ในหลวง ทรงกำชับรัฐ ดูแลประชาชนให้ทั่วถึง (ไอเอ็นเอ็น)
วันนี้ (7 พฤศจิกายน) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ โดยระบุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงกำชับให้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และต้องมีการศึกษาผลกระทบจากน้ำท่วมในทุกด้าน ในระหว่างที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายรานงานสถานการณ์บ้านเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดด้วยว่า ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว โดยตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต จากเหตุน้ำท่วมจำนวน 161 ราย ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า คงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมกันนี้ ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ยอมรับลำพังภาครัฐคงไม่สามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
สำหรับสาเหตุน้ำท่วมหนักครั้งนี้ เกิดจากในช่วงเดือนตุลาคมได้เกิดฝนตกหนัก ในลักษณะผิดปกติ ปริมาณน้ำฝนเทียบเท่ากับครึ่งปี ทำให้ช่องทางการระบายน้ำรับไม่ไหว แต่ก็ได้มีการเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว แต่ยอมรับประชาชน และเจ้าหน้าที่ไม่มีประสบการณ์รับเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งก็ได้ระดมความช่วยเหลือโดยทันทีจากทุกภาคส่วน
ส่วนมาตรการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ภาคอีสาน นายกรัฐมนตรีระบุว่า คณะรัฐมนตรีได้มีการออกมาตรการให้ความช่วยเหลือ โดยลดขั้นตอนการพิจารณา ล่าสุดได้มีการเริ่มจ่ายเงินช่วยเเหลือ ครอบครัวละ 5,000 บาท ไปหลายครอบครัวแล้ว ทำให้ประชาชนคลายความกังวลไปได้บ้าง ส่วนกรณีรายชื่อตกหล่นจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการช่วยเหลือภาคการเกษตร สำหรับนาข้าวช่วยเหลือไร่ละ 2,000 บาท ขณะวันนี้ ลำน้ำชีจะถึง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีการเตรียมการป้องกันทุกพื้นที่ที่น้ำก้อนใหญ่ไหลผ่าน ส่วนลำน้ำมูลถึง จ.อุบลราชธานี แล้ว โดยในภาคอีสานยังมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ และน้ำล้นตลิ่งอยู่บ้าง
ขณะที่ จ.นครราชสีมา หลายพื้นที่น้ำลดแล้ว และได้เข้าไปดูแลเรื่องการฟื้นฟูนทุกด้าน สำหรับการฟื้นฟูหลังน้ำลดนั้น คาดว่าจะใช้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้าน โดยตนให้หน่วยงานต่าง ๆไปปรับแผนการใช้จ่ายเงิน เพื่อระดมช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว จะต้องมีการปรับปรุงเรื่องการจัดระบบน้ำ และอาจต้องมีการปรับผังเมืองใหม่
สำหรับสภานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ยอมรับหนักที่สุด เพราะยังมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่เป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดน้ำเน่าเสีย โดยภายใน 2-3 วัน จะมีการระดมเครื่องสูบน้ำออกสู่ลำน้ำหลัก ขณะที่ภาคใต้นั้นในวันนี้ตนเตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ส่วนสัปดาห์หน้า จะเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
