สตีฟ จ็อบส์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจริง ๆ สำหรับข่าวนี้ เมื่อมีสื่อของสหรัฐอเมริกา ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีโลก เป็นผู้นำรายได้เข้าบริษัทที่คิดเป็นจำนวนเงินแล้ว มีมากกว่าเงินในกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เสียอีก
ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐฯ กำลังขอคำปรึกษากับจ็อบส์ เพื่อให้ความช่วยเหลือประเทศในการกู้ยืมเงิน เพื่อกู้วิกฤติเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องของการเพิ่มเพดานหนี้และปัญหายอดงบประมาณขาดดุลที่กำลังพ่นพิษใส่สหรัฐฯ อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทด้านเทคโนโลยีใหญ่ที่สุดของโลกอย่างแอปเปิ้ล มีเงินสดที่อยู่ในการครอบครองอย่างมากมายมหาศาล
ณ ขณะนี้ บรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ร่วมเจรจาหาทางประนีประนอมในการผ่านกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะ เพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากการผิดชำระหนี้ โดยตามรายงานระบุว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เปิดเผยถึงจำนวนตัวเลขยอดเงินทุนสำรองของการคลังสหรัฐฯ ในปัจจุบันว่ามีเพียง 2,202,893 ล้านบาทเท่านั้น ขณะเดียวกันได้มีการพูดถึงกันว่า เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีการสรุปยอดรายได้สุทธิของบริษัทแอปเปิ้ล พบว่าทางแอปเปิ้ลมียอดเงินสด ซึ่งเป็นทุนสำรองของบริษัทมากถึง 2,283,596 ล้านบาท โดยประมาณ
แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะไม่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกันได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า สภาพคล่องและความยืดหยุ่นด้านการเงินของรัฐบาลสหรัฐฯ ขาดดุลอยู่พอสมควรก่อนที่จะเจอกับวิกฤติในปัจจุบัน ขณะที่บริษัทแอปเปิ้ล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กลับมีงบเงินทุนสำรองที่มากกว่ารัฐบาลเสียอีก ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ความยิ่งใหญ่ของแอปเปิ้ลที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการออกผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่าง "ไอโฟน" (iPhone) เมื่อปี 2007 ก่อนที่บริษัทจะมีหุ้นเล็ก ๆ ในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq) ที่มีมูลค่าเพียงแค่ 12,000 บาท มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดมาก ๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้น การออกหุ้นโดยโอนกำไรเข้าเป็นทุนของแอปเปิ้ลในปัจจุบัน มีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่มากถึง 2,193,000 ล้านบาท โดยประมาณ นับเป็นบริษัทที่มีเงินหมนุเวียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับสอง เป็นรองแค่ "เอ็กซ์ซอน โมบิล" (Exxon Mobil) บรรษัทข้ามชาติผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันและแก๊สธรรมชาติรายใหญ่ของสหรัฐฯ เท่านั้น
