x close

วสิษฐให้ระงับ รื้อหมดโผตร.ภาค2

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ



วสิษฐให้ระงับ รื้อหมดโผตร.ภาค2 แถลงผลสอบ ชี้ชัดมีนักการเมืองเอี่ยว จ่อคิวเชือดภ.1-4-6 (ไทยรัฐ)

          "วสิษฐ เดชกุญชร" ประชุมเสร็จ แถลงโป้ง โผแต่งตั้งโยกย้าย บช.ภ.2 มีปัญหาต้องรื้อทำใหม่หมด ระบุมีข้อมูลนักการเมืองเข้าไปเอี่ยว ชงเรื่องให้นายกฯรับทราบ กรรมาธิการตำรวจจี้สอบผู้กำกับเสื้อแดงพัทยาได้ดี ขึ้นรองผบก.สืบสวนภาค 2 เตรียมส่งนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ลงพื้นที่ภาค 1 ส่วนเทพเทือกโบ้ยปัดข่าว ไม่พูดเรื่องนักการเมืองแทรกแซง สตช.เปิดตำแหน่ง สบ 10 เทียบรอง ผบ.ตร. ดันอัศวินเข้าที่ประชุม

          ความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีปัญหาร้องเรียนการซื้อขายตำแหน่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการสอบสวนซื้อขายตำแหน่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. ว่าข้อมูลเบื้องต้น เชื่อว่าการแต่งตั้งโยกย้ายในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ส่วนข้อมูลในเรื่องการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองยังไม่มี เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ข้อมูลกับชุดสอบสวนซึ่งมี พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ โดยระบุว่า มีแกนนำพรรครัฐบาล ชื่อย่อ "ส" มีส่วนเกี่ยวข้อง นายเฉลิมชัยตอบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นชุดที่นายกฯ เป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมา แต่คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาการซื้อขายตำแหน่งตามข้อร้องเรียนจากตำรวจโดยตรง แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด หากบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว คณะกรรมาธิการ  จะรายงานให้นายกฯ ทราบทันที ซึ่งนายกฯ ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการละเว้นใครทั้งนั้น และคณะกรรมาธิการไม่ต้องประสานข้อมูลกับชุดที่นายกฯตั้งขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วการสอบสวนของทุกชุด  ก็ต้องส่งตรงถึงมือนายกฯ เพื่อพิจารณาเป็นคนสุดท้าย 

          เมื่อถามว่า มีตำรวจบางส่วนเปิดเผยบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายตำแหน่ง ในบช.ภ.2 ระบุชื่อว่า "เบี๋ยง" หรือ "เหวียง" นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เราได้ชื่อและนามสกุลพร้อมที่อยู่จริงของบุคคลดังกล่าวแล้ว เป็นบุคคลคนเดียวกัน มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และมีอำนาจอยู่ใน บช.ภ.2 เลยมีอิทธิพล ซึ่งบุคคลนี้ทำธุรกิจด้านขนส่งรถลาก อยู่ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ ฝั่งธนบุรี อย่างไรก็ตาม เราต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะถ้าสาวไม่ถึงต้นตอ หรือไม่มีใบเสร็จ ก็จะกลายเป็นมวยล้ม เชื่อว่าต่อไปนี้จะมีตำรวจกล้าออกมาเปิดเผยข้อมูล และกล้าต่อสู้ในเรื่องความไม่เป็นธรรมอีกเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยผลสอบของคณะกรรมาธิการ จะทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจครั้งหน้ามีความเป็นธรรมมากขึ้น ไม่มีการอุ๊บอิ๊บอย่างที่ผ่านมาอีก นอกจากนี้ หากผลสอบสวนพบความไม่เป็นธรรมจริง จะมีขั้นตอนส่งให้ศาลปกครองสั่งคืนสิทธิ คืนตำแหน่งให้ผู้เสียหายได้ โดยในสัปดาห์หน้า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะทำงานตรวจสอบเรื่องการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมและการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ บช.ภ.1 

          ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ คณะทำงานชุดนี้จะไปดูเรื่องการแต่งตั้งผู้กำกับเสื้อแดงด้วย เพราะจากเหตุการณ์กลุ่มเสื้อแดงบุกการประชุมอาเซียนที่พัทยา แต่กลับได้ดี ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บังคับการสืบสวนภาค 2 ด้วย ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ส่วนใหญ่มาจากข้อยกเว้นหลักเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งถือว่าเป็นช่องว่างทำให้เกิดปัญหา ดังนั้นคณะทำงานชุดนี้จะเข้าไปดูรายละเอียดในจุดนี้ด้วย โดยเห็นว่าจะต้องมีการสัมมนาโครงสร้างตำรวจครั้งใหญ่ เพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายในอนาคตเป็นไปอย่างชอบธรรมมากที่สุด 

          ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีนักการเมืองระดับบิ๊กในรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งตำรวจด้วยว่า ใครไปเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีก็สั่งดำเนินการหมด ถ้าการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานไปถึงใคร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งก็ต้องดำเนินคดี เมื่อถามว่าเคยได้ยินชื่อนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาก่อนหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ตนไม่พูดอะไรที่เป็นเรื่องข่าวลือ จนกว่าจะเห็นเรื่องจริง เพราะถ้าพูดไปจะกระทบกระเทือนคนอื่น เราก็ต้องอดทนรอให้คณะกรรมการสอบสวนการร้องเรียนการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ ชุดที่ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร สรุปผลออกมาก่อน

เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีเพิ่มเติมคำสั่งการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งตำรวจใน บช.ภ.1 และ 4 ด้วย จะทำให้ต้องมีการรื้อโผโยกย้ายตำรวจใหม่ทั้งหมดหรือไม่

          นายสุเทพ ตอบว่า
ไม่มีปัญหา ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องแก้ไข สำหรับการประชุมคณะกรรมการ ก.ตร.ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ จะมีการพิจารณาทบทวนคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจกันใหม่หรือไม่นั้น นายสุเทพตอบว่า รักษาการผบ.ตร. คงจะมีการรายงานในที่ประชุม แต่ยืนยันว่าการเมืองไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการจัดทำโผโยกย้ายตำรวจในครั้งนี้แน่นอน

เมื่อถามว่า การที่นายกฯสั่งสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งและต้องมีการรื้อโผตำรวจกันใหม่ ทำให้เห็นว่าในยุครัฐบาลที่นายสุเทพกำกับดูแลสตช.มีปัญหามากกว่ายุคอื่นหรือไม่

          นายสุเทพ ตอบว่า
ปัญหามันก็มีทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่เราจะดำเนินการแก้ไขปัญหาหรือไม่ บางสมัยเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่แก้ไข บางสมัยต้องการที่จะแก้ไขก็ต่างกัน

          ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ทบทวนคำสั่ง บช.ภ.1 และ บช.ภ.4 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนข้อเท็จจริง ขบวนการแต่งตั้งที่มี พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สรุปผลตรวจสอบสวนแล้วพบว่าผิดพลาดคำสั่ง บช.ภ.2 เท่านั้น ส่วนภาคอื่นที่มีความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่สำคัญ เป็นเรื่องที่บช.ต้องไปปรับแก้ไขคำสั่งใหม่ ต้องแยกกันในชุดสอบของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรอง อ.ตร. ที่สอบในเรื่องซื้อขายตำแหน่งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่คณะกรรมการฯชุด พล.ต.ท.เอก ตรวจสอบคำสั่งทุก บช.ที่ขัดคำสั่งและขัดหลักเกณฑ์ ก.ตร. ซึ่งมีหลาย บช.ต้องไปแก้ไขคำสั่ง รวมทั้ง บช.ภ.2 เพื่อให้คำสั่งมีผลในวันที่ 16 ก.พ.นี้

          รรท.ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ในขณะนี้พบปัญหาตำแหน่งสว.ใน บช.ภ.3 และ บช.ภ.4 มีตำแหน่ง สว.มากกว่าตัวคนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่ใน บช.น. มีรอง สว.ที่มีคุณสมบัติครบขึ้นเกินกว่าตำแหน่ง จึงได้เสนอให้รอง สว.ไปขึ้นที่ บช.ภ.3 หรือ บช.ภ.4 แต่ต้องขออนุมัติจาก ก.ตร.

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลสอบคณะทำงานที่พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอ.ตร. เป็นประธาน ชี้ว่ามีการซื้อขายตำแหน่งจริงจะดำเนินการอย่างไร

          นายสุเทพ ตอบว่า
ถ้าพบต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง หรือถ้าเกี่ยวพันกับอาญา ก็ต้องดำเนินคดีทางอาญาด้วย เมื่อผลสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วสิษฐเสร็จสิ้นก็จะนำมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้ต่างคนต่างทำคู่ขนานกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งแต่งตั้งมีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่

          นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอผลการสอบสวนก่อน แต่ก่อนหน้าไม่มีการเมืองแทรกแซง เพราะเป็นอำนาจ บช.เป็นผู้ทำการแต่งตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การนัดประชุม ก.ตร.เพื่อเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. แก่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. จำเป็นมากน้อยแค่ไหน ทั้งที่ปัจจุบันมีตำแหน่ง พล.ต.อ.มากอยู่แล้ว

          พล.ต.อ.ปทีป ตอบว่า
เป็นเรื่องที่ ก.ตร.พิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ตรงนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสนอ ก.ตร.ขอเปิดตำแหน่งใช่หรือไม่

          พล.ต.อ.ปทีป ตอบว่า
ตามขั้นตอน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสนอ แต่อำนาจการพิจารณาจะอนุมัติหรือไม่ เป็นเรื่องของ ก.ตร.

          ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางไปเป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.วาระพิเศษ ขออนุมัติกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. แก่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. โดยอ้างผลงานคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และคดียิงนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ ไฮโซเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนดัง แต่คาดว่าน่าจะมีการถกเถียงกันอย่างหนัก เนื่องจากที่ผ่านมา ก.ตร.ส่วนใหญ่ก็เคยคัดค้านการข้ามอาวุโสของ พล.ต.ท.อัศวินที่ขัดประเพณีการแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.และ ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาแล้ว

          ส่วนที่บ้านพิษณุโลก เวลา 19.00 น. พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับรอง ผบก.-ส.ว. ของ สตช. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการทั้ง 5 คน เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้าย ใน บช.ภ.2 จากนั้นเวลา 20.30 น. ได้แถลงถึงผลการสอบว่า ได้ตรวจสอบผลการซื้อขายตำแหน่งในส่วน บช.ภ.2 แล้ว และจะให้ฝ่ายเลขาฯสรุปเพื่อส่งรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบในวันที่ 12 ก.พ.นี้ แต่ไม่สามารถเปิดผลสรุปได้ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามคำสั่งนายกฯ คือให้นายกฯรับทราบก่อน ส่วนการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งในสังกัด บช.ภ.1 บช.ภ.4 และ บช.ภ.6 จะประชุมกันในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานของทั้ง 3 ภาคอยู่โดยยอมรับว่าในภาพรวมการซื้อขายตำแหน่งน่าวิตก เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อตำรวจที่ดี สำหรับในส่วนของการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจภูธรภาค 2 คงต้องหยุดไว้ชั่วคราวแล้วรื้อทำใหม่ แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ สตช. จะได้ชำระความไม่ถูกต้อง เป็นข่าวดีของตำรวจ และหวังว่าในอนาคตคงไม่เห็นการเมืองเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ อย่างไรก็ตามไม่สามารถบอกได้ว่าในส่วนของตำรวจภูธรภาค 2 มีการซื้อขายกันกี่ตำแหน่งและมีใครบ้าง ส่วนบทลงโทษขึ้นอยู่กับนายกฯเป็นผู้พิจารณา และเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะพิจารณาความผิดขอยืนยันว่า ผลสรุปในครั้งนี้คณะกรรมการฯได้ศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านแล้ว ทั้งในเอกสารและตัวบุคคล ยอมรับว่าเอกสารที่ได้รับเรื่องข้อมูลการซื้อขายตำแหน่งใน บช.ภ.2 มีการระบุถึงนักการเมือง ว่ามีส่วนในการแต่งตั้งโยกย้ายด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วสิษฐให้ระงับ รื้อหมดโผตร.ภาค2 โพสต์เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 11:20:11 6,467 อ่าน
TOP