เอชเคยิงนศ.สาว พลทหารคลั่งถูกกีดกันรักรัวบ้าเลือด (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
พลทหารคลั่งรัก ควงเอชเคของทางราชการบุกห้องพักนักศึกษาสาวคนรัก ยิงถล่มประตูกระจุยก่อนบุกเข้าไปรัวยิงฝ่ายหญิงเสียชีวิต แล้วพยายามฆ่าตัวตายตาม เหตุถูกพ่อแม่หญิงกีดกัน เพราะเห็นว่าลูกยังเรียนหนังสือ
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ร.ต.อ.ณัฐกฤษณ์ ยุทยา พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุยิงกันภายในห้องเลขที่ 214 หรรษาอพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 376/1-2 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 22 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน, พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 4 ชั้น ที่ห้องเลขที่ 214 ชั้น 2 พบประตูห้องถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามจนลูกบิดได้รับความเสียหาย ภายในห้องพบกองเลือดบริเวณพื้นกลางห้องและบนที่นอน พบปลอกกระสุนปืนเอชเคตกอยู่ 14 ปลอก นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนเอชเคที่ใช้ก่อเหตุซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้ราวตากผ้าหน้าห้อง 209 เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางโพไปก่อนหน้านี้ คือ น.ส.จริยา วิไลชัยกุล อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาการ สาขาการจัดการบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีบาดแผลถูกยิง 3 นัดเข้าที่บริเวณหน้าอก ราวนมและขาขวา อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคน คือ พลทหารอานนท์ ภูมิชัย อายุ 23 ปี สังกัดกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ อยู่บ้านเลขที่ 251/29 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอก 1 นัด อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
นางไคล สาธุ อายุ 40 ปี มารดา ผู้ตายให้การว่า ลูกสาวคบกับพลทหารอานนท์ มือปืนที่ก่อเหตุมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่พอตนและสามีทราบเรื่องจึงขอให้ทั้งคู่เลิกคบกัน เพราะเห็นว่าลูกสาวยังอยู่ในวัยเรียน ซึ่งลูกก็เข้าใจดีจึงได้พยายามตีตัวออกห่าง แต่พลทหารอานนท์ไม่ยอม พยายามตามง้อขอคืนดี ล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พลทหารอานนท์ได้โทรศัพท์มาหาอีก แต่ลูกสาวก็ได้ปฏิเสธไป จึงถูกขู่ว่าจะยิงให้ตายซึ่งลูกสาวก็รู้สึกกลัว
นางไคล กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกับ น.ส.จริยา ลูกสาวคนเล็ก และญาติ รวม 4 คนนอนอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงเคาะประตูหลายครั้ง ตนจึงไปดูที่ช่องหน้าประตูห้อง เห็นพลทหารอานนท์ในชุดลายพรางยืนอยู่ จึงไม่เปิดประตูให้ พร้อมกับโทรศัพท์หาสามีซึ่งขายผักอยู่ที่ตลาดบางซื่อ โดยสามีบอกว่าจะรีบมาที่ห้อง คาดว่าพลทหารอานนท์คงได้ยินตนคุยโทรศัพท์ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกบิดประตูก่อนเข้ามาภายในห้อง ขณะที่ น.ส.จริยาเกิดความกลัวไปหลบที่มุมห้องตรงหัวเตียงและเอาผ้าคลุมตัว ระหว่างนั้นตนพยายามอ้อนวอนขอชีวิตลูกสาว แต่พลทหารอานนท์หันปากกระบอกปืนไปทาง น.ส.จริยา ตนจึงตัดสินใจเข้าไปแย่งปืน เกิดการยื้อยุดฉุดกระชาก ก่อนที่พลทหารอานนท์จะยิงใส่ น.ส.จริยา จากนั้นได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเพื่อหวังตายตาม
พ.ต.ท.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนแม่และน้องสาวผู้ตาย พบว่า สาเหตุเกิดจากพลทหารอานนท์ไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงบอกเลิก และก่อนหน้านี้ก็เคยขู่ไว้ว่าหากฝ่ายหญิงตีจากจะเอาปืนมายิงให้ตาย กระทั่งมาเกิดเหตุสลดใจดังกล่าวขึ้น ซึ่งพลทหารอานนท์ยังใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองเข้าที่หน้าอก อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพวชิรพยาบาลได้นำส่งโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งช่วงเช้าได้สอบถามไปยังแพทย์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถึงอาการของพลทหารอานนท์ที่พักรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินชั้นที่ 4 ตึกผ่าตัดวชิรพยาบาล ทำให้ทราบว่ามีบาดแผลถูกอาวุธปืนที่หน้าอก 2 นัด อาการสาหัสมาก ยังไม่สามารถให้การได้
พ.ต.ท.จิรวัฒน์ กล่าวว่า การดำเนินคดีขณะนี้ได้ประสานไปยังนายทหารเวรกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อสอบหาที่มาของอาวุธปืนว่าพลทหารอานนท์เอาออกมาจากกรมทหารได้อย่างไร เท่าที่สอบถามทหารเวร พบว่า พลทหารอานนท์เข้าเวรรักษาการณ์อยู่ที่กรมทหารม้าที่ 1 แยกเกียกกาย พร้อมเพื่อนทหารรุ่นน้องอีก 1 นาย มีหน้าที่ถืออาวุธปืน พลทหารอานนท์ได้บอกกับเพื่อนที่เข้าเวรด้วยกันว่าจะดูแลปืนให้ จากนั้นก็ลักลอบนำใส่กระเป๋าสะพายขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากกรมราวเที่ยงคืน โดยที่เพื่อนไม่รู้ เชื่อว่าทางผู้ก่อเหตุมีการเตรียมตัวไว้แล้ว ซึ่งทางฝ่ายทหารจะทำการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน หากพลทหารอานนท์มีอาการดีขึ้นก็จะทำการอายัดตัวไว้ดำเนินคดี แต่หากพลทหารอานนท์เสียชีวิตก็จะสอบพยานที่เกี่ยวข้อง และสรุปสำนวนว่าผู้ก่อเหตุเสียชีวิตส่งอัยการดำเนินการต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
