ประกาศใช้แล้ว กม.ฟอกเงินใหม่ ปปง.คุมเพิ่ม9อาชีพขาย-เช่าซื้อรถ-ค้าของเก่า ร้านทอง นายหน้าที่ดิน (มติชนออนไลน์)
ประกาศใช้แล้วกฎหมายฟอกเงินฉบับใหม่ กำหนดให้อีก 9 อาชีพ ตั้งแต่ร้านค้าทอง เพชรพลอย ขาย-เช่าซื้อรถ นายหน้าค้าที่ดิน ที่ปรึกษาการลงทุน บัตรเครดิต บัตรเงินสด ต้องรายงานธุรกรรมให้ ปปง.ตรวจสอบ บังคับสถาบันการเงินต้องตรวจสอบพฤติกรรมลูกค้าเป็นระยะอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" รายงานเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ว่า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2552 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(วันที่ 22 กรกฎาคม) และให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 วัน หรือ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ทั้งนี้ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือ กำหนดอาชีพเพิ่มอีก 9 ประเภท ต้องรายงานการทำธุรกรรมที่ใช้เงินสดเกินจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือ ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยให้แก่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
สำหรับอาชีพทั้ง 9 ประเภท ได้แก่
1. ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการดำเนินการ การให้คำแนะนำ หรือการเป็นที่ปรึกษาในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับการลงทุน หรือการเคลื่อนย้ายเงินทุนตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ ไม่ใช่สถาบันการเงิน เช่น บริษัทหลักทรัพย์ บริษัหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาทางด้านการลงทุน
2. ผู้ประกอบอาชีพค้า อัญมณี เพชรพลอย ทองคำ หรือเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณีเพชรพลอย หรือทองคำที่เป็นนิติบุคคลล
3. ผู้ประกอบอาชีพค้าหรือให้เช่าซื้อรถยนต์ที่เป็นนิติบุคคล
4. ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นนิติบุคคล
5. ผู้ประกอบอาชีพค้าของเก่าตามกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่าที่เป็นนิติบุคคลล
6. ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินตามประกาศกระทรวงการ คลังเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับหรือตามกฎหมาย ว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
7. ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่มิใช่สถาบันการเงิน ตามประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามกฎหมาย ว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ( เช่น บัตรกดเงินสดอิออน )
8. ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับบัตรเครดิต ที่มิใช่สถาบันการเงิน ตามประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต หรือตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน เช่น บัตรเครดิตอิออน บัตรเครดิตจีอี
9. ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส สบายเพย์)
อย่างไรก็ตาม เว้นแต่ในกรณีที่ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยที่มีพยานหลักฐานอันสมควร ว่ามีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องหรืออาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน กับสำนักงาน ปปง.มี อำนาจสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ประกอบอาชีพ ค้าอัญมณี เพชรพลอย ทองคำ ค้าหรือให้เช่าซื้อรถยนต์ นายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ค้าของเก่า ซึ่งมิได้เป็นนิติบุคคล รายงานธุรกรรมต่อสำนักงาน ปปง.ได้ด้วย
นอกจากนั้น พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฉบับใหม่ ยังบัญญัติให้ สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพเป็นที่ปรึกษาการลงทุน (ข้อ 1) และผู้รับชำระเงินทางอิเล็คทรอนิกส์ (ข้อ9) ต้องกำหนดนโยบายการรับลูกค้า การบริหารความเสี่ยงที่อาจเกี่ยวกับการฟอกเงินของลูกค้าและต้องดำเนินการตรวจสอบ เพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าเมื่อเริ่มทำธุรกรรมครั้งแรก โดยต้องตรวจสอบเป็นระยะจนสิ้นสุดดำเนินการ เมื่อมีการปิดบัญชีหรือยุติความ สัมพันธ์กับลูกค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันกำหนดให้ 6 ประเภท ที่ต้องรายงานการทำธุรกรรมแก่ ปปง. ได้แก่
1. ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารตามที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ
2. บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์และบริษัทหลักทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
3. บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม
4. บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย
5. สหกรณ์ซึ่งมีมูลค่าหุ้นรวมตั้งแต่สองล้านบาทขึ้นไป และมีวัตถุประสงค์ดำเนิน กิจการเกี่ยวกับการรับฝากเงิน ให้กู้ ให้สินเชื่อรับจำนองหรือรับจำนำทรัพย์สิน หรือจัดให้ได้มาซึ่งเงินและทรัพย์สินต่างๆ โดยวิธีใดๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต