x close

ย้อนรอยคดี เนวาด้าทัน เด็กญี่ปุ่นฆ่าเพื่อนร่วมชั้นด้วยคัตเตอร์



นัตสึมิ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ohinternet.com


          หากพูดถึงคดีเด็กนักเรียนฆ่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่สะเทือนขวัญที่สุดแล้ว เชื่อว่าคดีแรกที่หลาย ๆ คนจะนึกถึงคงจะไม่พ้นคดีเด็กหญิงญี่ปุ่นวัย 12 ปีก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์ฆ่าเพื่อนร่วมชั้นเป็นแน่ เพราะนอกจากคดีนี้จะเป็นเรื่องจริงที่เขย่าขวัญนักเรียนทั่วญี่ปุ่นแล้ว มันยังถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนและภาพยนตร์เผยแพร่ให้เรื่องราวนี้โด่งดังมากขึ้นไปอีก จนหลายคนนึกไม่ถึงว่า ฆาตกรผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวสุดโด่งดังนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ และกำลังจะได้รับการปล่อยตัวคืนสู่อิสรภาพในปีหน้านี้แล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอย้อนรอยคดีนี้ให้ได้อ่านกันอีกครั้งค่ะ

          ย้อนไปเมื่อปี 2004 เด็กหญิงรายหนึ่งนามว่า นัทสึมิ ซึจิ วัย 11 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ในตอนนั้น เธอไม่ค่อยจะชอบ ซาโตมิ มิตาราอิ เพื่อนร่วมชั้นวัย 12 ขวบเท่าไหร่นัก เพราะซาโตมิมักจะมาคอมเม้นท์ล้อเลียนและจิกกัดเธอในโฮมเพจของเธออยู่บ่อย ๆ ทำให้เธอเกิดความไม่พอใจตามประสาของเด็กหญิงทั่ว ๆ ไป

          โดยคำพูดของซาโตมิที่นำมาซึ่งความเคียดแค้นในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ก่อนการฆาตกรรม เมื่อซาโตมิได้เข้ามาคอมเม้นท์ในโฮมเพจของนัทสึมิว่า ตัวหนัก ทำให้นัทสึมิไม่พอใจเป็นอย่างมาก และวินาทีนั้นเองที่ความเคียดแค้นได้ก่อตัวขึ้น นัทสึมิเริ่มคิดที่จะฆ่าซาโตมิในวันต่อมา แต่แล้วเธอก็ทำไม่ลง จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ซาโตมิก็ได้เติมไฟแค้นให้กับนัทสึมิ ด้วยการเขียนคอมเม้นท์ลงในโฮมเพจของนัทสึมิว่า "กระแดะ" และทันทีที่นัทสึมิได้เห็น เธอก็ลบคอมเม้นท์นั้นออกจากหน้าโฮมเพจเธอทันที แต่ซาโตมิกลับไม่ยอมหยุด เข้ามาเขียนข้อความซ้ำอีกว่า "ฉันจะฆ่าแก" โดยหารู้ไม่ว่า นัทสึมิเองก็รู้สึกอยากจะทำอย่างนั้นก่อนเธอเสียอีก

          วันรุ่งขึ้น ทั้งสองก็ทะเลาะกันอีกครั้งผ่านโฮมเพจของทั้งคู่ ทำให้นัทสึมิเกิดความคิดที่จะกำจัดซาโตมิอย่างจริงจัง แล้วไปซื้อมีดคัตเตอร์เพื่อเตรียมการสังหาร และในที่สุด วันแห่งการลงมือก็มาถึง

          เช้าวันที่ 1 มิถุนายน 2004 หนึ่งสัปดาห์หลังจากความเคียดแค้นได้ก่อตัวขึ้น นัทสึมิก็เรียกซาโตมิเข้าไปในห้องเรียนห้องหนึ่งในช่วงพักกลางวัน ก่อนจะบังคับให้ซาโตมินั่งลงบนพื้นแล้วปิดม่านหน้าต่างห้อง จากนั้นนัทสึมิก็ใช้มือปิดตาซาโตมิ และใช้มีดคัตเตอร์ที่เตรียมไว้ปาดคอซาโตมิอย่างโหดเหี้ยม ส่วนทางด้านซาโตมินั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกทำร้ายก็พยายามกระเสือกกระสนคลานไปขอความช่วยเหลือ แต่ขาดใจตายที่ประตูห้องเสียก่อน จากนั้น นัทสึมิก็รอเวลาประมาณ 15 นาที เมื่อแน่ใจว่าซาโตมิเสียชีวิตแน่นอนแล้ว เธอก็เอามีดคัตเตอร์ชุ่มเลือดห่อไว้กับเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ แล้วเดินกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง ระหว่างทางนั้นเธอได้เดินสวนทางกับครูคนหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ครูจะถามอะไร เธอก็โวยวายบอกว่า "ไม่ใช่เลือดฉัน ไม่ใช่เลือดฉัน" ก่อนจะวิ่งเข้าห้องเรียนไป

          ไม่นานนัก ครูในโรงเรียนก็ถึงกับผงะเมื่อเปิดประตูห้องเรียนที่เกิดเหตุ แล้วพบศพของซาโตมินอนจมกองเลือดอยู่ ลำคอถูกปาดจนเห็นกระดูก บาดแผลนั้นยาว 10 เซนติเมตร และลึกกว่า 10 เซนติเมตร จึงเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็นำตัวนัทสึมิไปสอบสวนทันที และในตอนนั้น นัทสึมิได้แต่ร้องไห้พูดคำว่าขอโทษซ้ำ ๆ และสารภาพว่าเธอเป็นคนทำจริง โดยการฆาตกรรมครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการทะเลาะกันในโฮมเพจและมีแรงบันดาลใจมาจากหนังฆาตกรรมที่นำเสนอก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน และในคืนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กักตัวเธอไว้ที่สถานีตำรวจ ตลอดช่วงเวลานั้นเธอเอาแต่ร้องไห้ ไม่กินอะไรเลยสักอย่าง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวเธอไปตรวจสภาพจิตใจวันต่อมา ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องของญี่ปุ่นตอนนั้นต่างระงับรายการและละครทุกเรื่องที่นำเสนอฉากการฆาตกรรม หวั่นจะกลายเป็นแรงบันดาลใจของเด็กคนอื่นอีก

           สามเดือนต่อมา ผลการตรวจสภาพจิตก็ปรากฎออกมาว่า นัทสึมิไม่ได้ป่วยทางจิตแต่อย่างใด แต่มีความเครียดมาก ขณะที่คนรอบตัวของเธอได้ให้การว่า เธอมีอาการของคนเก็บตัว ปลีกตัวออกจากสังคม และเคยมีการใช้กำลังกับเพื่อนคนอื่น ๆ ก่อนหน้านั้น

           หลังจากนั้น นัทสึมิก็ถูกส่งตัวไปควบคุมความประพฤติ 2 ปี ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังสถานส่งเสริมการฟื้นตัวของเด็กในเวลาต่อมา และอยู่ในการควบคุมของทางการนับตั้งแต่นั้นมา และมีกำหนดจะปล่อยตัวคืนสู่สังคมในปี 2013

           ทั้งนี้ หลังจากที่คดีนี้ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วญี่ปุ่น ทำให้นัทสึมิได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานาอยู่นาน และด้วยความโด่งดังนี้ ก็มีนักวาดการ์ตูนสมัครเล่นหลายคน ต่างพากันวาดรูปแฟนอาร์ตของเธอและซาโตมิขณะเกิดเหตุมากมาย โดยวาดให้นัทสึมิสวมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน สกรีนคำว่า NEVADA ตามภาพถ่ายรวมสมาชิกในชั้นเรียนของเธอที่ถูกเปิดเผยในอินเทอร์เน็ต และหลังจากนั้น นัทสึมิก็มีฉายาว่า "เนวาด้าทัน" ซึ่งแปลว่าเด็กหญิงเนวาด้า (คำว่า ทัน แผลงมาจาก จัง นั่นเอง) และยังคงมีแฟนอาร์ตของเธอเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้












เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนรอยคดี เนวาด้าทัน เด็กญี่ปุ่นฆ่าเพื่อนร่วมชั้นด้วยคัตเตอร์ อัปเดตล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 12:16:37 235,303 อ่าน
TOP