x close

ตะกร้อไทยรับอัดฉีดเละกว่า 50 ล้าน






ตะกร้อไทยรับอัดฉีดเละกว่า50ล. (ไทยโพสต์)

          ขุนพลนักหวดลูกพลาสติกทีมชาติไทยประกาศศักดา ส่งแข่ง "กว่างโจวเกมส์" 4 ประเภท กวาดเรียบ 4 เหรียญทอง ล่าสุดทีมเดี่ยวชายและหญิงปราบคู่ปรับเก่าอย่างมาเลเซียและเวียดนามราบคาบ เห็นยอดตัวเลขรับเงินอัดฉีดจากรัฐบาลแล้วตกใจ นักกีฬาตะกร้อชุดนี้รับทรัพย์ไปเนื้อ ๆ กว่า 50 ล้าน ขณะที่เหรียญทองแดงไทยได้อีก 2 จากนักคาราเต้ ส่วนนักชกสาว ทัศมาลี ทองจันทร์ เข้าชิงเหรียญทองแล้ว

          การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 เมื่อวันพุธที่ 24 พ.ย. 2553 ทัพนักกีฬาไทยมีความหวังเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ ประเภททีมเดี่ยว ทั้งชายและหญิง โดยแข่งขันที่สนามไห่จู สปอร์ตส เซ็นเตอร์

          ประเภททีมเดี่ยวชาย รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทยกับคู่ปรับตลอดกาลทีมชาติมาเลเซีย โดยทีมชาติไทย ซึ่งประกอบด้วย อนุวัฒน์ ชัยชนะ, ภัทรพงศ์ ยุพดี และวีระวุฒิ ณ หนองคาย ปรากฏว่าเกมนี้ขุนพลนักหวดลูกพลาสติกของไทยอาศัยเกมเสิร์ฟที่ยอดเยี่ยม และการประสานงานที่ยอดเยี่ยม เอาชนะไปได้สบาย ๆ 2-0 (21-12, 21-19) คว้าเหรียญทองประเภททีมเดี่ยวชายมาครองได้สำเร็จ และนับเป็นเหรียญทองที่ 8 ของทัพนักกีฬาไทยใน "กว่างโจวเกมส์"

          ภายหลังแข่งขัน กมล ตันกิมหงษ์ โค้ชทีมตะกร้อชายไทย เปิดเผยว่า "เซตแรกเราเล่นสบาย เพราะมาเลเซียจับทางวีระวุฒิ ณ หนองคาย ดาวรุ่งของเราไม่ได้ เพราะว่าเราเก็บตัวไม่ให้เห็นฟอร์มมาจนกระทั่งวันนี้ ส่วนเซต 2 มาเลเซียแก้เกมมาดี ส่งนอชาห์ รุดดิน กานี ลงมาทำเกมหน้าเน็ต ทำให้เกมดีขึ้น แต่เราก็ดีใจที่คว้าเหรียญทองมา 4 สมัยแล้ว แต่ครั้งนี้ถือว่ายากที่สุด"

          ส่วนประเภททีมเดี่ยวหญิง ทีมชาติไทย ลงเล่นแมตช์สุดท้ายพบกับทีมชาติเวียดนาม โดยสาวไทย ประกอบด้วย พิกุล สีดำ, ธิดาวรรณ ดาวสกุล และนรีรัตน์ ตาขัน ซึ่งในนัดชิงเหรียญทองนี้ ต้องเล่นกันถึง 3 เซต โดยเซตแรกไทยเอาชนะไปก่อน 21-15 แต่เซตต่อมาเวียดนามอาศัยลูกเสิร์ฟของเหงียน ทิ ฮอย และการฟาดหน้าเน็ตของเหงียน ไฮ เธา เอาชนะได้บ้าง 21-14 จนเสมอกัน  1-1 เซต ก่อนที่เซตตัดสิน นักหวดสาวไทยเล่นได้แน่นอนกว่า เอาชนะไป 15-11 ทำให้ทีมไทยเอาชนะ 2-1 เซต (21-15, 14-21, 15-11) คว้าเหรียญทองที่ 4 ของทีมตะกร้อตามเป้า และเป็นเหรียญทองที่ 9 ให้ทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ

          ซึ่งนายวีรัส ณ หนองคาย โค้ชตะกร้อทีมหญิง เปิดเผยว่า ทีมเล่นดีตามมาตรฐานในเซตแรก ส่วนเซต 2 ที่แพ้ เนื่องจากพิกุลและธิดาวรรณเร่งจังหวะจนพลาดเสียเองหลายครั้ง แต่เซตตัดสินเราก็แก้เกมดีจนเอาชนะเวียดนามได้ ดีใจมากที่ทีมตะกร้อคว้าเหรียญทองครบทั้ง 4 เหรียญ

          ส่วน พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมตะกร้อฯ เปิดเผยว่า "ทีมตะกร้อไทยได้ 4 เหรียญทองถือว่าน่าพอใจ เพราะเอเชียนเกมส์คราวนี้ ไทยคว้าเหรียญยากมาก ก็ต้องมาหวังจากตะกร้อ ลบความผิดหวังจาก 4 ปีก่อนที่หลุดมือไปประเภทหนึ่ง ส่วนเงินอัดฉีดสมาคมไม่มี เพราะทีมชุดชาย-หญิงก็ได้จากรัฐบาลแล้วทีมละ 12 ล้านบาท เป็น 24 ล้านบาท ทีมเดี่ยวชาย-หญิง รวมกัน 10 ล้านบาท เป็น 34 ล้านบาท แล้วบวกกับโค้ชได้อีก 50 เปอร์เซ็นต์ เป็น 17 ล้านบาท รวมแล้วทีมตะกร้อมาคราวนี้จะได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐบาลเป็นเงิน 51 ล้านบาท" พล.ต.จารึกเผยในท้ายที่สุด

          ส่วนกีฬาคาราเต้ประเดิมทำการแข่งขันวันแรกของไทย มีลงชิงชัย 2 คนคือ "น้องปุ้ย" ญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา และหิรัญนิธิชัชพล สารธรรม ชิงชัยรุ่น 50 กก.หญิง และ 55 กก.ชาย ปรากฏว่า ญาณิศา แพ้ให้กับหลี่ หง นักกีฬา "เจ้าภาพ" จีน ในรอบรองฯ ทำให้ได้ลุ้นเหรียญทองแดง และในรอบชิงเหรียญทองแดง ญาณิศา ก็เอาชนะคะแนนดิบ วาเลนา วาเลนตินา จากอินเดีย หลังเสมอ 0-0 คว้าเหรียญทองแดงไปครอง ส่วนเหรียญทองเป็นของจีน และเหรียญเงินของเวียดนาม

          ทางด้านหิรัญนิธิชัชพลที่พ่ายแพ้รอบรองชนะเลิศ แต่ได้เข้าไปลุ้นเหรียญทองแดงกับมานูเอล เดอ คาร์วัลโญ มาร์เกซ จากติมอร์เลสเต ก่อนที่นักคาราเต้ไทยจะเอาชนะไป 1-0 คว้าเหรียญทองแดงเพิ่มให้ไทย ส่วนเหรียญทองเป็นของมาเลเซีย และเหรียญเงินซาอุดีอาระเบีย

          มวยสากลสมัครเล่นหญิง ทัศมาลี ทองจันทร์ นักชกสาวไทยพบกับไซดา คาสซีโน นักชกสาวจากคาซัคสถาน ในพิกัดน้ำหนัก 60 กก. แม้นักชกสาวไทยจะเสียเปรียบช่วงชก แต่ทัศมาลีก็อาศัยจังหวะ 2 ทำแต้ม ครบยก ทัศมาลี ทองจันทร์ เป็นฝ่ายชนะไป 8-3 ลอยลำเข้าสู่รอบชิงเหรียญทองมวยเสื้อกล้ามหญิง โดยรอบชิงจะพบกับต่ง เฉิง นักชกจีน ซึ่งทัศมาลีกล่าวว่า "วันนี้รู้สึกเกร็งในช่วงแรก สำหรับรอบต่อไปที่จะพบกับนักชกจีนนั้นจะขึ้นชกแบบไม่กดดัน เพราะเราเป็นรองเรื่องเสียงเชียร์อยู่แล้ว และนักมวยคนนี้สไตล์ดีกว่าคาซัคสถานแน่นอน ต้องระวัง โดยจะคงเน้นบล็อกแล้วสวนเหมือนเดิม"

          ทางด้านการแข่งขันกีฬาฮอกกี้หญิงเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการจัดอันดับ 5-6 ของเอเชีย ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติมาเลเซีย โดยในรอบแรกแบบพบกันหมด ทีมไทยนั้นพ่ายให้มาเลเซียไป 0-5 สำหรับการเล่นในนัดนี้ไทยก็ยังสู้ไม่ได้ แพ้มาเลเซียไปอีก 3-0 มาเลเซีย คว้าอันดับ 5 ส่วนไทยคว้าอันดับ 6 โดยมีคาซัคสถานเป็นอันดับที่ 7 ซึ่ง "มาดามมล" นฤมล ศิริวัฒน์ ผู้จัดการทีมสาวไทย กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับผลงานของลูกทีมอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะพ่ายให้กับมาเลเซียก็ตาม ซึ่งต้องยอมรับว่านักกีฬาไทยนั้นเจ็บหลายคน การจบอันดับที่ 6 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ทางสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทยได้ตั้งเอาไว้

          ผู้จัดการทีมยังกล่าวเสริมว่า หลังจากที่จบรายการเอเชียนเกมส์เราได้อะไรหลาย ๆ อย่างมาเป็นข้อคิดในการพัฒนาฮอกกี้ให้กับประเทศไทยของเรา โดยเฉพาะเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาต้องนำมาใช้เยอะ ๆ และระบบสไตล์การเล่นของไทยต้องเปลี่ยนใหม่และแก้ไขหลายจุด ซึ่งทีมฮอกกี้มหาอำนาจของเอเชียอย่างจีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น-อินเดีย เขาเปลี่ยนระบบการเล่นของเกมกันใหม่หมด ซึ่งเราต้องนำมาปรับและจูนให้ได้ เชื่อว่าในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ฮอกกี้สาวไทยน่าจะพัฒนาขึ้นและทำผลงานได้ดี




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตะกร้อไทยรับอัดฉีดเละกว่า 50 ล้าน อัปเดตล่าสุด 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา 17:30:09 12,412 อ่าน
TOP