จตุพร พรหมพันธุ์
หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน แต่ไม่รายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับทราบ และกรณีเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็เข้าข่ายการรายงานไม่ตรงข้อเท็จจริงนั้น
ล่าสุดวันนี้ (23 สิงหาคม) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ในเวลา 10.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง ในคำร้องที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ในฐานะผู้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ถูกร้อง จากกรณีการใช้จ่ายเงินกองทุน เพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ โดยในวันนี้ศาลนัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง ซึ่งเป็นพยานบุคคลจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นนัดที่สอง จำนวน 5 ปาก ได้แก่...
นาย ปกครอง สุนทรสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นาย ธนิต ศรีประเทศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการพรรคการเมือง
นาย กฤช เอื้อวงศ์ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการพรรคการเมือง
นาย อนุชิต ปราสาททอง รองผู้อำนวยการสำนักงานการสนับสนุนโดยรัฐ
นาง วราภรณ์ ป้อมเพชร เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายมานิต จิตต์จันทร์กลับ และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ได้เดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอเข้ารับฟังการไต่สวนพยานคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ในนัดที่ 2 โดย นายจตุพร ระบุว่าที่มาครั้งนี้ไม่ได้มากดดันศาล
แต่ต้องการมาศึกษาแนวทางเพราะที่ผ่านมาในคดียุบพรรคพลังประชาชน ไม่ได้เปิดโอกาสให้ไต่สวนพยานเช่นนี้ เช่นเดียวกับคดียุบพรรคอื่น ๆ จากการใช้จ่ายเงินกองทุน เพื่อพัฒนาพรรคการเมืองผิดวัตถุประสงค์ ก็ไม่เปิดโอกาสให้ไต่สวนพยานเช่นกัน ไม่มีใครสามารถทำลายความน่าเชื่อถือของศาลได้ แต่ที่ผ่านมาศาลปฏิบัติในกรณีต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน วันนี้พวกตนจึงต้องมาศึกษาดูแนวทางเอาไว้ เพื่อวันหนึ่งพรรคเพื่อไทยจะต้องโดนเช่นกันบ้าง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,