ผ่าตัดยาวนาน 3 ปี สาวถูกสาดน้ำกรด หมอชุบชีวิตใหม่ (ไทยโพสต์)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งเผยความสำเร็จเปลี่ยนใบหน้าเด็กสาวที่โดนน้ำกรดระเบิดเข้าใบหน้าเละ หลังเข้ารักษาผ่าตัด 3 ปี สภาพใบหน้าดีขึ้นจนได้แต่งงานมีครอบครัว ระบุความก้าวหน้าการแพทย์ ใช้วิธีผ่าตัดเปลี่ยนย้ายผิวหนังบนใบหน้า ช่วยสร้างเนื้อเยื่อใหม่ทดแทนแผลเป็น
เมื่อวันที่ 15 กันยายน มีการแถลงผลสำเร็จในการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า น.ส.ณธิดา ไชยสิทธิ์ อายุ 17 ปี ซึ่งได้รับอุบัติเหตุน้ำกรดระเบิดใส่ใบหน้าจนเสียโฉมรุนแรง โดยทางโรงพยาบาลยันฮีได้ช่วยเหลือผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจนมีอาการดีขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้บริหารโรงพยาบาล กล่าวว่า มีนโยบายช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสในสังคมและขาดแคลนทุนทรัพย์ที่ประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากเรามีคณะแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งพร้อมที่จะรักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย กรณีของ น.ส.ณธิดา ได้รับอุบัติเหตุเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ต่อมามูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้ส่งตัวเข้ามารักษา โดยตรวจพบบาดแผลทั่วใบหน้าจากการกัดทำลายของน้ำกรด ทั้งแผลเป็นนูน ผิวหนังถูกดึงรั้งทำให้ใบหน้าผิดรูปไปมาก หางตาด้านซ้ายหดรั้งทำให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่ จมูกถูกน้ำกรดกัดหายไปบางส่วนจนไม่มีลักษณะหรือโครงสร้างเดิม มุมปากหดรั้งจนอ้าปากไม่ได้ ทานอาหารลำบาก อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการมองเห็น หายใจและการพูด หลังจากใช้เวลารักษานานกว่า 3 ปี ขณะนี้สภาพใบหน้าดีขึ้นเป็นลำดับ และยังต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
"3 ปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยเข้าผ่าตัดมากกว่า 10 ครั้ง จนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ปัจจุบันเธอแต่งงานมีครอบครัวและลูก 1 คน ทางโรงพยาบาลรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาดังกล่าวให้กลับมาอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องอับอายจากแผลเป็นนูนที่ดูน่ากลัวมากบนใบหน้า จากนี้ไปจะยังรักษาแผลเล็กๆ น้อยๆ เช่น แผลเป็นนูนบางแห่งที่แขน ขา ไหล่ ก็จะฉีดยาให้ยุบลง หรือสีผิวหนังที่ยังคล้ำอยู่ ก็ใช้ยาช่วยได้ทั้งหมดเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคงเค้ารูปหน้าเดิมที่สุด" นพ.สุพจน์กล่าว
นพ.ธวัชชัย บุญพัฒนพงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง กล่าวถึงวิธีการผ่าตัดรักษาเปลี่ยนใบหน้า น.ส.ณธิดาว่า เมื่อประเมินสภาพปัญหาแล้ว คณะแพทย์ได้วางแผนรักษาโดยเลือกการผ่าตัดเปลี่ยนย้ายผิวหนังบนใบหน้าเพื่อสร้างจมูกและริมฝีปากใหม่ให้กลับมาอยู่ในสภาพดีที่สุด เริ่มจากผ่าตัดแผลบริเวณแก้มซ้ายมีแผลเป็นนูนใหญ่ กินเนื้อที่กว้าง ต้องตัดทิ้งออกหมดแล้วย้ายผิวหนังหน้าท้องมาปิดตามแนวผิวหนังใบหน้าที่ถูกตัดออกไป หลังผ่าตัดเนื้อเยื่อติดกันดีไม่อักเสบ จากนั้นจึงรักษาใบหน้าด้านขวา แพทย์ใช้วิธียืดผิวหนังให้กว้างขึ้น ด้วยการใส่ลูกโป่งทางการแพทย์เข้าใต้ผิวหนัง เพื่อยืดผิวหนังและเนื้อเยื่อให้กว้างใหญ่ขึ้นเพียงพอที่จะสามารถนำไปปิดบริเวณหน้าด้านขวาให้เรียบปกติเหมือนเดิม
"ในกรณีนี้แพทย์ได้ใส่ลูกโป่ง 2 ลูกเข้าไปขยายเนื้อดีที่เหลืออยู่ โดยผู้ป่วยเข้ามารับการฉีดน้ำเกลือเข้าไปในลูกโป่งให้พองโตทุกสัปดาห์ เพื่อให้ได้เนื้อเยื่อยืดออกมากที่สุด จากนั้นผ่าตัดแผลเป็นนูนออกและยืดเนื้อดีที่เกิดจากการขยายตัวด้วยลูกโป่งเข้าไปปิดแทนจนเนียนเรียบ"
ส่วนบริเวณหางตาด้านซ้ายที่มีผิวหนังเป็นผังผืด ทำให้หนังตาหดรั้งมาก แพทย์ได้ผ่าตัดเอาผังผืดออก ทำให้หางตาเปิด-ปิดได้ตามปกติ ต่อมาคือการทำจมูกใหม่ เนื่องจากจมูกเดิมถูกน้ำกรดจนแหว่งหายไปไม่มีรูปร่างเดิมเหลืออยู่เลย แพทย์ใช้วิธีตัดหนังศีรษะจากบริเวณด้านซ้ายของศีรษะมาปลูกถ่ายเป็นเนื้อเยื่อบริเวณจมูกเหมือนเดิม เพื่อให้ได้จมูกที่ดูใกล้เคียงปกติมากที่สุด
ด้าน นพ.สุกิจ บุญพัฒนพงศ์ สมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำศัลยกรรมตกแต่งมีความก้าวหน้าไปมากจนถึงขั้นจุลศัลยกรรม การใช้กล้องจุลทรรศน์ผ่าตัดรักษาผู้ป่วย สิ่งที่เคยคิดว่าจะทำไม่ได้ แต่วันนี้กลับทำได้เป็นเรื่องธรรมดา การเปลี่ยนใบหน้าของ น.ส.ณธิดาเป็นการผ่าตัดเนื้อเยื่อจากอวัยวะหนึ่งไปปลูกถ่ายยังอวัยวะที่จะรักษา ซึ่งวงการศัลยแพทย์ทั่วโลกก็สามารถทำได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเทคนิคการเปลี่ยนเนื้อเยื่อใบหน้าจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ซึ่งประเทศจีนได้นำใบหน้าคนตายที่บริจาคอวัยวะไปให้อีกผู้ป่วยที่ถูกหมีตะปบใบหน้าหายไปทั้งแถบก็ทำได้แล้ว ในอนาคตวงการศัลยกรรมตกแต่งให้ความสนใจเรื่องการสร้างเพาะเนื้อเยื่อในจานทดลอง โดยนำเซลล์เนื้อเยื่อคนมาเพาะให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก
ด้าน น.ส.ณธิดาบอกว่า รู้สึกทุกข์ทรมานมากหลังจากโดนน้ำกรดระเบิดใส่ใบหน้า เมื่อเห็นหน้าตัวเองก็รู้สึกตกใจ เพราะสภาพน่ากลัวมาก ถูกเพื่อนล้อจนอับอาย ไม่กล้าออกนอกบ้าน แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ก็ไม่ทรมานเหมือนเมื่อก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบไม่ไก่ยวข้องกับข้อมูล
