้วงกระเป๋า เนื่องจากมีผู้คนพลุกพล่านเบียดเสียดกัน ง่ายต่อการถูกโจรกรรม และหากเป็นเวลากลางคืนจะเสี่ยงถูกจี้หรือ ชิงทรัพย์ โดยเฉพาะผู้หญิงต้องระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษ เมื่อมีข้อมูลแล้วเรื่องปรับสภาพแวดล้อมจึงสำคัญ ในอนาคตข้างหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนการยืนรอรถโดยสารประจำทางให้เหมือนกับต่างประเทศที่มีช่องทางเดินเข้าออกทางเดียว หากใครยืนรอรถนานจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยให้ เราสังเกตไว้เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะหากไม่รอรถจะมีช่องทางสำหรับเดินอยู่อีกทาง ที่แบ่งเป็นสัดส่วนโดยใช้แผงกั้นเพื่อความเป็นระเบียบ สำหรับในเวลากลางคืนมีการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ เช่น ป้ายรถประจำทางมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บดบังอยู่  เหมาะแก่การซ่อนตัวของคนร้ายที่รอเหยื่อเพื่อฉก ชิง  วิ่งราว ก็จะปรับเปลี่ยนไปไว้ที่อื่นหรือมีต้นไม้ใหญ่บังแสงสว่างก็ติดต่อสำนักงานเขตมาตัดกิ่งให้โล่งแจ้งทำให้คนร้ายไม่กล้าลงมือเพราะตกอยู่ในเป้าสายตาผู้อื่นมากมาย นอกจากนี้แล้วเราต้องรู้จักป้องกันตัวเองด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงถ้าไม่จำเป็นอย่าอยู่คนเดียวในที่มืด เปลี่ยวหรือหากเกิดเหตุให้ตะโกน ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือและสามารถป้องกันตัวเองด้วยสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกว่าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยหรือสงสัยว่าผู้ที่อยู่ใกล้เป็นคนร้ายให้พยายามมองหาคนช่วยเหลือ

          ดังนั้นจงคิดไว้อยู่เสมอว่าอย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือ พร้อมตั้งสติและตัดสินใจพาตัวเองออกไปในที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด อย่ายอมตกเป็นเป้าหมายให้มิจฉาชีพทำร้ายร่างกายและฉกทรัพย์สินไป เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อรายต่อไป..!

กรุงเทพมหานคร



3 ส่วนอันตราย... สถิติภัยอาชญากรรมสูงสุด

          จากสถิติการรับแจ้งเหตุอาชญากรรมจากหมายเลข 191 พบว่าในพื้นที่บก.น.2 มีสถิติการแจ้งเหตุจำนวนมากและเป็นพื้นที่ที่มีสะพานลอย ป้ายรถเมล์ และจุดเปลี่ยวมากเช่นกัน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมได้จัดพื้นที่เสี่ยงภัยไว้ 3 ส่วนคือ 

          1. บริเวณห้างสรรพสินค้าและสวนจตุจักร เพราะเคยมีคดีเกิดขึ้นเยอะ เช่น ล้วงกระเป๋า ตกทอง ฉกกระเป๋า ซึ่งแนวทางการป้องกันคือประสานงานเจ้าหน้าที่ของห้างและจตุจักรเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดและส่งสายตรวจเดินเท้าเข้าไปติดป้ายเตือน

          2. สถานีขนส่งหมอชิต เกิดเหตุกรรโชกทรัพย์และหลอกลวงทางเพศบ่อย จึงได้ดำเนินการป้องกันโดยการทำประวัติบุคคลเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อบรมอาสาสมัครและตั้งจุดตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ขนส่ง

          3. ตามจุดต่างๆ เช่น พื้นที่ว่าง เปลี่ยวรกร้าง สะพานลอย ป้ายรถเมล์ ซึ่งมีมากพอสมควรเพราะพื้นที่ในเขตของบก.น.2 เป็นพื้นที่ที่กว้างมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี จึงทำให้เกิดเหตุประทุษร้าย   ต่อทรัพย์ขึ้นเยอะ โดยเฉพาะ 1.บริเวณสวนสมเด็จย่า ถนนพหลโยธิน 2.ถนนลาดพร้าว บริเวณสะพานลอยปากซอย   ลาดพร้าว 15 และ 3. เขตดอนเมือง สายไหม คันนายาว ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี ซึ่งส่วนมากคนร้ายจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ จึงต้องป้องกันโดยการตั้งด่านตรวจทำประวัติรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยโดยเดือนหนึ่งได้ประมาณ 2,000 คัน

          นอกจากนี้ยังอบรมผู้ขับขี่ วินจักรยานยนต์ให้รู้จักสังเกตและตรวจตราช่วยเหลือลูกค้า โดยการจัดตั้งวินจักรยานยนต์ไว้ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยและสะพานลอยเพื่อแจ้งข้อมูลให้ตำรวจทราบ ที่สำคัญอยากฝากเตือนไปยังสุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงสถานที่เปลี่ยวหรือหาเพื่อนเดิน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้รู้จักสังเกตบริเวณรอบๆ ว่ามีคนเดินตามแบบกระชั้นชิดหรือไม่ เพราะตามสัญชาตญาณคนร้ายจะต้องเข้าประชิดตัวเหยื่อเพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ ส่วนคนร้ายที่ใช้รถจักรยานยนต์ชิงทรัพย์ต้องอาศัยการจดจำรูปพรรณคนร้ายและรถจักรยานยนต์ให้ได้มากที่สุดเพื่อง่ายต่อการติดตาม



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

กรวิกา คงเดชศักดา
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผย พื้นที่เสี่ยงภัย รอบเมือง อัปเดตล่าสุด 9 กรกฎาคม 2552 เวลา 12:44:02 20,854 อ่าน
TOP