x close

เรื่องราวมากมายของเด็กยากจน หลังได้รับพระเมตตา



พรพิภัทร ขอสุก กับครอบครัว



ชีวิตหลังพระเมตตาแผ่ปก (มติชน)

          "คืนหนึ่งผมฝันว่าในหลวงและพระราชินีเสด็จฯมาเยี่ยมและบอกจะช่วย จึงเล่าให้แม่ฟัง คิดว่าจะเขียนจดหมายถึงพระองค์"

          เรื่องราวมากมายของเด็กนักเรียนยากจนข้นแค้น มีความเป็นอยู่ยากไร้ ต้องดิ้นรนต่อสู้ทุกวิถีทาง เหมือนชีวิตนี้จะไร้ที่พึ่ง แต่พลันที่พวกเขาระลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ชีวิตที่อับจนหนทางไปกลับมามีความหวังเรืองรอง 

          เช่นชีวิตของ "พรพิภัทร ขอสุก" หรือ "แดง" วัย 19 ปี นักเรียน ม.6 โรงเรียนรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เคยคิดพักการเรียนทิ้งอนาคตเพื่อออกไปทำงานหาเงินส่งน้อง 2 คนเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน ซึ่งต้องเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี กับบิดาป่วยเป็นโรคนิ่วและโรคไต เพราะแม่ไปหางานทำในเมืองกรุง 

          "แวบหนึ่งตอนนั้น ผมคิดถึงที่พึ่งหนึ่งเดียวในใจคือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระเมตตาให้โอกาสแก่คนยากจน จึงไปปรึกษาหัวหน้าไปรษณีย์ อ.รัตนบุรี และได้เขียนเรื่องราวทูลเกล้าฯถวายฎีกาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2551 กระทั่งวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 ผมได้รับเรื่องแจ้งจากสำนักพระราชวังตอบกลับมาในที่สุด"

          สำนักพระราชวังมอบเงินทุนพระราชทาน จำนวน 200,000 บาท ให้สร้างบ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค คณะครูโรงเรียนรัตนบุรี ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ช่วยทุนการศึกษาระยะสั้น นายประเทือง เติมสุข นายก อบต.ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี ช่วยทุนระยะยาว ส่วน นางกรรณิการ์ เจริญพันธ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 ช่วยรับบิดา-มารดาไปทำงานบ้าน



(บน) สภาพบ้านหลังเก่าของพรพิภัทร (ล่าง) บ้านหลังใหม่ที่พรพิภัทรได้รับหลังถวายฎีกา



          จากเด็กเรียนดีกตัญญูรู้คุณ ไม่งอมืองอเท้า ขอเพียงมีโอกาส และโอกาสนั้นมาถึงแล้ว เหลือเพียงความใฝ่ฝันที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายคือนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ ด้วยคติประจำใจว่า "หีบที่เต็มไปด้วยเงินทอง มีค่าไม่เท่ากับสมองที่เต็มไปด้วยความรู้" 

          ปี 2550 ด.ญ.วิไลวรรณ หลักนาลาว อายุ 14 ปี ผู้ยากไร้แห่งบ้านหนองตาก้าย ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้เขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานการช่วยเหลือทุนการศึกษา ด้วยเหตุครอบครัวยากไร้ บิดาเสียชีวิต มารดาทำงานต่างถิ่น ต้องอาศัยอยู่กับ ยายเจียน หลักนาลาว วัยกว่า 70 ปี ตามลำพัง หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพรับจ้างทำไร่ เผาถ่าน หาเงินมาจุนเจือครอบครัวและส่งหลานเรียน

          ภายหลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ สพท.กาญจนบุรี เขต 4 มอบหมายให้ผู้บริหารโรงเรียนบ้านหนองตาก้าย ดูแลให้คำปรึกษา หลายหน่วยงานช่วยเหลือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี



(ซ้าย) ศุภักษร เรืองศรี กับคุณแม่ (ขวา) วิไลวรรณ หลักนาลาว



          วันนี้ วิไลวรรณกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เธอยังคงมุ่งมั่นกับการศึกษาให้สมกับที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ บนความใฝ่ฝันในอนาคต อยากเป็นตำรวจหญิง ทำหน้าที่ปกป้องชุมชนของเธอให้สงบสุข เท่าที่เด็กในหมู่บ้านคนหนึ่งที่มีโอกาสทางการศึกษาคนนี้จะทำได้

          หนังสือจากสำนักพระราชวัง ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นเสมือนคบเพลิงซึ่งจุดประกายสว่างให้ชีวิต ด.ช.ศุภักษร เรืองศรี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ซึ่งป่วยด้วยโรคไขกระดูกสันหลังฝ่อ มีกำลังใจอยู่สู้ชีวิตต่อไป 

          น้องโจ้อาศัยบ้านเช่าซอยเจริญสุข ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา กับ นางปราณี อินทร์ขำ มารดา วัย 34 ปี เธอหอบลูกเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล (รพ.) พระมงกุฎเกล้าฯ อย่างคนสิ้นหวัง เงินทองที่มีอยู่ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ 

          "ผมป่วยหนักเลยต้องหยุดเรียน ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยตุ่มใส ไม่สบายตลอดเวลา ไม่รู้จะทำอย่างไร มีอยู่คืนหนึ่งผมฝันว่าในหลวงและพระราชินีเสด็จฯมาเยี่ยมและบอกจะช่วย จึงเล่าให้แม่ฟัง คิดว่าจะเขียนจดหมายถึงสองพระองค์ แต่แม่ห้ามในครั้งแรกว่า ขอให้ในหลวงทรงหายป่วยออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วจึงค่อยเขียนไป จนกระทั่งในหลวงทรงหายป่วย จึงเขียนไปถึงสำนักพระราชวัง ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าอยู่แถวไหน" น้องโจ้เล่าด้วยความใสซื่อ 

          "พระองค์ท่านเพิ่งจะหายป่วยและพระพี่นางสิ้นพระชนม์ แต่พระองค์ยังมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชนทุกคน และให้ความช่วยเหลือ พอมีหนังสือตอบกลับมาน้ำตาไหลพราก เชื่อว่าลูกต้องดีขึ้นแน่นอน ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตแล้ว" นางปราณีพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า

          ปัจจุบันน้องโจ้เรียนจบ ป.6 แล้ว แม้ไม่ได้เรียนต่อเพราะปัญหาสุขภาพ แต่นางปราณีก็ดีใจที่ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหลังสำนักพระราชวังประสานมา เป็นค่าครองชีพสัปดาห์ละ 1,500 บาท และ รพ.พระนครศรีอยุธยาจัดรถพยาบาลรับส่ง รพ.พระมงกุฎฯ ฟรีเดือนละ 4 ครั้ง โรงพยาบาลพระมงกุฎฯดูแลค่ารักษาให้ทั้งหมด 

          "น้ำพระทัยของพระองค์เสมือนน้ำทิพย์มาต่อชีวิตให้น้องโจ้ยืนยาวอยู่กับแม่นานวันมากขึ้น ทุกวันนี้น้องโจ้มีสภาพไปตามภาวะของโรค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบภาวะเลือดออกในสมอง แพทย์ช่วยเหลือจนรอดมาได้อีกครั้ง โจ้กลับมาอยู่ที่บ้านพักด้วยกำลังใจจากทุกฝ่าย เป็นบุญสูงสุดในชีวิตที่ได้รับพระราชทานการช่วยเหลือ" แม่น้องโจ้กล่าว

 

 รวม กลอนวันพ่อ  คำขวัญวันพ่อ การ์ดวันพ่อ เรียงความวันพ่อ บทความวันพ่อ กลอนในหลวง สำหรับ วันพ่อ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ 




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องราวมากมายของเด็กยากจน หลังได้รับพระเมตตา อัปเดตล่าสุด 3 ธันวาคม 2552 เวลา 11:46:17 23,850 อ่าน
TOP