ชายแดนพระวิหารตึงเครียดทหารเขมรเคลื่อนรถถังประชิด (มติชนออนไลน์)
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทหารกัมพูชาได้เคลื่อนรถถัง จำนวน 6 คัน และทหารอีกจำนวนมาก มาเตรียมพร้อมอยู่ที่บริเวณบ้านโกมุย ใกล้กับเขาพระวิหารและรอบบริเวณเขาพระวิหาร โดยทหารกัมพูชาเหล่านี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ซึ่งทหารกัมพูชาทั้งหมดเป็นทหารอาชีพ มีความเชี่ยวชาญในการรบเป็นอย่างมาก และทางฝ่ายกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายทหารเหล่านี้มาตรึงกำลังรอบบริเวณเขาพระวิหาร เพื่อเตรียมที่จะสู้รบกับทหารไทยอย่างเต็มที่
ทางด้าน นายบุญมี บัวต้น นายก อบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ขณะนี้สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารตรึงเครียดมาก ตนจึงได้ประกาศเตือนประชาชนในเขต ต.เสาธงชัย ห้ามเข้าใกล้แนวชายแดนเรียบร้อยแล้ว เพราะอาจจะได้รับอันตรายจากการสู้รบและกับระเบิดได้ และขณะนี้ตนได้ประสานงานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพประชาชนหากเกิดมีการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา แต่ขณะนี้เหตุการณ์บริเวณเขาพระวิหารยังคงปกติ
ขณะที่บริเวณทางขึ้นเขาสัตตาโสม ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดกับแนวเขตแดนไทย กัมพูชา ก็เป็นบริเวณที่ทหารไทยได้จัดสร้างบังเกอร์ขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการตั้งฐานที่มั่น เพื่อต่อสู้กับศัตรูฝ่ายตรงข้ามที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย
อย่างไรก็ตาม การที่กองทัพภาคที่ 2 ได้ทุ่มเงินงบประมาณกว่า 20 ล้านจัดสร้างบังเกอร์ จำนวน 20 แห่งรอบเขาพระวิหาร และตามแนวชายแดนไทย กัมพูชานี้ ปรากฏว่า ได้สร้างความมั่นใจและสร้างขวัญกำลังใจให้กับทหารไทยทุกนายที่ตรึงกำลังรอบเขาพระวิหารเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า บังเกอร์ที่สร้างขึ้นมามีขนาดใหญ่ และมีความแข็งแรงทนทาน สามารถป้องกันกระสุนปืนใหญ่และระเบิดทุกชนิดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการที่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะนายทหารระดับสูงมาเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารไทยที่ตรึงกำลังรอบเขาพระวิหารมีขวัญกำลังใจดีมาก พร้อมที่จะต่อสู้ตอบโต้เพื่อรบกับทหารกัมพูชาได้ตลอดเวลา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพืมพ์คมชัดลึก