เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เปิดเผยในแถลงการณ์ศอฉ.ว่า ศอฉ.สรุปการสูญเสียทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.จนถึงขณะนี้ รวมมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 1,402 คน และมีผู้เสียชีวิต 85 รายโดยผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ 411 นาย พลเรือน 991 คน ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ 11 นาย และเป็นพลเรือน 74 ราย
โดยยืนยันว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ใช้กำลังจากเบาไปหาหนักตามกฎ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการสูญเสีย เนื่องจากถูกผู้ชุมนุมเข้ากดดัน และจำเป็นต้องใช้อาวุธจริง ส่วนหนึ่งเกิดจากเจ้าหน้าที่เอง แต่อีก 3 กรณีเกิดจาก
1. กลุ่มการ์ดนปช.ที่มีความขัดแย้งกัน
2. เกิดจากกลุ่มประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่พอใจการเคลื่อนไหวของนปช.
3. เกิดจากกลุ่มก่อการร้ายที่ใช้อาวุธสงครามเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม
ส่วนเรื่องการนำเสนอข่าวของสื่อต่างชาตินั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า หากไม่มีหลักฐานก็ไม่ควรออกมาพูด เพราะเป็นการกล่าวหาแบบลอย ๆ หากสื่อต่างชาติมีภาพก็ให้เอาออกมายืนยัน และทางศอฉ.จะตรวจสอบให้ แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไม่ได้บุกเข้าไปในวัดปทุมวนาราม ดังนั้นหากบอกว่าความสูญเสียเกิดจากเจ้าหน้าที่ก็คงเป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ศอฉ.ยังมีการนำอาวุธที่ยึดได้จากกลุ่มผู้ชุมนุมมาแสดงให้ดูในการแถลงการณ์ อีกทั้งยังเปิดคลิปการปราศรัยให้ผู้ชุมนุมเผาเมืองของเหล่าแกนนำนปช.ให้ชมอีกด้วย
ด้านเว็บไซต์ข่าว ดิ ออสเตรเลียน ของออสเตรเลีย มีรายงานว่า นายสตีฟ ทิกเนอร์ นักข่าวของเว็บไซต์นี้ เข้าไปทำข่าวการชุมนุมและอยู่ในที่เกิดเหตุสลายผู้ชุมนุมที่วัดปทุมวนาราม เล่าว่า ตลอดคืนนั้นมีแต่เสียงปืนและระเบิด และมีชายคนหนึ่งถูกทหารยิงใส่ เมื่อตนและพระสงฆ์จะเข้าไปช่วย ก็ถูกทหารยืงสกัด โดยตนคิดว่า ทหารน่าจะรู้ว่าตนเป็นนักข่าวเพราะว่าตนเองมีกล้อง จนภายหลังตนกับพระก็ช่วยชายคนนั้นเข้าไปหลบได้แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้กระทรวงการต่างประเทศรีบหาทางฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติโดยเร็วที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่