"ไข่ชั่งกิโล"ฉุดนิยม"อภิสิทธิ์"ลด โพลล์ชี้"แปลก-น่าขัน" ครม.ฉลุยคุม41สินค้า (ไทยโพสต์)
โพลล์ตบหน้า "มาร์ค" ระบุแนวคิด "ไข่ชั่งกิโล" ทั้งแปลก ทั้งน่าขัน ฉุดคะแนนนิยมนายกฯ อภิสิทธิ์ลดลง ผู้เลี้ยงรายย่อยโวยเดือดร้อน หลัง "ซีพี" สวนกระแส ตรึงราคาหน้าฟาร์มฟองละ 2.70 บาท ครม.ไฟเขียวคุมสินค้า-บริการ 41 รายการ "ยรรยง" ย้ำหมูแพงคลี่คลายใน 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องความรู้สึกของประชาชนต่อราคาไข่ของนายกรัฐมนตรี : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งสิ้น 1,103 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวคิดไข่ชั่งกิโลของนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 47.9% ระบุเป็นแนวคิดที่แปลกดี น่าจะเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะที่ 42.8% ระบุว่า น่าขบขัน ไม่คิดว่าจะทำได้ ส่วนอีก 9.3% ระบุว่าอื่น ๆ เช่น ซ้ำเติมประชาชน น่าผิดหวัง
เมื่อถามว่าแนวคิดไข่ชั่งกิโลจะกระทบต่อคะแนนนิยมของนายอภิสิทธิ์หรือไม่ 14.9% ระบุว่า ความนิยมต่อนายอภิสิทธิ์เพิ่มขึ้น ขณะที่ 32.4% ระบุว่านิยมมากเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม กว่า 50% ระบุว่านิยมน้อยเหมือนเดิม และมีความนิยมลดลง โดย 30.3% ระบุว่านิยมน้อยเหมือนเดิม และ 22.4% ระบุว่าความนิยมลดลง
รายงานข่าวจากวงการผู้เลี้ยงไก่ไข่ระบุว่า แม้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อย และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ มีการตกลงร่วมกันให้มีการปรับราคาไข่ไก่คละหน้า ฟาร์มอีกฟองละ 10 สตางค์ เป็นฟองละ 2.80 บาท แต่ในส่วนของเครือซีพี ยังคงยืนราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ฟองละ 2.70 บาท ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยระบุว่า การกระทำของซีพีเป็นการกระทำที่สวนกระแส และนับเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อยทั่วประเทศ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. มีมติเห็นชอบการกำหนดสินค้า 39 รายการ และบริการ 2 รายการ รวม 41 รายการ อยู่ในบัญชีควบคุม ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยเพิ่มไข่ไก่และบริการรับฝากสินค้าหรือบริการให้เช่าสถานที่เก็บสินค้า (คลังสินค้า) เข้าไปใหม่ จากเดิมมีเพียง 39 รายการ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์เนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นขณะนี้ จะคลี่คลายลงได้ภายใน 2 สัปดาห์ ตามกลไกราคาที่จะต้องปรับตัวลดลงตามราคาหมูหน้าฟาร์มที่มีทิศทางลดลง เพราะสูตรการคิดราคาหมูได้กำหนดแนวทางไว้แล้วว่า ราคาหมูหน้าเขียงกับราคาต้นทุนจะต้องสอดคล้องกัน
ส่วนราคาสินค้าอื่น ๆ จะพิจารณาเฉพาะสินค้าที่มีต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจริงเท่านั้น โดยต้นทุนที่สำคัญ ได้แก่ พลังงาน วัตถุดิบซึ่งต้องพิจารณาตามราคาตลาดโลก แต่จะต้องนำปัจจัยค่าเงินบาทมาพิจารณาร่วมด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมการค้าภายในได้เปิดเผยประมาณการผลผลิตสุกรในปี 2554 ว่าจะมีประมาณ 12.313 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 12,120 ล้านตัน หรือ 1.59% แบ่งเป็นการใช้ในประเทศ 11.640 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 11.160 ล้านตัน ส่งออก 10,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 8,754 ตัน ราคาสุกรมีชีวิตจากแหล่งผลิตกิโลกรัม (กก.) ละ 51.50 บาท ลดลงจากราคาเฉลี่ยทั้งปีก่อน กก.ละ 58.34 บาท
จากข้อมูลข้างต้นเชื่อว่าแนวโน้มราคาสุกรในปีนี้จะสอดคล้องกับปริมาณความต้องการ จึงเชื่อว่าราคาหน้าเขียงจะต้องปรับลดลงตามทิศทางราคาหน้าฟาร์ม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก