สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ไอ ดู ไอซ์ จำกัด แถลงไม่ปิด Ice Monster พร้อมสู้คดี ด้าน หนุ่ม กรรชัย ขอคู่กรณีจ่ายปันผล แยกเรื่องส่วนตัว
นางสาวชัญญา สุนทรวงษ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ไอ ดู ไอซ์ จำกัด เจ้าของยี่ห้อน้ำแข็งใส ไอซ์ มอนสเตอร์ คู่กรณีหนุ่มกรรชัย แถลงข่าวยืนยัน ไม่ปิด ไอซ์ มอนสเตอร์ ตามที่ หนุ่ม กรรชัย เคยแถลงข่าวไป เนื่องจาก นางสาวชัญญา ได้ยืนยันการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ไอซ์ มอนสเตอร์ อย่างถูกต้อง ส่วนเจ้าของทางฟิลิปปินส์ ที่ออกมาแถลงพร้อม หนุ่ม กรรชัย ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง โดย นางสาวชัญญา กล่าวว่า...
"ก่อนหน้านี้มี คนใช้ชื่อ มอนสเตอร์ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไปแล้ว ฝ้าย ก็ได้ติดต่อเพื่อขอซื้อ แต่สำหรับชาวฟิลิปปินส์คนนั้น ก็ได้บอกเลิกสัญญาไป โดยส่งจดหมายไปก่อนล่วงหน้าหนึ่งเดือนด้วยค่ะ สำหรับ เรื่องร้าน ไอซ์ มอนสเตอร์ ที่เป็นแฟรนไชน์ ไม่มีการปิดแน่นอนค่ะ แต่ร้านที่สยาม ซอย 11 จะปิดเพื่อปรับปรุง และจะย้ายไปเปิดที่อื่นในสยามสแควร์เหมือนเดิมค่ะ"
สาเหตุที่ปิดสาขาสยามนั้น นางสาวชัญญา ให้เหตุผลว่า "ที่ปิดสาขาสยามสแควร์ เพราะสัญญาเช่าตึกหมดค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องคดี ก็ปิดเพื่อปรับปรุงเฉย ๆ ค่ะ" ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ย นางสาวชัญญา ได้ปฏิเสธว่า "ไม่มีการไกล่เกลี่ยค่ะ มันมาไกลเกินกว่าที่จะคุยกันแล้ว ตอนนี้ ศาลก็รับเรื่องไปแล้วก็ขอไปสู้ในชั้นศาลให้ถึงที่สุด" และเมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่ถอด หนุ่ม กรรชัย ออกจากรายชื่อผู้ถือหุ้น นางสาวชัญญา ได้เป็นปฏิเสธ โดยตอบว่า เป็นประเด็นในชั้นศาล ไม่ขอตอบ แต่ก่อนหน้าที่จะถอดออกนั้น ก็ได้แจ้งไปยัง หนุ่ม กรรชัย แล้ว และก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับตนเองและครอบครัวด้วย
ส่วนเรื่องที่ หนุ่ม กรรชัย กล่าวหาว่า ไม่ได้รับเงินปันผลจากการเป็นหุ้นส่วนร้าน ไอซ์ มอนสเตอร์ นั้น ตนยอมรับว่า ไม่ได้ให้เงินปันผลจริง ซึ่งเป็นการตกลงกันว่า จะยังไม่มีการปันผล หากบริษัทยังไม่ได้กำไร ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีการปันผลให้ใครทั้งนั้น แต่ก็ได้ให้เงินเป็นเดือน ๆ แทน
ด้าน หนุ่ม - กรรชัย กำเนิดพลอย ก็ได้ชี้แจ้งหลังจากที่คู่กรณีได้จัดแถลงข่าวโต้เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยดาราหนุ่มชี้แจงหลายจุดว่า จริง ๆ ตนไม่ได้ต้องการอะไร เพียงแค่ต้องการได้เงินปันผลที่ตนควรจะได้เท่านั้น และยังโต้ที่คู่กรณีกล่าวว่า เป็นคนผ่อนรถให้นั้น จริง ๆ แล้วเงินที่ผ่อนเป็นเงินที่ตนได้รับจากการทำงานเป็นผู้บริหารให้แบรนด์ จึงทำเรื่องเอาเงินเดือนที่ได้เดือนละ 50,000 บาท ไปจ่ายเป็นค่าผ่อนรถดังกล่าว อีกทั้ง เจ้าตัวยังเผยอีกว่า ตนลงทุนไปค่อยข้างเยอะ ทั้งยอมรับเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์หนึ่งโดยไม่รับค่าตัว แต่เปลี่ยนเป็นให้ติดกล้องวงจรปิดทุกสาขาของ Ice Monster แทน ซึ่งตนก็น่าจะได้อะไรตอบแทนกลับมาบ้าง
ส่วนเรื่องที่เจ้าของแบรนด์ชาวฟิลิปปินส์จะฟ้องนั้น ตนไม่ได้เป็นคนบอก เขามีการเช็กข่าวแล้วโทรหาตน เพื่อขอแถลงข่าวร่วม เพราะมีหลายจุดที่ละเมิดสัญญา โดยในเรื่องนี้ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง พร้อมยังฝากบอกคู่กรณีว่า จริง ๆ แล้ว อย่างที่แถลงข่าวไป เรื่องนี้สามารถคุยกันได้ แต่ก็ไม่มีการติดต่อมา แต่ถ้าคู่กรณีมีหลักฐานอะไรก็ให้เอาออกมา เพราะมีหลายอย่างที่ตนยังไม่เข้าใจ ส่วนเรื่องจะปิดแฟรนไชส์หรือไม่ ต้องอยู่ที่เจ้าของแบรนด์ชาวฟิลิปปินส์ ตนไม่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ พร้อมวอนคู่กรณี อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาร่วมกับเรื่องนี้
