จุฬาฯใช้ไม้แข็งผู้ค้ายังดื้อแพ่งจี้ตร.ดำเนินคดี (ไทยโพสต์)
จุฬาฯ จัดระเบียบทางเท้ารอบสยามสแควร์ ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามแล้ว แต่ยังมีผู้ค้าดื้อแพ่งขายของช่วงกลางคืน ลั่นใช้มาตรการกฎหมายเด็ดขาด ไม่ผ่อนผันอีกแล้ว กทม.รับภาระจัดหาพื้นที่ขายให้ผู้ค้านอกจุดผ่อนผันขึ้นศูนย์การค้าจตุจักรสแควร์ แก้ปัญหาผู้ประกอบการแผงลอยกีดขวางทางเท้าผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงโครงการจัดระเบียบทางเท้าโดยรอบสยามสแควร์ โดย รศ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี กำกับดูแลสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานกำลังเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ทางเท้าโดยรอบพื้นที่สยามสแควร์ ภายหลังจากได้มีมาตรการขอคืนทางเท้าจากร้านค้าแผงลอยที่ผิดกฎหมาย ทั้งด้านถนนพระราม 1 ถนนพญาไท และถนนอังรีดูนังต์ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อให้คนเดินเท้าได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยในเบื้องต้นได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เริ่มจากฝั่งถนนพระราม 1 บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามไปจนถึงโรงภาพยนตร์สกาลา ด้วยการนำกระถางต้นไม้มาประดับตกแต่งเสริมสร้างทัศนียภาพให้สวยงาม และทำให้ผู้สัญจรทั่วไปรวมถึงคนพิการใช้ทางเท้าได้สะดวกสบาย
รศ.นพ.เพิ่มยศระบุว่า ตั้งแต่ที่มีการจัดระเบียบทางเท้าและได้ส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่เพื่อไม่ให้มีผู้ค้าเข้ามาตั้งแผงขายสินค้า ผลปรากฏว่ามีผู้ใช้ทางเท้าและผู้ประกอบการในสยามสแควร์ต่างรู้สึกชื่นชอบอย่างมาก โดยผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า มีผู้ใช้ทางเท้าเกิดความพึงพอใจสูงถึง 96.8% และผู้ประกอบการพึงพอใจ 89.5% เนื่องจากช่วยทำให้ทัศนียภาพโดยรอบสยามสแควร์มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเจริญตาเจริญใจขึ้นทันที และอยากให้รักษาความสวยงามแบบนี้เอาไว้
"สำนักงานเริ่มประชาสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยติดตั้งป้ายแสดงเขตที่ดินของจุฬาฯ และแจกใบปลิวให้ผู้ค้ารับทราบมาตรการดังกล่าวเพื่อขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ทางเท้ารอบสยามสแควร์ และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาใช้แผนปฏิบัติการควบคุมพื้นที่ โดยติดตั้งแผงเหล็กกั้นและจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเข้มงวด พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิด เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ค้าที่ผิดกฎหมายประมาณ 50 รายบุกรุกเข้ามาขายสินค้าในช่วงกลางคืน ผู้ค้าบางส่วนย้ายไปใช้พื้นที่ทางเท้าด้านถนนอังรีดูนังต์และถนนพญาไท ดังนั้นจึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินคดีผิดการจราจรและการรักษาความสะอาด ส่วนช่วงกลางวันไม่มีผู้ค้าแล้ว" รองอธิการบดี จุฬาฯ เผย
ส่วนการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสยามสแควร์นั้น ทางจุฬาฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมสถาปนิกสยามฯ องค์กรผู้พิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และกลุ่มกรุงเทพฯ เดินสบาย นำผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจากการประกวดแบบทางเท้ากรุงเทพฯ เดินสบาย ไปใช้เป็นต้นแบบในการปรับปรุงทางเท้าและภูมิทัศน์ใต้สถานีบีทีเอสสยาม ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดปรับปรุงทางเท้าบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สยาม เช่น ปรับจุดจอดรถเมล์และเพิ่มช่องทางเว้า เพื่อให้รถสาธารณะสามารถเข้าไปจอดรับส่งผู้โดยสารโดยไม่กีดขวางการจราจร
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ค้าที่ผิดกฎหมายนั้น ทางสำนักงานได้เปิดรับลงทะเบียนมาตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อส่งมอบให้กรุงเทพมหานครในการจัดหาพื้นที่รองรับผู้ค้ากลุ่มนี้ ล่าสุดมีผู้ค้ามาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กับทางจุฬาฯ แล้วจำนวน 362 ราย
พ.ต.อ.สวัสดิ์ จำปาศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.มีแนวทางจัดหาพื้นที่ค้าขายแห่งใหม่เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ผู้ค้ารอบสยามสแควร์ ขณะนี้ได้เจรจากับภาคเอกชนคือ ศูนย์การค้าจตุจักรสแควร์ ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดสวนจตุจักร ด้านถนนกำแพงเพชร 2 รองรับผู้ค้าได้กว่า 4,000 ราย โดยจะให้ผู้ค้าที่ลงทะเบียนได้ขายสินค้าและจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสินในโครงการยิ้มสู้ กู้สร้างอาชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ยังมีนโยบายให้ผู้ค้าที่อยู่นอกจุดผ่อนผันทั่ว กทม.ทั้ง 50 เขต สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขตทุกแห่ง เพื่อรับสิทธิขายของที่อาคารจตุจักรสแควร์ กทม.จะจัดงานกิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการ
"กทม.อยากให้ผู้ค้าที่อยู่นอกจุดผ่อนผันทั่วกรุงเทพฯ ได้มาลงทะเบียนกันเยอะ ๆ และเข้าไปขายของที่อาคารจตุจักรสแควร์ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามและปลอดภัย ขณะนี้ทางจตุจักรสแควร์มีความพร้อมที่จะให้ผู้ค้าเข้าพื้นที่ได้แล้ว" พ.ต.อ.สวัสดิ์กล่าว
ด้านนายวีรยุทธ ภูวนเจริญ ประธานศูนย์การค้าจตุจักรสแควร์ บอกว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับ กทม.เพื่อแก้ปัญหาผู้ค้าแผงลอยที่ผิดกฎหมาย โดยจะไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ แต่จะเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ วันละ 100 บาท ในเวลา 09.00 - 17.00 น. และวันละ 50 บาท ในเวลา 18.00 - 24.00 น.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
