นายวีระ สมความคิด
นายวีระ สมความคิด
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ ต้องรอว่า วีระ-ราตรี ตัดสินใจ ยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ ขณะที่ "ณฐพร" เตรียมยื่นศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาเป็นกลางต่อสู้คดี
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ที่ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุก โดยไม่รอลงอาญา ว่าเรื่องดังกล่าวคงต้องรอการตัดสินใจของนายวีระ กับนางสาวราตรีก่อนว่าจะยื่นอุทธรณ์ เพื่อต่อสู้คดีจนถึงที่สุดหรือไม่ โดยรัฐบาลจะเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ทั้งนี้ หากทั้ง 2 คน ตัดสินใจไม่สู้คดี ก็สามารถที่จะใช้แนวทางการขอพระราชทานอภัยโทษได้ แต่ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายวีระ และนางสาวราตรี ในเรื่องนี้ และเห็นว่าหากมีการยื่นอุทธรณ์ พร้อมขอประกันตัว และเปลี่ยนทนาย ก็ไม่น่าจะมีปัญหา โดยต้องนำเหตุผลไปยืนยัน
ขณะที่ นายณฐพร โตประยูร ทนายความกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายวีระ และนางสาวราตรี แล้วว่า จะมีการยื่นอุทธรณ์ เพื่อต่อสู้คดีจนถึงที่สุด พร้อมไปกับการยื่นขอประกันตัว ทั้งนี้ ตนจะนำเรื่องเข้าสู่ ศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อฟ้องรัฐบาลฮุนเซน และให้เข้ามาเป็นตัวกลาง เนื่องจากไม่ไว้ใจกัมพูชา ว่าจะให้ความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี โดยเฉพาะเรื่องเอกสารพยานหลักฐาน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้อง
ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ นำตัว 2 คนไทย ที่ถูกศาลกัมพูชา พิพากษาจำคุก โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ยอมรับการตัดสินของศาลกัมพูชา เพราะเห็นว่า ข้อหาจารกรรมเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นเรื่องอัปยศที่สุด พร้อมกันนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศให้รัฐบาล นำตัว 2 คนไทย กลับมาโดยไม่มีมลทิน ซึ่งหลังจากนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ จะให้เวลารัฐบาล 3 วัน หากยังคงนิ่งเฉย ในวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.นี้ จะขอฉันทานุมัติจากประชาชน เพื่อยกระดับหามาตรการกดดันรัฐบาล
นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ มองว่า คณะรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมดความชอบธรรมในการปกครองโดยสิ้นเชิง และกลุ่มพันธมิตรฯ จะชุมนุมกันตามปกติตามมติที่ประชุม และยืนยันว่า จะไม่ใช้ความรุนแรงในการกดดันรัฐบาล อย่างกรณีการเผาสถานที่ราชการอย่างแน่นอน
[1 กุมภาพันธ์] ศาลกัมพูชาสั่งจำคุก วีระ 8 ปี-ราตรี 6 ปี ไม่รอลงอาญา
ศาลกัมพูชา นำตัว "วีระ - ราตรี" ขึ้นศาลไต่สวนใน 3 ข้อหาอีกครั้งแล้ว โดยทั้งคู่ไม่ขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา ลั่นจะขอสู้ถึงที่สุด ล่าสุดศาลพิพากษาจำคุกวีระ 8 ปี ราตรี 6 ปี ไม่รอลงอาญา
วันนี้ (1 ก.พ.) ศาลในกรุงพนมเปญของกัมพูชา ได้นำตัว นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ขึ้นไต่สวนพิเศษใน 3 ข้อหา คือ เข้าเมืองผิดกฎหมาย เข้าพื้นที่ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และประมวลข้อมูลอันเป็นภัยต่อการป้องกันประเทศ หรือ จารกรรมข้อมูล ซึ่งเบื้องต้น นายวีระ และ น.ส.ราตรี ไม่ขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา โดยมีทนายความของกลุ่มประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ได้นำหลักฐานเอกสาร และพยานบุคคลขอเบิกความ เพื่อเป็นพยานหักล้างข้อกล่าวหาของทางการกัมพูชา และได้ร้องขอให้มีการเปลี่ยนล่ามด้วย
ทั้งนี้ คาดว่า อาจจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดีเป็นเวลานาน ขณะเดียวกัน นายวีระ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ไปรอทำข่าวสั้น ๆ ว่า "สบายดี จะไปต่อสู้จนถึงที่สุด"
ต่อมาศาลกัมพูชาได้ทำการไต่สวน นายวีระ สมความคิด โดยผู้พิพากษา พยายามซักถาม นายวีระ ว่า รุกล้ำดินแดนกัพพูชาหรือไม่ แต่นายวีระได้ปฏิเสธว่า ถูกจับในดินแดนไทย โดยไม่ว่าผู้พิพากษา จะถามคำถามใด นายวีระก็จะยืนยันว่า ทุกเรื่องที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ศาล ถามว่า ได้ยินคนแถวนั้นหรือไม่ เขาพูดภาษาอะไร ซึ่ง นายวีระ ตอบว่า เห็นเขาก็พูดเหมือนคนไทยตามแนวชายแดน แถวโรงเกลือ ก็พูดอย่างนี้ ศาลถามอีกว่า ตอนเดินมาได้ทำอะไรบ้าง นายวีระ ตอบ ก็ซื้อน้ำกิน จ่ายเงินก็เป็นเงินไทย และศาลก็ถาม พกกล้องมาทำไม นายวีระ ตอบว่าเป็นอุปกรณ์ที่ผมใช้ทำงาน ตรวจสอบการคอร์รัปชั่น อยู่แล้ว ผมพกตลอด
ส่วน น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ นั้น ศาลได้มีการเริ่มไต่สวน เมื่อเวลา 10.09 น. ขณะที่ นายณฐพร โตประยูร และ ม.ล.วัลวิภา จรูญโรจน์ แกนนำกลุ่มประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ทางศาลกัมพูชาอนุญาตให้เข้าเป็นพยานได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดศาลกัมพูชา มีคำพิพากษาจำคุก นายวีระ สมความคิด เป็นเวลา 8 ปี พร้อมปรับจำนวน 1.8 ล้านเรียล หรือคิดเป็นเงินไทยจำนวน 1.8 หมื่นบาท ขณะที่ นางสาวราตรี ถูกจำคุก 6 ปี พร้อมปรับเป็นเงิน 1.2 ล้านเรียล หรือเป็นเงินไทยประมาณ 1.2 หมื่นบาท ซึ่งโทษจำคุกของทั้ง 2 คน ศาลไม่มีคำสั่งให้แขวนโทษ หรือรอลงอาญา โดยให้นำควบคุมตัวที่เรือนจำเพรย์ซอว์ทันที
ทั้งนี้ หลังจากศาลมีคำพิพากษา ทางด้านทีมกฎหมายของ นายวีระ ก็เตรียมจะยื่นอุทธรณ์ทันที โดยตามกฎหมายของประเทศกัมพูชา สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ในเวลา 30 วัน โดย นายณฐพร โตประยูร ทีมทนายความ ยืนยันว่า จะนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เข้ายื่นอุทธรณ์ให้เร็วที่สุด และคาดว่า จะสามารถยื่นต่อศาลได้ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในห้องพิพากษา พบว่า นายวีระ และ นางสาวราตรี มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
