เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
วันนี้ (23 พฤษภาคม) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี กล่าวผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ชี้แจงเหตุการณ์การจราจลที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องคืนความสงบสุขให้กับสังคม การชุมนุมที่ราชประสงค์ส่งผลกระทบกับประชาชนที่ใช้วิถีชีวิตอยู่บริเวณนั้น รัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) พยายามทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด เพื่อยุติการชุมนุมด้วยการกระชับวงล้อม โดยให้ทหารเข้าตั้งด่าน 4 ด้าน เพื่อล้อมประชิด กระชับวงล้อมของเจ้าหน้าที่นั้น มีความพยายามของประชาชนจำนวนหนึ่ง รวมถึงผู้ติดอาวุธ พยายามเข้าโจมตีด่านทั้ง 4 ทิศทาง ไม่ว่าจะเป็น สามเหลี่ยมดินแดง ถ.ราชปรารถ คลองเตย บ่อนไก่ และอื่น ๆ ทำให้มีการสูญเสีย กว่า 40 ชีวิต
"ยืนยันว่าการเสียชีวิตทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวกับการชุมนุมที่ราชประสงค์ แต่การสูญเสียเกิดจากการปะทะกัน เหตุการณ์นั้นนำมาซึ่งความสูญเสียของชีวิตทั้งผู้สื่อข่าว และประชาชนธรรมดา การปกป้องของเจ้าหน้าที่เป็นการปกป้องด่านเท่านั้น และการใช้อาวุธจริงก็เป็นการป้องกันตัว เนื่องจากมีการยิงเอ็ม 79 เข้ามาในพื้นที่ตั้งด่านถึงร้อยกว่าครั้ง แต่ที่พบว่าไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่ได้รับความสูญเสีย เป็นเพราะเจ้าหน้าที่วางแแผนรัดกุม แต่การปะทะเกิดจากกลุ่มติดอาวุธ พยายามทำลายประชาชนด้วยกันเอง โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวต่างชาติ เพื่อเพิ่มความแค้นเคือง อารมณ์โกรธ และนำมาเป็นเงื่อนไขในการสร้างความชอบธรรมให้กับเจ้าหน้าที่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เสี่ยงชีวิตเข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาะวะปกติแล้ว ส่วนการควบคุมตัวแกนนำที่ ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าอยู่สบาย หลังมีภาพออกมานั้น ยืนยันว่าเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะคุมขังในคุกไม่ได้ แต่ตนได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้แล้ว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ผมไม่เคยปฏิเสธการยุบสภาก่อนครบวาระ แต่เป้าหมายคือต้องเป็นการเลือกตั้งที่สุจริต ยุติธรรม ภายหลังจากที่เหตุการณ์สงบก็กลับมาอยู่ในดุลพินิจของผม ว่าจะเลือกตั้งวันไหน เพราะขณะนี้ยังมีคนบอกจะสู้ต่อเนื่อง ตอนนี้การใช้ชีวิตของผมก็ยังไม่ได้กลับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตปกติของพี่น้องประชาชน น่าจะเริ่มต้นได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนตัวผมคงไม่ง่ายที่จะมาใช้ชีวิตปกติ ผมต้องยอมรับ เพราะผมเป็นอาสาสมัครเข้ามาทำงานการเมือง ครอบครัวผมย้ำในช่วงเกิดเหตุการณ์ว่า เมื่อเข้ามาแล้ว เขาไม่อยากให้อยู่ เพราะฉะนั้น ช่วงที่อยู่ก็ให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังระบุถึงการประกาศเคอร์ฟิวในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานตร และอีก 29 จังหวัดทั่วประเทศ ว่าจะยังคงมีการประกาศเคอร์ฟิวเพิ่มไปอีก 2 วัน คือวันที่ 23-24 พฤษภาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กำลังประชุมเพื่อขยับเวลาในการกำหนดช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อความไม่สะดวกของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบและประกอบอาชีพด้วยความสุจริต อาจจะเป็นในช่วงเวลาตั้งแต่ 4 ทุ่ม หรือ 5 ทุ่ม ไปสิ้นสุดในเวลา ตี 4 หรือตี 5 แต่คงต้องรอ ศอฉ. แถลงความชัดเจนอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ และต้องดูต่อไปว่าจะมีการประกาศเพิ่มอีกหรือไม่
