สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์, ไทยรัฐ
จากกรณีการตรวจยึดอาวุธสงคราม เครื่องบินลำเลียงแบบทหาร สัญชาติจอร์เจีย ที่มาจากเกาหลีเหนือ และขอลงจอดเติมน้ำมันที่สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ประกอบด้วยอาวุธหนักหลายชนิด เช่น หัวจรวด ท่อส่งจรวด จรวดอาร์พีจี ท่อส่งจรวดกราวด์ มิสไซล์ ฯลฯ น้ำหนักรวมประมาณ 40 ตัน ทั้งหมดบรรจุหีบห่อมาเป็นอย่างดี อยู่ในตู้เหล็กและลังไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ พร้อมควบคุมตัวกัปตันและลูกเรือชาวคาซัคสถานและเบลารุสทั้งหมด 5 คน ฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัวศาลอนุญาตตามคำร้อง นำตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯแล้ว ส่วนการดำเนินคดีตำรวจต้องร่วมกับอัยการฝ่ายต่างประเทศ เผยก่อนจับสำนักข่าวกรองประสาน สมช. ตรวจสอบ
สำหรับที่มาของการจับกุมครั้งนี้ เป็นรายงานจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ที่ได้รับข้อมูลข่าวกรองจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ว่าจะมีการลำเลียงอาวุธสงครามร้ายแรงด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบ IL 76 หรืออิลยูชิน 76 โดยจะนำเครื่องลงจอดเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานดอนเมืองเข้าตรวจสอบช่วงเย็นวันที่ 11 ธ.ค. พบว่าเป็นอาวุธสงครามชนิดร้ายแรง จึงรายงานกลับมาที่ สมช. ก่อนประสานกองทัพอากาศ และตำรวจท่าอากาศยานเข้าจับกุม ส่วนการดำเนินคดีนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจสอบอาวุธที่ตรวจยึดได้ต้องใช้เวลา เพราะรายละเอียดของสิ่งที่ยึดได้มีหลากหลายพอสมควร และต้องเทียบเคียงกับข้อมติของสหประชาชาติ ว่าของแต่ละประเภทแนวปฏิบัติจะเป็นอย่างไร โดยเคยมีการยึดตามมตินี้ไปแล้วครั้งที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) กำลังตรวจสอบกันอยู่ว่าที่ยูเออีนั้นดำเนินการอย่างไร
ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงรางวัลนำจับนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ หน้าที่ของเราคือต้องเป็นสมาชิกที่ดีของประชาคมโลก คิดว่าสิ่งที่ได้ทำไปคือการทำหน้าที่โดยอาศัยการข่าวร่วม และทำตามข้อมติของสหประชาชาติเป็นหลัก
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายห่วงการจับกุมอาวุธดังกล่าวนั้น ขอยืนยันว่าทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง และพร้อมเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องทราบ ว่าประเทศไทยทำตามหน้าที่ เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งประเทศเจ้าของเครื่องบิน ประเทศที่ลูกเรือและกัปตันถือสัญชาติ ประเทศที่ขายสินค้า รวมทั้งประเทศที่ซื้อสินค้า ขณะนี้ยังไม่แสดงตัวออกมา สำหรับเรื่องอาวุธต่าง ๆ นั้นยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใส แต่ขณะนี้ยังตรวจสอบและจัดทำบัญชีไม่ครบ เพราะมีจำนวนมาก ต้องใช้เวลา
เมื่อถามถึงกรณีนายจตุพร ระบุว่ารัฐบาลไทยได้รางวัลนำจับจากสหรัฐอเมริกา 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจง "ผมจะไปชี้แจงกับคนบ้า ๆ ทำไม จตุพรบ้าไปแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (15 ธ.ค.) หน่วยงานด้านความมั่นคงจะเดินทางเข้าตรวจอาวุธสงครามทั้งหมดที่เก็บรักษาไว้ ในกองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ประกอบด้วยคณะของตำรวจกองปราบปราม สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม และผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอาวุธทั้งหมด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
