สั่งจำคุกพ่อปลาบู่ 15 วัน ปรับ 500 ทำแตกตื่น

เรียบเรียงข้อมูลโดนกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย TeleminePhobia

          ยังคงเป็นที่ฮือฮาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของเด็กชายปลาบู่ ที่ได้ทำนายว่า จะเกิดเหตุภัยพิบัติในประเทศไทย โดยเฉพาะแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่จะทำให้เขื่อนใหญ่อย่างเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตากต้องแตก ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2554 จากเรื่องราวดังกล่าวสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก พากันอพยพขึ้นเขากันจ้าละหวั่น... แต่แล้วเหตุการณ์ร้าย ๆ ดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดขึ้น เขื่อนภูมิพลยังอยู่รอดปลอดภัย และประชาชนที่ไม่เชื่อคำบอกเล่าก็สามารถฉลองวันขึ้นปีใหม่ในเขื่อนภูมิพล โดยไม่มีใครได้รับอันตราย..

          เกี่ยวกับเรื่องนี้นี่เอง พิธีกรชื่อดังอย่าง วู้ดดี้ กับรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย จะพาทุกคนไปเจาะลึกเกี่ยวกับคำนายของเด็กชายปลาบู่ จากปากของของนายทองใบ คำสี ผู้เป็นบิดาของเด็กชายปลาบู่ ว่าเรื่องราวที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร เพราะอะไรคุณลุงทองใบถึงต้องนำคำทำนายมาบอกกล่าว นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นของนักวิชาการ และโหราศาสตร์ถึงเรื่องคำทำนายให้เราได้ทราบกันอีกด้วย ...




คุณลุงทองใบ คำสี บิดาของเด็กชายปลาบู่

          พ่อแท้ ๆ ของเด็กชายปลาบู่ ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ลูกชายเป็นเด็กน่ารักมาก ใครเห็นก็ชม ใครเห็นก็รัก วันที่ปลาบู่ตายนางพยาบาลยังร้องไห้เลย ส่วนเรื่องราวคำทำนายนั้น ตนไม่เคยเชื่อเลย ถึงแม้ว่าตั้งแต่ปลาบู่จะบอกกับตนตลอดเวลาว่า เขาเองเป็นคนหูทิพย์ ตาทิพย์ หรือระลึกชาติได้ก็ตาม จนกระทั่งก่อนวันที่เขาจะตาย ปลาบู่ได้บอกกับตนว่า อีก 15 วันหลังจากนี้เขาจะตาย แล้วมาเกิดใหม่เป็นเณร แล้วยังได้เล่าเรื่องราวให้ตนฟังอีกมากมาย ทั้งเรื่องเครื่องบินชนตึก หรือว่าคลื่นยักษ์ ซึ่งตอนนั้นตนนึกว่าปลาบู่พูดถึงเรื่องตะลุมพุกในอดีต แต่จริง ๆ แล้วคือเหตุการณ์สึนามิที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนด 15 วัน ปลาบู่ก็ตายจริง ๆ ด้วยโรคเนื้องอกในสมองท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว

          ส่วนเรื่องคำทำนายนั้น ตนได้เล่าให้ชาวบ้านฟังมานานแล้ว บ้างก็เชื่อบ้างก็ไม่เชื่อ คิดว่าตนเป็นคนบ้า แต่ตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งมี ดร.ปชา ภาณุบุญ เขาทราบข่าว แล้วนำเรื่องราวของตนไปบอกต่อ ทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้อยากจะหลอกลวงใคร เพียงแค่อยากได้กุศล อยากได้บุญ ไม่ได้อยากให้คนเกลียด แล้วก็ไม่ได้อยากดังด้วย ตนอายุ 73 ปี ดังแล้วได้อะไร

          นอกจากนี้ คุณลุงทองใบ ยังกล่าวถึงการรอคอยการกลับมาเกิดของปลาบู่อีกว่า ตนเชื่อว่าในปีนี้เขาจะกลับมาเกิดอีก และบอกให้ตนปลูกต้นโพธิ์เอาไว้ แล้วเขาจะกลับมาเกิดเป็นเณรมาเดินบิณฑบาตรที่นี่ ... อย่างไรก็ตาม บรรดาชาวบ้านที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการปลูกต้นโพธิ์ ว่าคนดี ๆ ที่ไหนจะปลูกต้นโพธิ์กัน กินก็ไม่ได้ ปลูกก็ยาก แล้วก็เรียกคุณลุงทองใบว่า "ลุงใบบ้า" กันทั่วหมู่บ้าน...

          ทั้งนี้ หลังจากค่ำคืนของวันที่ 31 ธันวาคม คุณลุงทองใบ ก็กลายมาเป็นหัวข้อสนทนาอีกครั้ง เพราะเหตุการณ์เลวร้ายตามคำทำนายนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง จนชาวบ้านที่อยู่ใน จ.ตาก ต้องเดือดร้อน แห่อพยพขึ้นเขากันยกใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายเรียกให้คุณลุงทองใบไปพบตำรวจในวันที่ 10 มกราคม เวลา 10.00 น.  ในข้อหา"แกล้งบอกเล่าความเท็จจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ" ด้านคุณลุงทองใบบอกว่า ตนจะไปตามหมายเรียก แต่ตนยืนยันว่า ไม่ได้หลอกลวงอะไรใคร เรื่องเขื่อนที่จังหวัดตากนั้น ตนก็ยังยืนยันว่าจะแตกจริง ๆ แต่อาจจะเป็นปีใหม่ไทย ช่วงสงกรานต์นี้ก็เป็นได้.. ส่วนที่มีคนบอกว่า ตนให้นำเหล็กไปรองรางเพื่อป้องกันเขื่อนแตกนั้น ไม่เป็นความจริงเลย ตนแค่อยากให้เขาทำขอบเขื่อนเป็นเหล็ก เพิ่มความแข็งแรงให้กับเขื่อนมากกว่า

          ท้ายนี้คุณลุงทองใบ กล่าวว่า ตนบริสุทธิ์ใจไม่ได้มีเจตนาจะนำเงินเรี่ยไรไปทอดกฐินแต่อย่างใด ถ้าตนคิดที่จะหาผลประโยชน์กับชาวบ้าน ตนไม่ทำจนรวยไปแล้วเหรอ ทั้งนี้ถ้าอยากให้ตนรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนพร้อมแลกไม่ว่าจะเป็นชีวิต หรือเงินทองก็ตาม




ดร.ปชา ภานุบุญ อดีตข้าราชการกรมวิชาการเกษตร

          บุคคลท่านนี้ เป็นบุคคลที่นำเอาเรื่องราวคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ไปเผยแพร่จนกลายเป็นข่าวครึกโครมทั่วบ้านทั่วเมือง โดย ดร.ปชา กล่าวว่า ตนได้ยินได้ฟังแล้ว เห็นว่าคำทำนายพ้องตรงกับเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต จึงคิดว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ประชาชนควรจะได้รับรู้ เพื่อเตรียมตัวและเตรียมพร้อมกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ตนคิดว่า รู้เอาไว้เพื่อป้องกันตัว ถ้าไม่เกิดขึ้นมันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากเกิดขึ้นอย่างน้อยเราก็ได้เตรียมพร้อมอะไรไว้บ้างแล้ว




อ.เก่งกาจ จงใจพระ โหรการเมืองชื่อดัง

          โหรชื่อดังท่านนี้ ได้กล่าวว่า ตนไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว คนตายมาแล้วกว่า 30 ปี คำบอกเล่าบอกกล่าวก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลย มีตัวตนจริง ๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ เรื่องราวทั้งหมดไม่ผิดที่ลุงทองใบ แต่ผิดที่สื่อที่ขายความกลัว โหมลงข่าวเพื่อจะขายอย่างเดียว ประกอบกับประเทศไทยเพิ่งผ่านอุทกภัยครั้งใหญ่ อีกทั้งเรื่องนี้ยังไปเกี่ยวข้องกับพุทธทำนาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ขายได้ตลอด เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจับต้องได้ และไม่ใช่ว่าตนไม่เชื่อในพระพุทธศาสนา เพราะตนเพิ่งสึกมาหลังจากบวชปีใหม่ให้ในหลวง แต่เป็นเพราะไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น หรือเชื่อโดยไม่มีวิจารณญาณ

          นอกจากนี้ อ.เก่งกาจ ยังได้ทำนายดวงเมืองของประเทศไทยว่า ในปีนี้มีการเคลื่อนย้ายของดวงดาว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโลกของเราอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวหลายพื้นที่ แถบมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ประเทศไทยจะโดนผลกระทบน้อยมาก สำหรับเรื่องอุทกภัยนั้น ปีนี้ภาคใต้จะหนักหน่อย เพราะโดนตั้งแต่ต้นปี และช่วงท้ายปีก็จะท่วมยาวไปถึง อ.หาดใหญ่ ส่วนภาพรวมทั่วประเทศนั้นตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมจะแล้งมาก แต่พอเดือนกันยายนจะเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง

          อ.เก่งกาจ ยังกล่าวอีกว่า วันที่ 21 ธันวาคม ที่ในปฏิทินมายันระบุว่าจะเป็นวันสิ้นโลกนั้น ตนเช็คมาหมดแล้ว ไม่มีเหตุการณ์โลกแตกอะไรอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นสื่ออย่าสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชน




ดร.ปัญญา จารุศิริ  หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          ดร.ปัญญา ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยามากว่า 20 ปี ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เราควรจะใช้คำทำนายของคุณลุงทองใบให้เป็นประโยชน์ เพราะเป็นที่ทราบดีว่า ประเทศไทยของเรามีหลายจังหวัด และหลายพื้นที่มีรอยเลื่อนมีพลังอยู่ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ถ้าเรามัวแต่มานั่งมองว่า สิ่งที่คุณลุงทองใบพูดเป็นเรื่องหลอกลวง มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร สู้เรามาตระหนักถึงเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นได้ดีกว่า 

          ทั้งนี้ เรื่องรอยเลื่อนเป็นเรื่องที่นักธรณีทราบมานานแล้ว แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ส่วนเขื่อนภูมิพลที่เป็นข่าวนั้น ถึงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีรอยเลื่อน แต่ก็นับว่าใกล้เคียงมาก ๆ ตนอยากจะฝากบอกไปยังภาครัฐว่า ประเทศอื่น ๆ เขาได้ประกาศบอกประชาชนว่า พื้นที่ที่เขาอาศัยอยู่นั้นเป็นพื้นที่ที่มีรอยเลื่อนหรือไม่ ถ้าที่ตรงนั้นเป็นรอยเลื่อนคุณอยากจะอยู่ต่อหรือเปล่า หรือจะอพยพออกไปก็เป็นเรื่องของคุณ ส่วนมากในพื้นที่ที่มีรอยเลื่อนดังกล่าว จะไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ โดยเฉพาะยิ่งเป็นรอยเลื่อนมีพลังพื้นที่นั้นก็จะเป็นแค่พื้นป่า ไม่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ หรือถ้าต้องการอาศัยอยู่ ควรเตรียมรับมืออย่างไร เช่นไม่ควรมีถังแก๊ส เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการระเบิด นำมาซึ่งเหตุเพลิงไหม้ หรือไฟไม้ป่า เป็นต้น

          ส่วนเรื่องคำทำนายที่ว่าเขื่อนจะแตกนั้น มีความเป็นไปได้น้อย แต่ก็ไม่ถึงว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าแผ่นดินไหวอาจจะเขย่าทำให้น้ำในเขื่อนกระเฉาะออกมาบ้าง แต่ก็อาจจะทำให้เขื่อนเสียหาย หรือสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นพังได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดดินถล่ม แผ่นดินแยกเป็นต้น 

          ท้ายนี้ ดร.ปัญญา ยังกล่าวอีกว่า ไม่อยากให้คนไทยลืมเรื่องภัยพิบัติใด ๆ ทั้งสิ้น เหตุการณ์เล่านั้นควรจะเป็นแนวทาง และเครื่องเตือนใจให้คนไทยคิดหาทางป้องกัน และถ้าหากตนเป็นดวงวิญญาณที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิ ตนจะเสียใจมาก ถ้ายังไม่มีใครคิดค้นแนวการป้องกันความเสียหาย หรือการเตือนภัยที่เกิดขึ้น ถึงแม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ยังไม่เคยเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ที่เราจะเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างเหตุการณ์สึนามิ แต่เราก็ควรจะหาวิธีป้องกัน เตรียมพร้อม และรับมือให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ... เพราะถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า