สตช. เล็งหาทางออกโผ 152 นายพล ปชป.แฉกลับมี "บิ๊กตร." ตั้งโต๊ะรับเงินแลกตำแหน่งพออกหักมาป้ายสีการเมือง (มติชนออนไลน์)
สตช. เตรียมหาข้อยุติโผโยกย้าย 152 นายพล หลังถูกตีกลับ โฆษกเผย ผบ.ตร. ติดแจง กมธ.ต้องเลื่อนประชุม ก.ตร. นายกฯ ปัดจัดฉากล้มโผตำรวจไม่ลงรอยกับ "พัชรวาท" ส.ส.ปชป. แฉเหตุระงับโผมี "บิ๊กตร." รับเงินแลกตำแหน่งเมื่อโผถูกระงับทำให้ทวงเงินคืนจึงป้ายสีการเมือง
สตช. เตรียมหาข้อยุติโผโยกย้าย152นายพลหลังถูกตีกลับ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยวันที่ 4 สิงหาคมว่า ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หลังมีการตีกลับโผแต่งตั้งโยกย้าย 152 นายพล ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ไปแล้ว เมื่อมีความชัดเจนแล้วก็จะมีการนำโผดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม ก.ตร.อีกครั้งเพื่อหาข้อยุติ โดยคาดว่ามีแนวโน้มที่จะต้องเลื่อนวันมีผลบังคับใช้ออกไปก่อน จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 สิงหาคม
นอกจากนั้น การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการถึงชั้นประทวนก็ต้องชะลอออกไปด้วย ตำรวจนายใดที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร.ไปแล้วก่อนหน้า และมีการปรับเปลี่ยนในภายหลังเมื่อเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 7 สิงหาคมตามปกติจะมีการประชุม ก.ตร.แต่จะเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายตำรวจระดับสูงมีภารกิจที่ต้องเข้าชี้แจงงบประมาณต่อกรรมาธิการสภาฯ
"มาร์ค" ปัดจัดฉากล้มโผ "ตำรวจ"
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าว ความไม่ลงรอยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กระทั่งออกมาระบุ ผบ.ตร.จะลาไปต่างประเทศชั่วคราว เหตุผลการคลี่คลายคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นเพียงข้ออ้าง โดยแท้จริงนั้นเป็นเพราะฝ่ายการเมืองต้องการล้มโผแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ 152 นาย ตามโครงสร้างใหม่ เนื่องจากไม่พอใจที่นายตำรวจที่สนับสนุนไม่ได้รับการพิจารณา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่มีหรอกครับ มันไม่มีอะไรอยู่แล้ว ผมไม่มีความกังวลอะไรเลย มีความพยายามจะ... ความจริงที่ผ่านมามันมีปัญหาทั้งในข้อกฎหมาย มีการครหา และร้องเรียนเรื่องผลประโยชน์มาพอสมควร แต่ไม่ได้มีหลักฐานอะไร และตัวรองฯสุเทพ (เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี) เป็นคนเสนอว่าเรื่องนี้สงสัยต้องมาตั้งหลักดูกันใหม่ ท่านเป็นคนเสนอเองนะครับ ไม่ใช่ทางผมไปบีบ หรือไปบังคับอะไรทั้งสิ้น"
สำหรับกระแสข่าวฝ่ายการเมืองขอคนแล้วไม่ได้ดั่งใจ จึงต้องการล้มโผทั้งหมด นายกฯกล่าวว่า "ผมยังไม่รู้เลยว่าโผคืออะไร ดังนั้น จะไปทราบได้อย่างไร แล้วไอ้เรื่องที่พอใจไม่พอใจอีก หน้าที่ผมมีเพียงการวางตำแหน่งต่างๆ ให้สามารถปฏิบัติตามนโยบายได้ และถือตามกฎหมายเคร่งครัดอยู่แล้วว่าเป็นอำนาจของใคร ระดับไหน"
ซี้นายกฯ แฉเหตุกลับบิ๊กตร.รับเงิน
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวคนสนิทนายกฯเข้าไปยุ่งกับการจัดทำโผโยกย้ายนายพล 152 คน ว่า ยืนยันว่าไม่มี ส.ส.ประชาธิปัตย์คนไหนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโผโยกย้าย ข่าวที่เกิดขึ้นว่ามีคนสนิทนายกฯ วอลล์เปเปอร์ หรือที่ปรึกษานายกฯเข้าไปแทรกแซงโผโยกย้ายนายพล เป็นการปล่อยข่าวจากผู้ที่เสียประโยชน์ คือนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งซึ่งใกล้ชิด พล.ต.อ.พัชรวาท โดยนายตำรวจคนดังกล่าวไปรับเงินแลกตำแหน่ง แต่พอโผโยกย้ายถูกนายกฯระงับ ก็มีคนกลับมาทวงเงินคืน นายตำรวจคนดังกล่าวจึงพยายามปล่อยข่าวเพื่อป้ายสีฝ่ายการเมือง ข้อมูลนี้แม้แต่นายกฯก็ได้รับร้องเรียนมาจำนวนมาก จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่สั่งให้ระงับโผโยกย้าย อย่างไรก็ตาม นายกฯจะรอข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนก่อนจึงจะตั้งกรรมการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ รู้สึกสงสัยว่า เหตุใด พล.ต.อ.พัชรวาทจึงให้คนเช่นนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโผแต่งตั้งโยกย้าย ทั้งที่ในวงการตำรวจรู้กันดีว่านายตำรวจคนดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการซื้อขายตำแหน่ง
"หากมีใครอ้างชื่อว่าผมเข้าไปแทรกแซงโผแต่งตั้งโยกย้าย ผมจะฟ้องร้องทันที" นายศิริโชคกล่าว
โผ 152 นายพล สิ้นสภาพไปแล้ว
ส่วนที่มีข่าวว่า มีนักการเมืองบางคนนำนามบัตรพร้อมลายเซ็นแนบโพยที่เป็นเด็กฝาก นายศิริโชคกล่าวว่า ขอท้าให้เอาหลักฐานที่มีออกมาแสดง โดยให้เปรียบเทียบลายเซ็นและลายมือจริง กับที่อยู่ในโพยและนามบัตรว่าตรงกันหรือไม่ และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าโพยและนามบัตรรับมาจากมือของเจ้าตัวหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมามักมีคนนำนามบัตรของนักการเมืองไปอ้างกันมาก เพื่อหวังประโยชน์ในการโยกย้าย ทั้งตำรวจและทหาร ส่วนถ้ามีหลักฐานว่า ส.ส.เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโผจะผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 หรือไม่ ยังต้องนำกลับมาตีความกันอีกครั้ง เพราะกฎหมายยังไม่ชัด และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทุกคนก็รับว่ามีข้อบกพร่อง
"ในทางนิตินัยถือว่าโผโยกย้ายนายพล 152 คน ถือว่าสิ้นสภาพไปแล้วหลังจากที่นายกฯ ได้ออกคำสั่งระงับไปแล้ว เพราะต้องการให้กฎหมายปรับโครงสร้างตำรวจมีผลบังคับใช้ก่อน และนายกฯให้สัมภาษณ์ชัดว่าจะให้ ผบ.ตร.คนใหม่เข้ามาจัดการ จึงถือว่า พล.ต.อ.พัชรวาทไม่มีอำนาจในการจับทำโผแต่งตั้งโยกย้ายนายพลอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเคยมีมติ ครม.ห้าม ผบ.ตร.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายตำแหน่ง หากเหลืออายุราชการก่อนเกษียณไม่ถึง 60 วัน หรือแปลว่าหมดอำนาจตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ขบวนการปล่อยข่าวเพื่อป้ายสีฝ่ายการเมืองก็หวังว่าจะสามารถจุดกระแสติดจนสามารถสร้างแรงกดดันให้มีการยกเลิกมติ ครม.ดังกล่าวเพื่อที่ พล.ต.อ.พัชรวาทจะสามารถเข้ามาจัดโผแต่งตั้งโยกย้ายได้อีกครั้ง" คนใกล้ชิดนายกฯกล่าว
"สุเทพ" หอบแฟ้มเข้าหารือนายกฯ
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถือแฟ้มเอกสารเข้าพบนายกฯ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. ประมาณ 45 นาที ต่อมาให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทยังไม่ได้ยื่นใบลา ต้องรอให้ส่งใบลาก่อน แล้วถึงมาคิดว่าจะได้ใครมาอย่างไร ส่วนการหารือกับนายกฯนั้นไม่มีอะไร เพียงแต่ตั้งแต่คืนวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ นายกฯจึงเรียกไปคุย และเล่าว่า ช่วงที่ไม่อยู่ มีอะไรเคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งสื่อคงทราบดีแล้วเพราะนายกฯ ได้เล่าให้สื่อฟังแล้ว
เล็งประชุม ก.ตร. เคลียร์ "ปัญหา"
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ เคยระบุว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจจะรอให้ ผบ.ตร.คนใหม่มาพิจารณา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย เมื่อถามต่อว่า แล้วโผโยกย้ายนายตำรวจระดับนายพล 152 ตำแหน่ง ที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อนุมัติไปแล้วจะให้เป็นไปตามเดิมหรือจะมีการทบทวนใหม่ นายสุเทพหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า "อืม...ผมมีประเด็นที่จะต้องเชิญประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณาเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องตรงตามที่ผู้สื่อข่าวถาม คือผมจะต้องประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาทบทวนบัญชีโยกย้ายแต่งตั้ง เพราะมันขึ้นอยู่กับเรื่องของการปรับโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อจะให้มีผลชัดเจนว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ ประเด็นคือ จะทำเรื่องแต่งตั้งไว้ก่อนที่จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือจะรอให้ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้วจึงจะมีการแต่งตั้ง ผมก็ต้องเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกันใน ก.ตร.ก่อน การแต่งตั้งโยกย้ายนั้นผ่านการเห็นชอบของ ก.ตร.มาแล้ว แต่กระบวนการยังไม่จบ เพราะมีคนให้ความเห็นแตกต่างกันอยู่ ผมจึงต้องไปปรึกษา ก.ตร. ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้" นายสุเทพกล่าว
เสียงแตกควรทำก่อน-หลัง พ.ร.ฎ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ไปก่อนที่ร่าง พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 จะประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า มันมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ ข้างหนึ่งบอกว่า ทำได้ อีกข้างบอกว่า ทำไม่ได้ ตนต้องไปทำให้สมบูรณ์ก่อน ดังนั้น เมื่อ ก.ตร.เสนอเรื่องมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สลค. ก็ตัดสินใจไม่ได้ จึงส่งเรื่องคืนไปยัง สตช. เมื่อทำหน้าที่ประธาน ก.ตร.ก็ต้องไปหาข้อสรุปให้ถูกต้อง
ส่วนหากได้ความชัดเจนเรื่องกฎหมายแล้ว โผที่ทำไว้จะอยู่เหมือนเดิมหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า "ถามแบบนี้จะให้ ก.ตร.โกรธผมด้วยใช่ไหม มันเป็นเรื่องของ ก.ตร. ให้ผมประชุม ก.ตร.ก่อนแล้วค่อยมาถามใหม่ แล้วจะตอบ ตอน ก.ตร.เห็นชอบโผไปนั้น ก็คิดว่าจะดำเนินการได้แล้ว แต่เมื่อมีคนทักท้วงมา ซึ่งไม่เกี่ยวกับคนใน ก.ตร.หรือฝ่ายการเมือง เป็นข้าราชการประจำในขั้นตอนที่ส่งเรื่องมายัง สลค.แล้ว ว่าทำไมไม่รอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อน แต่บางคนก็บอกว่า ถ้ารอก็เกิดช่องว่างเรื่องคนจะมาทำหน้าที่ ก็กลับไปปรึกษากันใหม่ได้ ไม่มีปัญหา"
ขอ 2 วัน เคลียร์เรื่องให้กระจ่าง
เมื่อถามว่า ช่วยชี้แจงให้ชัดเจนได้หรือไม่ จะได้ไม่สับสน นายสุเทพตอบย้อนว่า "ให้ผมทำการบ้าน 2 วันได้หรือไม่ แล้วจะชี้แจง" เมื่อถามว่า มีการมองว่า เพราะฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงโผ นายสุเทพกล่าวว่า "ไม่มี มีคนพยายามพูดให้เลอะเทอะกันไป เรื่องมันไม่มี" เมื่อถามว่า ถ้านับตามอาวุโส พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. น่าจะได้ขึ้นรักษาการ ผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า "เห็นไหมว่ามีการชี้นำ รู้ดีกันหมด ทุกอย่างต้องตามกฎหมาย ก็จบ"
สำหรับแนวทางการลาราชการ ของ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังเหมือนเดิมตามที่นายกฯพูดไว้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ท่านนายกฯไม่ได้บอกผมว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรืออะไรต่างๆ ก็ธรรมดา ไม่มีอะไร ผมยังไม่เห็นอะไรใหม่ และยังไม่ได้คุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท" เมื่อถามว่า ถ้าถึงเวลาแล้ว พล.ต.อ.พัชรวาทไม่ยอมยื่นใบลาจะทำอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า "นี่ไง พูดให้เป็นเรื่อง พอแล้ว ไปดีกว่า อย่าไปตั้งสมมติฐานอย่างนั้น"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต
