ปอ ทฤษฎี สหวงษ์
คุยกับ ปอ ทฤษฎี ผู้ใหญ่ลี ปี 2009 (กรุงเทพธุรกิจ)
โดย : เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล
เรตติ้งกำลังดี "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" เวอร์ชั่น ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ เผยทีมงานตีความใหม่ ผู้ใหญ่ลีเลิกตีกลองประชุม ภูมิใจไปไหนคนเรียก "พี่ผู้ใหญ่"
เรตติ้งกำลังติดลมบน แถมเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว สำหรับละครเรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ทางช่อง 3 ของค่าย โนพรอบเล็ม ที่มี ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ รับบท ผู้ใหญ่ลี ขณะที่ นางมา ปี 2009 คือ พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ และแม้พระเอกหนุ่มจะเข้าวงการมาได้ 4 ปีแล้ว แถมมีผลงานมาอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องที่เขาถูกพูดถึงมากที่สุด วันนี้โอกาสดี เราเลยขอล้วงลึกเรื่องราวทั้งหมดของ ผู้ใหญ่ลี ปี 2009 ตามมาเลย
คุยเรื่องงาน
เข้าวงการมาได้อย่างไร
ปอ ทฤษฎี : เป็นนักแสดงมา 4 ปีแล้ว ก้าวเข้าสู่วงการด้วยการเป็นนายแบบ ตอนนั้นยังไม่รู้สึกชอบ จากนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ที่หลาย ๆ คนจำได้ ได้แก่ เบียร์ลีโอ น้ำดื่มยูนิฟไอเฟิร์ม บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ ต่อมาเข้าประกวดหนุ่มคลีโอ ได้รับรางวัลสุดยอดหนุ่มคลีโอ ปี 2004 ทางบางกอกดราม่า เห็นแววเลยเรียกเข้าไปแคสงาน หลังจากผ่านการแคสติ้ง ก็ไปเรียนการแสดงกับช่อง 3 ได้เล่นละครเรื่อง ลิขสิทธิ์หัวใจ เป็นเรื่องแรก ผลงานตอนนี้นอกจากละครเรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ก็มีเรื่อง เสน่ห์เงินตรา, หัวใจสองภาค และ ทัดดาวบุษยา
คติในการทำงาน
ปอ ทฤษฎี : ภูมิใจในอาชีพนักแสดง ซื่อสัตย์และอดทน
รู้สึกอย่างไรกับคำว่า "พระเอก"
ปอ ทฤษฎี : คำว่าพระเอกเป็นคำที่เขาตั้งขึ้นมา โดยส่วนตัวแล้วการทำงานละคร เราต้องทำงานกันเป็นทีม ละครไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะคนคนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่แค่มีพระเอก หรือนางเอก แต่ต้องรวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆ และทีมงานเข้าไปด้วย เพราะเราต้องทำงานกันเป็นทีม
คิดว่าพัฒนาการแสดงของตนเองตอนนี้เป็นอย่างไร
ปอ ทฤษฎี : ยังมีโดนวิจารณ์เรื่องการแสดงบ้าง ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเรื่องจริง ต้องยอมรับความจริง ถ้าแสดงไม่ดี ก็ต้องเอาคำวิจารณ์ของเขามาปรับปรุง เพื่อพัฒนาการแสดงของตนเองให้ดีขึ้น เพราะผมคิดว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครแก่เกินเรียนหรอก
"ปอ" กับวันนี้ที่เป็นดารา
คิดอย่างไรกับวงการบันเทิง
ปอ ทฤษฎี : คิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ต้องหาเลี้ยงปากท้องของตนเอง เพื่อให้อยู่ในวงการนี้ เราต้องแลกอะไรบางอย่าง ต้องเข้าใจว่าเราได้อะไรมาเยอะจากวงการนี้ เมื่อได้ก็ต้องมีเสีย ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ เราอาจต้องเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง แต่ถ้าคิดไปในทางบวกก็ไม่มีอะไร เพราะเราก็สามารถไปดูหนังซื้อของได้เหมือนคนปกติ แต่อาจพิเศษหน่อย ที่ไปซื้อของแล้วอาจมีคนเข้ามาทัก เขาพูดจากับเราดี ชื่นชมเรา ก็คิดเสียว่าเหมือนมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกคน
คิดอย่างไรกับคำว่า ข่าวฉาวสร้างดารา
ปอ ทฤษฎี : เป็นแนวทางความคิดของคน ไม่มีใครถูกหรือผิด มันอยู่ที่วิจารณญาณของคนสร้างข่าว และคนรับข่าว ว่าจะเชื่อข่าวเหล่านั้นมากแค่ไหน
เวลาเป็นข่าวรู้สึกอึดอัด เคยท้อกับข่าวฉาวๆ ที่เคยเจอบ้างไหม
ปอ ทฤษฎี : ท้อได้ แต่ก็ต้องลุยไปข้างหน้า ไม่เคยท้อขนาดอยากออกจากวงการ ต้องยอมรับว่าคนเราทุกคนไม่มีใครเพอร์เฟกท์ มีทั้งข่าวดีและไม่ดี เหมือนมีคนรักก็มีคนเกลียด อย่างตัวผมเอง ตอนเข้าวงการเนื่องจากเป็นผู้ชาย ก็เคยมีข่าวว่าเป็นเกย์ ซึ่งก็ทำใจอยู่แล้ว ว่าต้องมีข่าวทำนองนี้ ถ้าข่าวกระทบแค่ตัวเอง ก็ไม่ได้คิดอะไรอาจจะรู้สึกตลก แต่เวลามีคนอื่นมาเกี่ยวข้องในข่าวด้วยก็จะรู้สึกกังวล เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างแคร์คนรอบข้าง แต่ถ้าคนรอบข้างเข้าใจเขาโอเค ว่าเราไม่ได้เป็นอย่างข่าว ผมก็โอเค
เวลามีปัญหา
ปอ ทฤษฎี : โดยส่วนมากผมจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จะไม่ค่อยเอาปัญหาของตัวเองไปปรึกษาใคร เพราะคิดว่าทุกคนต่างมีเสรีภาพในทางความคิด ไม่ใช่ใครๆ จะคิดเหมือนเราเสมอไป และเราก็ไม่สามารถที่จะจำกัดความคิดของใครๆ ได้
"ปอ" ผู้ใหญ่ลีปี 2009
กระแสตอบรับละคร "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา"
ปอ ทฤษฎี : ฟีดแบ็กละครก็ดี เวลาไปที่ไหนๆ ก็จะมีคนเรียกผมว่า พี่ผู้ใหญ่ รู้สึกหายเหนื่อย และรู้สึกภูมิใจเพราะทำงานออกมาแล้วมีคนชม คิดว่าคงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ พวกพี่ๆ และทีมงานก็คงรู้สึกภูมิใจเหมือนกัน
คิดว่าคาแรกเตอร์ของ ผู้ใหญ่ลี กับ ปอ เหมือนกันไหม
ปอ ทฤษฎี : ไม่เหมือนหรอก เพราะคาแรกเตอร์ของผู้ใหญ่ลีเป็นการตีความของผมกับทีมงาน ที่ช่วยกันคิดว่าผู้ใหญ่ลีน่าจะมีบุคลิกแบบนั้น เป็นคนแบบนี้ แล้วก็แสดงออกไป แต่เรียกว่ามีความคล้ายกันมากกว่า ตรงที่เป็นคนบวก จะคิดอะไรในแง่บวกไว้ก่อน
ได้ร่วมงานกับพลอยที่นับว่าเป็นนักแสดงหญิงแถวหน้าคนหนึ่งรู้สึกอย่างไรบ้าง
ปอ ทฤษฎี : กับพลอยก็สนิทกันระดับหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้เคยเล่นร่วมกับพลอยมาแล้วเรื่อง รักเล่ห์เสน่ห์ลวง เขาก็เป็นคนนิสัยดี พอได้มาแสดงร่วมกันในเรื่องผู้ใหญ่ลีกับนางมาก็เลยสบายหน่อย เพราะรู้จักกันแล้ว ไม่ต้องมาทำความรู้จักกันใหม่ ผมคิดว่างานแสดง ถ้านักแสดงต่างมีความสนิทสนมกัน ก็จะทำงานง่าย เพราะจะเริ่มรู้คิวกัน อย่างคนไม่รู้จักกันมาเล่นด้วยกันเป็นครั้งแรกก็ต้องมาทำความรู้จักกัน
ได้ดูเวอร์ชั่นเก่ามาก่อนไหม
ปอ ทฤษฎี : ก่อนหน้านี้ผมเคยดูเวอร์ชั่นเก่ามาบ้าง แต่มันนานมากแล้ว จำไม่ค่อยได้ว่าใครแสดง ทุกวันนี้ก็แสดงให้ได้ตามที่ทีมงานต้องการ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ละครเดี๋ยวนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยตอนนี้เป็นยุค 2009 มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ขนาดเด็กๆ เดี๋ยวนี้ยังมีมือถือใช้ คนดูก็คงไม่ติดภาพเดิมๆ อีก เพราะยุคนี้ผู้ใหญ่ลี คงไม่ตีกลองประชุมอีกแล้ว
กับน้องริชาร์ด เกียนี่ ที่แสดงบทปื๊ด
ปอ ทฤษฎี : ริชาร์ด ก็เคยเจอกันมาก่อน เพราะเขาแสดงเป็นตัวปอตอนเด็กในละคร อเวจีสีชมพู พอมาถึงละครเรื่องนี้ ก็ทำให้เราได้คุยกันบ้าง เพราะต้องเข้าฉากกับเขาบ่อย ก็สนิทกัน น้องเขาก็ซนบ้างตามประสาเด็ก ที่กองถ้าว่างก็เล่นกันบ้าง ฉากส่วนมากจะเป็นที่ทุ่งนาเสียส่วนใหญ่ น้องเขาเก่งเวลาเข้าฉากก็สนุก
เล่นมาหลายบทแล้วเคยคิดอยากเล่นบทอื่นบ้างไหม
ปอ ทฤษฎี : ต้องแล้วแต่ช่องจะพิจารณาให้ ว่าเราเหมาะสมหรือมีศักยภาพพอหรือเปล่า ไม่ใช่เอาแต่อารมณ์ตัวเอง ว่าอยากเล่นบทโน้น บทนี้
เคยมีข่าวว่าปอจะหันไปจับไมค์แทนการแสดง เคยคิดจะเป็นนักร้องไหม
ปอ ทฤษฎี : คงไม่ใช่เวลานี้ จริงๆ ปอชอบร้องเพลงนะ แต่คิดว่าคงมีคนอื่นที่สามารถเป็นนักร้องได้ดีกว่า เป็นนักแสดงอย่างนี้ดีแล้ว ผมเริ่มงานแสดงมาหลายปี หากต้องเปลี่ยนเป็นนักร้อง ก็เหมือนกับต้องไปเริ่มเรียนใหม่ ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่
"ปอ" กับวันนี้ที่หัวใจไม่ว่าง
มีสเปกสาวที่ชอบไหม
ปอ ทฤษฎี : สเปกสาวทางกายภาพไม่มี เพราะใครๆ ก็ชอบดูของสวยงามกันทั้งนั้น ผมก็เป็นคนธรรมดา ที่ชอบมองคนที่หน้าตาเหมือนคนอื่นๆ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า การที่จะหาคนที่รู้ใจเราได้สำคัญที่สุด เพราะเขาจะไม่มองเราเพียงแค่ภายนอก
ได้ยินว่ามีคนที่รู้ใจแล้ว
ปอ ทฤษฎี : คุยกันมาได้ประมาณ 5 ปีกว่าแล้ว คบกันมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้าวงการเสียอีก ผมไม่เคยปิดเรื่องแบบนี้ ทุกวันไม่ใช่ไม่เจอกันเลย เพียงแต่ว่าคนอาจจะไม่เคยเห็นเขาพร้อมๆ กับผม เพราะทุกวันนี้ผมก็ยังทำตัวเป็นคนธรรมดา มีไปกินข้าว ไปดูหนังข้างนอกเหมือนคนอื่นๆ ผมรู้สึกว่าไม่แฟร์ หากมาเป็นแฟนผมแล้ว ใครๆ ก็ต้องรู้ชื่อ ต้องรู้เรื่องของเขา แล้วเขาจะไม่ได้ใช้ชีวิตปกติ ต้องมาเป็นคนของสังคมไปด้วย
คิดไหมว่าจะแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่
ปอ ทฤษฎี : ไม่เคยตั้งข้อแม้กับชีวิต ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องทำตัวตามแพลนของสังคมที่ว่าจะต้องเรียนจบ แต่งงาน มีลูก และตอนนี้ไม่ได้มีแผน ว่าจะแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่ด้วย ไม่มีแน่ๆ ในช่วง 5 ปีนี้
โครงการในอนาคต
ปอ ทฤษฎี : แผนเรียนต่อก็ไม่มี ผมไม่กล้าจะวางแผนชีวิตไกลๆ เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีชีวิตอยู่นานขนาดนั้น ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ทำทุกวันให้ดีเป็นวันสุดท้ายของชีวิตดีกว่า ทุกวันนี้ก็มีความสุขดี ยังสนุกสนานกับการทำงาน
เคยคิดอยากทำงานนอกวงการบ้างไหม
ปอ ทฤษฎี : พ่อบอกว่าอย่าทำธุรกิจที่เราไม่รู้จักและไม่ถนัด เพราะจะทำให้เสียทั้งเวลา และกำลังใจ เพราะถ้าเราทุ่มเทกับมันมาก ถ้ามันล้มเราจะเสียใจกับมัน ก็เลยไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้ เพราะการประกอบธุรกิจไม่ใช่แค่มีเงินก็สามารถประสบความสำเร็จได้ แต่ต้องใช้ความถนัดและความสามารถด้วย
ประวัติโดยย่อของ ปอ ทฤษฎี สหวงษ์
ชื่อ : ปอ ทฤษฎี สหวงษ์
เกิด : 23 มกราคม 2521
การศึกษา : ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม คณะบริหารทรัพยากรมนุษย์
ผลงานโฆษณา : เบียร์ลีโอ, ยูนิฟ ไอเฟิร์ม
ผลงานพิธีกร : รายการ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ผลงานละคร : ลิขสิทธิ์หัวใจ, บาปรักทะเลฝัน, เจ้าสาวบ้านไร่, เหยื่อมาร, เทใจรักนักวางแผน, รักเล่ห์เสน่ห์ลวง, มาเฟียที่รัก, กิ่งแก้วกาฝาก, อเวจีสีชมพู
ผลงานปัจจุบัน : ผู้ใหญ่ลีกับนางมา (กำลังออกอากาศ) , เสน่ห์เงินตรา, หัวใจสองภาค และ ทัดดาวบุษยา (กำลังถ่ายทำ)
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก