โอละพ่อ จัดงานศพเปิดโลง เจ้าภาพช็อคไม่ใช่ญาติ (คมชัดลึก)
โอละพ่อจัดงานศพให้ญาติหมดไปกว่า 3 หมื่นบาท หลังรับศพจากมูลนิธิการกุศลที่แปดริ้ว แต่ก่อนเผาเปิดดูโลงศพครั้งสุดท้าย พบในโลงไม่ใช่ญาติ เช็คกันวุ่น สุดท้ายเจ้าตัวยืนยันยังอยู่
เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 12 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก พ.ต.ท.พีระพันธุ์ จันทร์เทียน รองผกก.ส.ภ.จว.อ่างทอง ว่า ที่วัดช้าง ม.1 ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ. อ่างทอง กำลังจะมีพิธีเผาศพ แต่ปรากฏว่า พอเปิดโลงออกมาดูผู้เสียชีวิตกลับไม่ใช่ญาติของเจ้าภาพ สร้างความฮือฮากับแขกที่จะมาเผาศพ
หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดช้าง ปรากฎว่า พบประชาชนต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น
สอบถาม นายคมกริช ครองตน อายุ 42 ปี ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ศพที่จะทำการเผาในวันนี้คือ นายประจวบ อรชร อายุ 39 ปี ซึ่งได้รับแจ้งจาก สภ.โพธิ์ทอง ว่า มูลนิธิการกุศลงของจังหวัดฉะเชิงเทราได้โทรมาแจ้งว่า พบศพนายประจวบ ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2552 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว และพบบัตรประจำตัวประชาชนในกระเป๋าผู้ตาย ระบุว่าชื่อ นายประจวบ อรชร อายุ 39 ปี
หลังจากนั้นจึงได้ประสานให้มูลนิธิฯ ได้นำศพมาส่งให้ที่วัดช้าง ต.ม่วงเตี้ย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2552 เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศล แต่เนื่องจากตนไม่ใช่ญาติที่แท้จริง เป็นเพียงผู้ที่เคยให้การอุปการะมานานกว่า 20 ปี จึงแจ้งไปยังญาติที่แท้จริงที่อยู่ที่ ต.ยางซ้าย ให้รับศพนายประจวบไปทำพิธีทางศาสนา
แต่เนื่องจากทางญาตินายประจวบมีฐานะยากจน ตนจึงร่วมกับชาวบ้านในตำบลม่วงเตี้ยจัดพิธีทางศาสนาให้ โดยได้ทำการสวดศพ เมื่อคือวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดจะทำการเผาศพในเวลา 16.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.
แต่ปรากฎว่าเมื่อทำพิธีทางสงฆ์เสร็จแล้ว ก็ได้ทำการเปิดโลงศพดู ปรากฏว่า ศพที่อยู่ในโลงรูปร่างลักษณะ ไม่ใช่ นายประจวบ ตนจึงโทรศัพท์ไปยังเบอร์นายสุจิน อรชร อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายประจวบ ก็ได้รับคำตอบว่านายประจวบยังไม่ตาย โดยยืนยันว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายประจวบ ยังได้เดินทางมาหาตนที่บ้านเลย ก่อนที่นายสุจิน จะให้เบอร์โทรของนายประจวบ จากนั้นตนก็ได้โทรพูดคุยกับนายประจวบ ซึ่งขณะนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่บ้าน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ
นายคมกริช กล่าวอีกว่า ครั้งแรกที่ตนเชื่อว่า นายประจวบเสียชีวิตแล้วก็ด้วยเหตุที่ว่าพบบัตรประตัวประชาชนของนายประจวบอยู่กับศพที่เสียชีวิต ประกอบกับได้มีหนังสือราชการจาก สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ถึงนายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ลงวันที่ 10 ธ.ค. 2552 เพื่อขอออกใบมรณบัตรนายประจวบ
และเมื่อทาง สภ.โพธิ์ทอง ตรวจสอบประวัติของนายประจวบก็พบว่า นายประจวบได้เคยแจ้งบัตรประชาชนหายไว้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 52 และได้ทำใหม่ไปแล้ว สำหรับบัตรประชาชนที่พบอยู่ในศพนั้น เป็นบัตรเก่า ซึ่งเคยแจ้งหายไว้ โดยไม่ทราบว่าไปอยู่ในศพของผู้ตายได้อย่างไร
สำหรับในการจัดงานศพมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น จำนวน 32,555 บาท ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายในการรับ-ส่งศพของมูลนิธิฯจำนวน 6,000 บาทแล้ว ในส่วนของศพนั้นทางมูลนิธิฯจะมารับศพกลับไปเพื่อไปทำการเผาเป็นศพไม่มีญาติต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
