สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
บริษัท เทปโก ตรวจพบน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้ามีระดับสารกัมมันตรังสีสูงกว่าปกติ 7.5 ล้านเท่าเมื่อวันเสาร์ แต่ลดลงเหลือ 5 ล้านเท่าสองวันต่อมา คนงานพยายามอุดรูรั่วจากเตาปฏิกรณ์ 2 แต่ยังไม่สำเร็จ เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนระดับต่ำลงทะเลแล้ว ดึงโรงกำจัดรังสีลอยน้ำของรัสเซียช่วย ขณะรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งมาตรฐานการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีในสัตว์ทะเลเป็นครั้งแรก
บริษัท เทปโก แถลงเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ว่า ตัวอย่างน้ำทะเลที่เก็บใกล้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หน่วยที่ 2 ของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ไดอิจิ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา มีระดับสารไอโอดีนกัมมันตรังสีสูงเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดถึง 7.5 ล้านเท่า แต่ระดับไอโอดีน-131 ในน้ำทะเลปนเปื้อนดังกล่าวนี้ ซึ่งไม่ได้ถูกปล่อยลงทะเล ได้ลดลงเหลือ 5 ล้านเท่าในวันจันทร์
ขณะที่ รัฐบาลญี่ปุ่น ได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของสารกัมมันตรังสีในปลาทะเลเป็นครั้งแรกนับแต่เกิดวิกฤติ หลังจากที่พบว่าระดับไอโอดีนกัมมันตรังสีในน้ำทะเลนอกชายฝั่งโรงงานขณะสูงกว่าเกณฑ์ 4,800 เท่า และพบว่ามีสารซีเซียมกัมมันตรังสีระดับต่ำในปลาโคอุนาโงะที่จับได้ในน่านน้ำ ของจังหวัดอิบารากิ ทางใต้ของฟุกุชิมะ และทำให้ปลาในอิบารากิขายไม่ออก
ด้านบรรดาคนงานและวิศวกรยังพยายามอุดรูรั่วจากบ่อคอนกรีตของเตาปฏิกรณ์ที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีปริมาณสูงมากรั่วไหลลงสู่ทะเล หลังจากการใช้ปูนซีเมนต์และโพลีเมอร์ไม่ได้ผล พวกเขาพยายามใช้ "แก้วเหลว" อุดรูดังกล่าว โดย ฮิเดฮิโกะ นิชิยามะ รองผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และอุตสาหกรรม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คนงานลองเทขี้เลื่อย, หนังสือพิมพ์ และสารผสมคอนกรีตเทใส่น้ำปนเปื้อน แต่ก็ยังไม่ได้ผล "จนบัดนี้เรายังไม่รู้ว่าน้ำปนเปื้อนปริมาณสูงซึมออกมาจากเตาปฏิกรณ์ 2 ได้อย่างไร" เขาสารภาพ
ทั้งนี้ วิศวกรวางแผนจะสร้างม่านพอลิเอสเตอร์ขนาดยักษ์ 2 ชิ้นในทะเล เพื่อสกัดกั้นไม่ให้น้ำปนเปื้อนรั่วไหลลงทะเลมากกว่านี้ ทางการญี่ปุ่นยังหันมาขอความช่วยเหลือจากรัสเซียเพิ่มอีกชาติภายหลังพึ่ง สหรัฐและฝรั่งเศสแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ โดยได้ขอร้องให้รัสเซียส่งโรงกำจัดสารปนเปื้อนกัมมันตรังสีลอยน้ำที่มีชื่อ เรียกว่า "ซูซูรัน" ที่ใช้ในการรื้อเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ในเมืองวลาดิวอสต็อก มาช่วยกำจัดน้ำปนเปื้อนด้วยโรงงานลอยน้ำขนาดใหญ่นี้สามารถกำจัดของเหลวปนเปื้อนวันละ 35 ลูกบาศก์เมตร
เมื่อวันจันทร์บริษัทได้เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีระดับต่ำจากจำนวน 11,500 ตันลงสู่ทะเลแล้ว หลังจากใช้น้ำทะเลในการหล่อเย็นแท่งปฏิกรณ์เพื่อป้องกันการหลอมละลายของแท่งเชื้อ เพลิงเพิ่มอีก น้ำเหล่านี้กลายเป็นน้ำปนเปื้อนระดับสูงซึ่งเทปโกระบุว่ามีปริมาณถึง 60,000 ตัน จนที่เก็บไม่เพียงพอ โดยกระบวนการนี้จะต่อเนื่องไปถึงวันศุกร์
อย่างไรก็ตาม กรณีการปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีระดับต่ำลงทะเล สร้างความไม่พอใจให้กับเกาหลีใต้ ซึ่งทางเทปโก ได้ออกมาแถลงขอโทษทางการเกาหลีใต้ ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ โดยยืนยันว่าได้พยายามติดต่อไปยังเกาหลีใต้ก่อนจะดำเนินการดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
และในวันนี้ (6 เม.ย.) เทปโก เปิดเผยว่า พวกเขาค้นพบวิธีการใหม่ที่อาจจะช่วยหยุดน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่ไหลจากโรงงานนิวเคลียร์ลงสู่ทะเลได้ผล หลังจากเจ้าหน้าที่ฉีดสารเคมีที่ช่วยให้เกิดการแข็งตัวลงบนรอยแยกของคอนกรีต ที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 เพื่อสมานรอยร้าวด้านในเข้าด้วยกัน พบว่าการรั่วไหลของน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีลงสู่ทะเลลดน้อยลง จึงเตรียมที่จะเทสารเคมีดังกล่าวปิดทับรอยแยกเพิ่มเติมอีก 1,500 ลิตร อย่างไรก็ดี เทปโกยังคงต้องสูบน้ำปนเปื้อนลงสู่ทะเล เพื่อยังคงพื้นที่ในบ่อพักน้ำที่ปนเปื้อนรังสีจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 สามารถไหลเข้ามาได้อย่างต่อเนื่องเนื่องจากภายในโรงไฟฟ้าไม่มีพื้นที่ที่ เก็บน้ำเหล่านี้
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิถล่ม ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่ สรุปตัวเลขจำนวน 12,341 ราย และสูญหายทั้งสิ้น 15,350 ราย และมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติในครั้งนี้สูงถึง 165,000 ราย
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการแจกแจงว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติครั้งนี้ มาจาก 19 ชาติ ซึ่งได้มีการแจกแจงได้แล้ว อาทิ จีน, แคนาดา, เกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, สหรัฐอเมริกา และมีการแจ้งต่อญาติให้มารับศพผ่านทางสถานทูตของแต่ละชาติแล้ว ส่วนที่เหลือ ยังคงต้องมีการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
