หลังจากรายการคนค้นฅน นำเสนอเรื่องราวชีวิตของอดีตคนต้นเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมไปเมื่อสัปดาห์ก่อน มาวันนี้ ทางทีมงานทีวีบูรพา ก็ขอพาคุณผู้ชมไปย้อนรำลึกถึงคนต้นเรื่องในตำนานอีกครั้ง เป็นตอนที่ 2 เพราะยังมีคนต้นเรื่องอีกหลายคนที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน อย่างเช่นบุคคลดังต่อไปนี้...
สด - เยล - จอย
สด - เยล - จอย
สด เยล จอย "สามเกลอคนเล็กหัวใจใหญ่" สามสหายผู้พิการร่างกายแต่มีจิตใจเข้มแข็งเกินตัว ซึ่งเรื่องราวของพวกเขาสร้างกำลังใจให้คนทั่วประเทศ ปัจจุบัน "จอย" กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะบริหารฯ ม.เชียงใหม่ โดยเปลี่ยนมาจากคณะบัญชีที่เธอเคยเลือกไว้ในครั้งแรก เพราะมีปัญหาเรื่องสายตา และป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ "จอย" ย้ายออกมาอยู่หอกับเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน ซึ่งย้ายออกมาจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ด้วยกัน และยังมีแม่ของ "จอย" มาดูแลเธอด้วย
สด - เยล - จอย
สด - เยล - จอย
ขณะที่ "สด" ก็ย้ายออกมาอยู่เพียงลำพังแล้วเช่นกัน โดยเขากำลังมุ่งมั่นศึกษางานด้านอนิเมชั่นที่เขารัก เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง ส่วน "เยล" นั้น ตอนนี้ต้องช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น เพราะรุ่นพี่ที่เคยอยู่ห้องเดียวกันเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศแล้ว และนอกจากการเรียนหนังสือแล้ว "เยล" ยังรับหน้าที่จัดรายการวิทยุออนไลน์ ในชื่อรายการ "เยล ลมหายใจที่ไม่แพ้" ซึ่งให้กำลังใจกับผู้ฟังจำนวนมากอีกด้วย
บุญหลาย
บุญหลาย
มาถึงเรื่องราวของ "บุญหลาย พ่อค้าหัวใจไม่พิการ" แห่งอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ที่ตอนนี้ความขยันทำให้ชาวบ้านเรียกว่า "เสี่ยบุญหลาย" ไปแล้ว หลังจากมะนาวขาดตลาดและแพงขึ้น "บุญหลาย" จึงเบนเข็มไปประกอบอาชีพเก็บของเก่าเสริมจากการขายมะนาว ซึ่งทำรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำ แถม "บุญหลาย" ยังนำเงินที่ได้มาไปทำบุญ และซื้อข้าวซื้อของให้พ่อให้แม่ด้วยความกตัญญูอีกด้วย ทำเอาแม่ของบุญหลายร้องไห้ภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้
จั๊กจั่น
จั๊กจั่น
ต่อกันด้วยเรื่องราวของ "จั๊กจั่น ดาวมหาวิทยาลัย" ขวัญใจชาวหอการค้าไทย ที่ตอนนี้ไม่ได้แต่งชุดนักศึกษาไปที่มหาวิทยาลัยแล้ว เพราะเธอบอกว่า ตัวเองเรียนจบแล้ว ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.2 (มากกว่าทุกคนเลยนะเนี่ย) และปัจจุบัน เธอแต่งชุดเจ้าหน้าที่เต็มยศแต่งหน้าเต็มสตรีม เข้าไปทำงานในห้องประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย โดยรับหน้าที่จัดเอกสาร ให้คำแนะนำน้อง ๆ ที่เดินทางเข้ามาสมัครเรียน และช่วยเดินเอกสาร ซึ่งผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทุกคนก็คอยช่วยเหลือ "จั๊กจั่น" อีกทาง เพื่อให้เธอเกิดความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีคุณค่า
คุณยายตึ ชาลี
คุณยายตึ ชาลี
และหากย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว หลายคนคงจำเรื่องราวของ "คุณยายตึ ชาลี คุณยายกระดูกเหล็ก" แห่งบ้านกอกดอนพะยอม จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เป็นอย่างดี กับภาระหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูหลานกำพร้าถึง 4 คน ทั้งที่คุณยายก็เป็นหญิงชรายากจนคนธรรมดา แต่คุณยายก็ขอทำงานหนักสู้เพื่อทุกชีวิต ด้วยคติพจน์ที่ว่า ทำงานก็ตาย ไม่ทำงานก็ตาย หากจะตายก็ขอตายแบบไม่งอมืองอเท้าจะดีกว่า ทุกวันนี้ คุณยายตึ ในวัยที่สังขารร่วงโรย ก็ยังคงทำงานหนักเช่นเดิม แต่ยังโชคดีที่หลาน ๆ ทั้ง 4 คนของยาย เติบโตขึ้นมาทำงานช่วยแบ่งเบาภาระของคุณยายไปได้มาก แต่ถึงกระนั้น คุณยายก็ไม่ยอมงอมืองอเท้า ขอเดินหน้าทำงานอย่างไม่มีบ่น และไม่มีท้อ
เสน ศรีสะเกษ
เสน ศรีสะเกษ
คนต้นเรื่องในความทรงจำคนต่อไปเป็นชายหนุ่มที่กล้าต่อสู้กับความฝัน นามว่า "เสน ศรีสะเกษ" คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ใฝ่ฝันจะเข้าวงการบันเทิง ด้วยการทำทุกวิถีทางเพื่อความฝันนั้น แต่ปัจจุบัน "เสน" ก็ยังคงขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างเหมือนเดิม และยังตระเวนไปร้องเพลงตามคาเฟ่เช่นอดีต เพียงแต่ว่า ความขยันของเขาทำให้เขาสามารถเก็บหอมรอมริบจนซื้อรถตู้เก่ามาได้หนึ่งคัน และใช้รถตู้คันนี้รับจ้างขนเสื้อผ้า-อุปกรณ์การแสดงตามงานคอนเสิร์ตเป็นรายได้เสริม นอกจากนั้นแล้ว "เสน" ยังลงทุนกับเพื่อนเปิดร้านตัดผมเป็นรายได้อีกทางด้วย
โอ๊ต
โอ๊ต
แต่หากพูดถึงชีวิตที่พลิกผันแล้ว เรื่องราวของ "โอ๊ต" อดีตผู้ต้องขังเรือนจำอุดรธานีก็น่าติดตามไม่น้อย ภายหลัง "โอ๊ต" ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระหลังติดคุกมานานกว่า 10 ปี ชีวิตใหม่ของเขาจึงเริ่มต้นขึ้น ปัจจุบัน "โอ๊ต" รับจ้างทำอะลูมิเนียม ทำกระจก และมีลูก ๆ น่ารักอีก 2 คน ส่วนภรรยาซึ่งพบรักกันในห้องขัง ก็ประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ช่วยกันคนละไม้คนละมือหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และลบคำสบประมาทของชาวบ้านที่เคยกล่าวหาว่าเป็นคนขี้คุกได้อย่างหมดสิ้น เรื่องราวของ "โอ๊ต" จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เห็นว่า แม้ชีวิตจะล้มลงไปแล้ว แต่หากกอบกู้ขึ้นมาได้ใหม่ ก็ไม่มีอะไรที่สายเกินไป
สุชิน
สุชิน
ขณะที่เรื่องราวของ "สุชิน" ผู้หญิงพิการที่ทำงานหาเลี้ยงพ่ออย่างขยันขันแข็ง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พลิกผันมากที่สุดคนหนึ่งในตำนานคนต้นเรื่องของรายการคนค้นฅน โดยหลังจากออกรายการแล้ว ผู้หญิงยอดกตัญญูคนนี้ได้รับเงินบริจาคช่วยเหลือกว่า 7 ล้านบาท แต่เพราะความหลงระเริง ประกอบกับถูกสามีหลอก ก็ทำให้ ณ วันนี้ เงิน 7 ล้านบาทแทบไม่เหลือ และเป็นบทเรียนราคาแพงของ "สุชิน"
สุชิน
สุชิน
ปัจจุบัน "สุชิน" อาศัยอยู่กับสามีคนใหม่ที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ตอนนี้จากชีวิตที่ติดลบต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมด เป็นเพราะที่ผ่านมา เธอทำตัวเอง และไม่ขอตำหนิใคร อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ ลูกคือสิ่งที่มีความสำคัญกับชีวิตมากที่สุด เพราะลูกสาวคนนี้ทำให้เธอรู้เลยว่า พ่อแม่รักลูกมากขนาดไหน
ตาลอบ
ตาลอบ
อีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความซาบซึ้ง และเรียกน้ำตาให้กับผู้ชมจำนวนมากก็คือ เรื่องราวความรักของ "ตาลอบ" กับ "ยายทอง" แห่งอำเภอเชียงคาน ซึ่งอยู่ด้วยกันมานานกว่า 60 ปี โดย "ตาลอบ" คอยดูแล "ยายทอง" ที่ป่วยหนักจนนาทีสุดท้าย กระทั่งคุณยายเสียชีวิต ทำให้ทุก ๆ เช้า "ตาลอบ" จะตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ "ยายทอง" และไปวางพวงมาลัยที่หลุมศพ พร้อมกับอธิษฐานขอให้ได้เจอกับ "ยายทอง" ทุกชาติไป และขอให้อย่าพรากจากกันอีกเลย ที่สำคัญ "ตาลอบ" ยังสั่งลูกหลานไว้ด้วยว่า หากวันใดที่ตาเสียชีวิตไป ขอให้นำร่างมาอยู่เคียงข้างคุณยาย เพื่อจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดกาล
คุณเจี๊ยบ - คุณตุ้ย
คุณเจี๊ยบ - คุณตุ้ย
นอกจากตำนานความรักอันยิ่งใหญ่ของ "ตาลอบ" และ "ยายทอง" แล้ว อีกหนึ่งคู่ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความเสียสละ ก็คือ เรื่องราวของ "พี่เจี๊ยบ" ผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแล "พี่ตุ้ย" สามีที่ป่วยหนักได้แต่นอนอยู่บนเตียงมาตลอดสิบปี นอกจากการทำงานประจำในธนาคารออมสินแล้ว "พี่เจี๊ยบ" ยังออกไปขายเสื้อผ้า ขายผลไม้ตามตลาด เพื่อเป็นรายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัวที่ขาดหัวหน้าครอบครัวไป โดยมีลูกชายคนโตซึ่งเรียนจบแล้ว สามารถออกไปทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ ขณะที่ลูกชายคนเล็กกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 และใกล้จะจบแล้ว และอีกไม่นาน ก็จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะมาช่วยฝ่าวิกฤติให้กับของครอบครัวได้
ป้าเวิน
ป้าเวิน
นอกจากเรื่องเศร้า ๆ พามาดูเรื่องของบุคคลที่มีสีสันในชีวิตกันบ้าง กับ "ป้าเวิน พริตตี้สำเพ็ง" ที่สร้างรอยยิ้มให้ชาวสำเพ็งอยู่ไม่น้อย ด้วยลีลาและการแต่งตัวสีสันสุดจี๊ดของเธอ แต่ปัจจุบันเราได้รับรู้ข่าวร้าย ว่า "ป้าเวิน" ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยมีสามีคอยดูแล ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังยิ้มได้ และตั้งใจจะกลับไปแต่งชุดสวย ๆ มาถ่ายรูปใหม่อีกครั้ง
รอยะห์
รอยะห์
จากเรื่องราวของ "ป้าเวิน" ขอปิดท้ายด้วยชีวิตของคนต้นเรื่องอีกคนที่มีอาการป่วยเช่นกัน อย่าง "รอยะห์ เจ้าหญิงกบ" อดีตสาวสวยที่ป่วยด้วยโรคไต ประกอบกับมีโรคแทรกซ้อน ทำให้หน้าตาเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างไปจากเดิม ปัจจุบัน "รอยะห์" ป่วยหนักกว่าเดิม ต้องให้ออกซิเจนทั้งวัน และต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า จะขี้เกียจหายใจเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่ทุกคนสัมผัสได้ก็คือ แม้อาการป่วยของเธอจะรุนแรง แต่อารมณ์ขันของเธอก็ยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน เธอก็ยังไปเดินสำเพ็งหาซื้อของมาวางขายทุก ๆ วัน แม้ว่าจะขายไปด้วยสังขารที่มีสายออกซิเจนระโยงระยางทั่วตัว แต่เธอก็ไม่ท้อ เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
"พระเจ้าให้เราเกิดมาแล้วเราต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม ถ้าเราหมดลมหายใจไปแล้วเราจะเสียดายหากไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ และพี่ก็ดูพระเจ้าอยู่หัวเป็นตัวอย่าง ขนาดท่านทรงพระประชวร ท่านยังทรงงานเลย และพี่ก็ได้ยินคนพูดว่า ตอนนี้พวกเรากำลังนอนหลับสบาย ท่านยังทรงออกไปดูน้ำท่วมด้วย แล้วจะไม่ให้พี่สู้เหมือนท่านได้ยังไง" รอยะห์ ทิ้งท้าย
เห็นเรื่องราวดี ๆ ของคนต้นเรื่องที่สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดีแล้ว เชื่อว่า ต่อจากนี้ ทุกคนคงได้รับการเติมเต็มความหวัง และพลังใจอย่างเต็มเปี่ยมเป็นของขวัญปีใหม่ที่มีค่ายิ่งอย่างแน่นอน
คลิป คนค้นฅน 1/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 2/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 3/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 4/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 1/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 2/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 3/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
คลิป คนค้นฅน 4/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 3 Jan 2012
[28 ธันวาคม 54] ย้อนดูชีวิตคนต้นเรื่องในตำนาน...คนค้นฅน ภาค 1
ตลอดเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา รายการคนค้นฅน รายการสารคดีชีวิตดี ๆ ทางช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี ได้นำเสนอเรื่องราวของ "ฅน" ที่ทำให้เราได้เข้าใจคำว่า "ชีวิต" มากยิ่งขึ้น เพราะหลายชีวิตแม้ฉากหน้าจะดูเศร้า แต่เบื้องลึกในจิตใจกลับมีความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่อีกหลายชีวิต ต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยความยากลำบาก อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดว่า พวกเขาสามารถแบกรับกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรไหว
และหลากหลายเรื่องราวชีวิตของ "คนต้นเรื่อง" ที่ถูกร้อยเรียงผ่าน "รายการคนค้นฅน" ก็ยังสร้างความตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมมากมาย ซึ่งทางรายการก็ขอพาทุกคนไปย้อนรำลึกถึง "คนต้นเรื่องในตำนาน" และตามไปดูกันว่า จากวันนั้น...ถึงวันนี้ ชีวิตของพวกเขาอยู่ดีมีสุขหรือไม่ อย่างไร
จ๊ะเอ๋ เชิญยิ้ม
จ๊ะเอ๋ เชิญยิ้ม
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2546 รายการได้นำเสนอเรื่องราวของ "จ๊ะเอ๋ เชิญยิ้ม" อดีตตลกชื่อดัง ในตอนที่มีชื่อว่า "ชายผู้แจวเรือไร้หางเสือ" โดย "จ๊ะเอ๋ เชิญยิ้ม" ถือเป็นคนต้นเรื่องคนแรกที่รายการได้ไปถ่ายทำ (แต่ไม่ใช่เทปแรกที่ออกอากาศ) ในช่วงนั้น "น้าจ๊ะเอ๋" กลายเป็นตลกตกอับที่อาศัยอยู่ในเพิงริมถนน และกำลังป่วยหนัก ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทีมงานรายการคนค้นฅนได้เดินทางไปเยี่ยม "พี่ป้อม" ภรรยาของน้าจ๊ะเอ๋ ซึ่งก็ยังประกอบอาชีพเก็บของเก่าขายเช่นเดิม และพักอาศัยอยู่ในห้องเช่า ส่วนลูกสาว "น้องไข่มุก" นำไปฝากไว้กับพี่ชายที่จังหวัดชุมพร และกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.3 โดยพี่ป้อมบอกว่า จะเก็บของเก่าต่ออีก 2 ปี เพื่อเก็บเงินไปเปิดร้านส้มตำที่ชุมพร และจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกต่อไป ซึ่งเมื่อทราบความประสงค์ ทางรายการจึงมอบรถเครื่องซาเล้งให้พี่ป้อมได้ใช้ประกอบอาชีพต่อไป
เถร ท่าพระจันทร์
เถร ท่าพระจันทร์
แต่หากพูดถึงเทปแรกที่ออกอากาศในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2546 แล้ว หลายคนอาจจะจำได้ว่า คนต้นเรื่องคนแรกของรายการคือ "เถร ท่าพระจันทร์" หนุ่มคนดีที่ท่าพระจันทร์ ที่วันนี้แม้อายุอานามจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังขยันขันแข็งเหมือนเดิม และเขาก็ไม่ได้นอนบนรถเข็นแล้ว เพราะมีธนาคารแถวนั้นใจดีช่วยสร้างเพิงพักเล็ก ๆ ให้เขาได้หลบแดดหลบฝน แถมยังมีคนช่วยสอนให้ "เถร" หัดเล่นอินเทอร์เน็ต จนเข้าเว็บไซต์ดูหนัง ดูคลิปได้สบาย ๆ แต่สิ่งที่เจ้าตัวยังขาด และขอประกาศชัด ๆ เลยก็คือ "อยากมีเมีย!!!"
ป้านงค์ กะเทยเฒ่า
ป้านงค์ กะเทยเฒ่า
ป้านงค์ กะเทยเฒ่า
ป้านงค์ กะเทยเฒ่า
ตามมาด้วยเทปที่สองของรายการ "ป้านงค์ กะเทยเฒ่า" หรือ สวิง นิสาภรณ์เสน ผู้ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยการรำ และแสดงตามที่ต่าง ๆ แต่ปัจจุบัน ป้านงค์ อายุ 80 กว่าปีแล้ว สังขารจึงร่วงโรย แถมยังป่วยด้วยโรคไต จนไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ดังเดิม แต่ยังโชคดีที่มีคนคอยดูแลอยู่ ซึ่งทางรายการคนค้นฅนก็ได้มอบเงินช่วยเหลือป้านงค์ เดือนละ 3,000 บาท เพื่อให้ป้านงค์ได้ใช้เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกันแล้ว พร้อมกับพาป้านงค์ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ
เมย์-เหน่ง
เมย์-เหน่ง
เมย์-เหน่ง
เมย์-เหน่ง
ขณะที่ชีวิตของ "เมย์-เหน่ง" สองพี่น้องยอดกตัญญู ในตอน "แม่ไม่ต้องร้องไห้" ก็ทำเอาผู้ชมน้ำตาซึมและจดจำพวกเขาได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน ทั้งสองพี่น้องเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว และย้ายมาอยู่กับยายที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากพ่อเสียชีวิต โดยเรียนหนังสือและทำงานพิเศษควบคู่ไปด้วย ขณะเดียวกัน เงินบริจาคที่ได้รับจากผู้ชม ก็มีประชาสงเคราะห์จังหวัดสุพรรณบุรี คอยดูแลจัดการให้ ทั้งนี้ เหน่ง บอกว่า จากนี้ไปตั้งใจจะขายน้ำเต้าหู้เหมือนตอนที่ขายสมัยเด็ก ๆ ทีมงานรายการคนค้นฅน จึงมอบอุปกรณ์ทำน้ำเต้าหู้ และรถเข็น เพื่อให้ทั้งสองพี่น้องได้ใช้ประกอบอาชีพ
น้องต้นข้าว
นอกจากเรื่องราวของเด็กยอดกตัญญู "เมย์-เหน่ง" แล้ว เด็กอีกหนึ่งคนที่แฟน ๆ รายการคงจดจำได้เป็นอย่างดีคือ "น้องต้นข้าว" เด็กหญิงตัวน้อยที่อาศัยอยู่ ณ ไร่ในเงา จังหวัดเชียงใหม่ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ "น้องต้นข้าว" ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2553 ในวัยเพียงแค่ 10 ปี จากโรคไข้ป่า ส่วนครอบครัวของน้องต้นข้าวก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในไร่ในเงาเช่นเดิม
น้องแอน ทองดี
น้องแอน ทองดี
น้องแอน ทองดี
น้องแอน ทองดี
หากพูดถึงเด็กหญิงช่างเจรจา หลายคนคงนึกถึง "น้องแอน ทองดี" เด็กหญิงจากแดนหญิง ที่ฉลาดหลักแหลม เธอเติบโตขึ้นมาในเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี และมีบรรดาผู้ต้องขังเป็นเสมือนคนในครอบครัว ทั้งนี้ หลังจากแม่ของน้องแอนพ้นโทษ น้องแอนก็ได้ออกมาอยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ ปัจจุบัน น้องแอน อายุ 10 ขวบ และได้รับการศึกษาในโรงเรียน แถมยังสามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยผู้เป็นแม่แวะเวียนมาเยี่ยมเธออย่างสม่ำเสมอ
สไบทอง
สไบทอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟน ๆ รายการคนค้นฅนแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก "สไบทอง" เด็กหญิงหัวใจทองคำ ที่เรียกน้ำตาจากผู้ชมได้มากที่สุดคนหนึ่ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 4 ปีผ่านไป "สไบทอง" เด็กหญิงที่แทบจะไร้รอยยิ้ม เพราะต้องทำงานหนักทั้งวันทั้งคืน กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.4 ที่จังหวัดพิษณุโลก และการที่เธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็ทำให้เราได้เห็นรอยยิ้มของเธอมากขึ้น พร้อมกับความฝันที่จะเป็นตำรวจหญิง ส่วนป้าของสไบทองที่หลายคนเคยต่อว่าต่อขานกันนั้น ปัจจุบัน เมื่อไม่มีสไบทองอยู่ด้วยแล้ว เธอก็ออกมาขายปลาอยู่ในตลาดหาเลี้ยงชีพต่อไป
ปานวาด-ปานตะวัน
ปานวาด-ปานตะวัน
ปานวาด-ปานตะวัน
ปานวาด-ปานตะวัน
มาถึงคู่แฝดสยามตัวติดกัน "ปานวาด-ปานตะวัน" หลังจากการผ่าตัดแยกลำตัวสำเร็จ พวกเธอก็ได้รับการดูแลจากคุณแม่หัวใจเพชรอย่างใกล้ชิด ปัจจุบัน ทั้งสองพี่น้องอายุ 5 ขวบแล้ว และแม้ว่าทั้งคู่จะตัวเล็ก อีกทั้งมีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง แต่ก็ยังคงความสดใส ร่าเริง ไม่ต่างจากเด็กทั่ว ๆ ไป ซึ่งคุณแม่หัวใจเพชรที่เลี้ยงลูกเพียงลำพัง หลังจากแยกทางกับสามี ก็รู้สึกภูมิใจที่สามารถเลี้ยงน้องทั้งสองคนให้เติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้
รุ่ง
รุ่ง
คนต้นเรื่องอีกคนหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของทุกคนก็คือ "รุ่ง" หญิงสาวที่มีอาการไม่ปกติ ในตอน "กว่าแม่จะรู้เดียงสา" ปัจจุบัน เธอต้องแบกรับภาระเลี้ยงลูกชายผู้พิการ และลูกสาวเพียงลำพัง หลังจากแยกทางจากสามี ขณะเดียวกันปัญหาสุขภาพของตัวเธอเอง ก็ยังทำให้ "รุ่ง" กังวลอยู่ไม่น้อย และกลัวว่า หากเธอเป็นอะไรไปก่อน ลูก ๆ จะใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
ลุงเสรี
ลุงเสรี
แม้ชีวิตของ "รุ่ง" จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ชีวิตของ "ลุงเสรี" คนต้นเรื่องจากตอน "คนบุญผู้หยาบช้า คนบ้า 6 สลึง" ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป เพราะคุณลุงยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ไว้เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งการแต่งตัว การพูดจาโผงผางเสียงดังตรงไปตรงมา และเจ้าตัวก็ยังแวะเวียนมาช่วยงานบุญในวัดเสมอมาด้วย โดยไม่เคยคิดจะรับเงินทองใด ๆ แต่ถ้าใครคิดจะให้เงินแก จะถูกแกด่าไปสามวันเจ็ดวันเลยทีเดียว
ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก
ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก
จากเรื่องราวคุณลุงเสรี ลองตามไปสัมผัสเรื่องราวของ "คนต้นเรื่อง" ที่มีคนหลงรักมากที่สุดคนหนึ่งอย่าง "ยายยิ้ม" กันบ้าง ในตอน "ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก" กับความมุ่งมั่นของหญิงชราที่จะใช้ชีวิตอยู่บนป่าเขา และเพียรสร้างฝายให้ครบ 14 ฝายตามความตั้งใจ ซึ่งวันนี้ยายยิ้มทำสำเร็จแล้ว เพราะมีบรรดานักศึกษา และคนที่ชื่นชอบแนวทางการใช้ชีวิตของคุณยายเข้ามาช่วยเหลือ และนอกจากจะสร้างฝายได้ครบ อีกหนึ่งความตั้งใจของยายยิ้มที่จะสร้างศาลาเล็ก ๆ ให้พระธุดงค์ก็ทำสำเร็จแล้วเช่นกัน จากความร่วมมือร่วมใจของกลุ่มคนที่รักยายยิ้มเข้ามาช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ
ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก
ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก
ขณะเดียวกันหลังจากรายการออกอากาศ ก็มีหลายคนที่เดินทางแวะเวียนมาเยี่ยมยายยิ้มถึงบ้าน แถมยังมาช่วยซ่อมบ้าน บันได ห้องน้ำ ให้ยายยิ้มใช้ได้สะดวกขึ้น และยังมีคนส่งข้าวส่งของมาให้ยายยิ้มได้ใช้ ซึ่งหากของเหลือกินเหลือใช้ ยายยิ้มก็จะนำไปทำบุญต่อไป เพื่อให้ผู้มอบให้ได้รับบุญกุศลด้วยเช่นกัน
และนี่คือเรื่องราวชีวิตส่วนหนึ่งของคนต้นเรื่องในความทรงจำในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีคนต้นเรื่องอีกหลายชีวิตที่มีเรื่องราวน่าสนใจไม่น้อยรอให้เราไปค้นหา เพราะฉะนั้นแล้ว มาร่วมย้อนความทรงจำ และไปตามหาพวกเขากันต่อได้ ในรายการคนค้นฅน วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ.2555 นะคะ
คลิป คนค้นฅน 1/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 27 Dec 2011
คลิป คนค้นฅน 2/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 27 Dec 2011
คลิป คนค้นฅน 3/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 27 Dec 2011
คลิป คนค้นฅน 4/4 คนต้นเรื่องในตำนาน 27 Dec 2011
