x close

เฉลิม ตอก รังสิมา ยันเมาในสภาไม่ผิดจริยธรรม




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
          เฉลิม ตอก รังสิมา เมาในสภาไม่ผิดจริยธรรม แต่คบชู้ต่างหากผิดจริยธรรม เพราะมีกฎระบุในระเบียบชัดเจน
 
          วันนี้ (6 มีนาคม) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในประเด็นที่ถูกนางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบจริยธรรม เพราะใช้ตำแหน่งรองนายกฯ ขู่คุกคามทางเพศ ว่า เรื่อง นี้เป็นเรื่องของคนไม่เข้าใจจริยธรรม คำว่า จริยธรรม จริง ๆ จะเน้นการสร้างความแตกแยกในครอบครัวมากกว่า เช่น คบชู้กับสามีภรรยาผู้อื่น ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ชัดเจนที่ระบุไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวล จริยธรรมของข้าราชการการเมือง

          พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวว่า ข่าวที่นำเสนอว่าตนเมาในระหว่างประชุมสภา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ถ้าหากตนเมาจริง ทำไมนางสาวรังสิมาไม่ทักท้วงตั้งแต่ตอนนั้นเลย และตนเห็นว่าว่าเรื่องนี้ไร้สาระ ดังนั้นตนจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว
 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[1 มีนาคม] หลักฐาน! เฉลิม โชว์ใบรับรองแพทย์ ยันเป็นโรคหูดับ  




 เฉลิม โชว์ใบรับรองแพทย์ ยันเป็นโรคหูดับ

          เฉลิม โชว์ใบรับรองแพทย์ ยืนยันเป็นโรคหูดับ และปฎิเสธข่าวเมา ด้านสมาคมนักข่าวฯ เตือน ร.ต.อ.เฉลิม  ฟ้องสื่อ 7 เล่ม กรณีเมาเข้าสภาฯ คุกคามและปิดกั้นสื่อ ขู่หามาตรการหากไม่หยุดฟ้อง

          จากกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ร้องทุกข์กล่าวโทษหนังสือพิมพ์ รวม 7 ฉบับ ที่นำเสนอข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อาจจะเมาเข้าประชุมรัฐสภานั้น วันนี้(1 มีนาคม) รองนายกฯ ได้ออกมาแสดงหลักฐานผลการตรวจจาก 3 โรงพยาบาล เพื่อยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เมาในสภา ส่วนการฟ้องร้องสื่อ เพียงต้องการนำมาเป็นพยานขั้นตอนที่ตำรวจตรวจสอบ ไม่ได้มีเจตนาคุกคามสื่อ หรือ เป็นการปิดปากสื่อ แค่ดำเนินคดีตามกฎหมายเท่านั้น แต่การฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ที่นำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง ย่อมหมิ่นเหม่ต่อการขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายหมิ่นประมาท ที่มุ่งเอาผิดกับ ผู้ที่ใส่ร้ายผู้อื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียง มิใช่มีไว้เพื่อให้นักการ เมืองใช้เป็นเครื่องมือในการปิดกั้นสื่อมวลชน ซึ่งเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะฟ้องร้องนักการเมืองฝ่ายค้านที่ทำให้ตนเองเสียหายมากกว่า

          ทั้งนี้ นายปราเมศ กล่าวว่า หาก ร.ต.อ.เฉลิม ยังไม่หยุดพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ต่อการคุกคามขัดขวางการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ จะนำเรื่องนี้หารือในที่ประชุม เพื่อดำเนินการในด้านอื่น ๆ ต่อไป






[29 กุมภาพันธ์] เฉลิม ปัดนายกฯ ไม่พอใจบทบาท รับได้หากโดนเด้ง




สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม


           ร.ต.อ.เฉลิม เผย สสร. 99 คน และกรอบเวลาแก้ไข รธน. 180 วัน ไม่เร็วเกินไป เหมาะสมแล้ว  พร้อมยอมรับ หากนายกรัฐมนตรีปรับออกจากตำแหน่ง เพราะตนเองบกพร่องในหน้าที่

           วันนี้ (29 กุมภาพันธ์) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. จำนวน 99 คน มีความเหมาะสม ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะไม่แสดงความคิดเห็นใด ที่จะเป็นการกดดัน สสร. ขณะเดียวกัน กรอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายใน 180 วันนั้น ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เร็วเกินไป ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไปลดอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองนั้น ตนเองไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะไม่อยากก้าวก่ายการทำหน้าที่ของ สรร.

           ส่วนกระแสข่าวที่ นายกรัฐมนตรี ไม่พอใจบทบาทการทำหน้าที่ของตนเองนั้น ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ต้องสอบถามจาก นายกรัฐมนตรี แต่หากตนเองบกพร่องในหน้าที่จนถูกปรับออกจากตำแหน่ง ก็พร้อมยอมรับ เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะตั้งกระทู้ถามสด กรณีดื่มสุราในรัฐสภาว่า พร้อมที่จะตอบ เพราะได้เตรียมข้อมูลตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ไว้แล้ว


เฉลิม ฟ้องดะกล่าวหา เมาเดินเซ ยันป่วยก้านหูอักเสบ


          เฉลิม เดินหน้าฟ้อง ส.ส.ปชป.-สื่อเพิ่มอีก 2 ฉบับ ฐานหมิ่นประมาท เมาเดินเซ เตรียมงัดใบรับรองป่วยก้านหูอักเสบยืนยันความบริสุทธิ์ แต่แพทย์ ระบุไม่เคยได้ยินคำว่าก้านหู มีแต่ก้านสมอง เปิดประวัติรองนายกฯ เฉลิม พบเคยหูดับมาก่อนเมื่อปลายปี 52  ขณะที่ อนันต์ ป่วยกะทันหัน บอกเป็นโรคหัวใจ-ความดัน ดื่มเหล้าไม่ได้

          ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงข้อกล่าวหาดื่มสุราขณะประชุมสภาเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐ ธรรมนูญว่า ได้มอบหมายให้ทนายความไปดำเนินคดีกับ 1.น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ 2.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และ 3.นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปเจอขวดโซดาที่ไหนเป็นสิบเป็นร้อยแล้วมาโยนให้ตน ก็ต้องไปเป็นผู้ต้องหาซะ

          ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ที่ยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้น ใจจริงต้องการฟ้องคือ ผู้จัดการ แนวหน้า สยามรัฐ ไทยโพสต์ อีกสองฉบับที่อาสาสมัครคือ คมชัดลึกและกรุงเทพธุรกิจ ส่วนไทยรัฐตนไม่เต็มใจ แต่ถ้าไทยรัฐจะไปให้การว่าไปลงข้อความอย่างนั้นเพราะใครให้สัมภาษณ์ ก็จะถอนฟ้องให้

          "ส่วนเรื่องที่ผมป่วยเป็นโรคก้านหูอักเสบนั้น ได้ไปเอาหลักฐานจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าแล้ว สองสัปดาห์มานี้อาการดีขึ้น ย้ำว่าคนเดินเซไม่ใช่คนเมาเหล้า คนหน้าแดงก็ไม่ใช่คนเมาเหล้า มาวัดแอลกอฮอล์ผมไว้หรือ เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในวันที่ 1 มีนาคมให้มายื่นเรื่องเอง" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

          ทั้งนี้ กรณีโรคก้านหูอักเสบทำให้เดินเซตามคำกล่าวอ้างของ ร.ต.อ.เฉลิมนั้น มีการยืนยันจาก  รศ.นพ.ภาคภูมิ สุปิยพันธุ์ หัวหน้าภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ในทางการแพทย์ไม่มีศัพท์คำว่าก้านหูเลย จะมีเฉพาะคำว่าก้านสมองเท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการทรงตัว คาดว่าน่าจะเป็นโรคอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับหูชั้นในหรือบริเวณใกล้ ๆ ประสาทหูหรือก้านสมอง ซึ่งการจะทราบได้ต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เท่านั้น

          "ตั้งแต่ที่เรียนมา 30-40 ปี ไม่เคยได้ยินคำว่าก้านหูเลย และในศัพท์ทางการแพทย์ก็ไม่เคยมีคำนี้ แสดงว่าคนพูดใช้ภาษาที่ไม่เหมือนเรา ทำให้การสื่อสารไม่เข้าใจกันว่าหมายถึงอะไร เพราะคำว่าก้านหูไม่มี มีแต่ก้านสมอง ผมเลยไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร ถ้าให้เดาจากอาการที่ท่าน (ร.ต.อ.เฉลิม) บอกอาการเดินเซๆ เดินไม่ตรง ถ้าตามนี้ก็หมายความว่าท่านเป็นโรคอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับหูหรือบริเวณ ใกล้ๆ เช่น ประสาทหู หรือก้านสมอง ซึ่งอันไหนผมก็ไม่ทราบ" รศ.นพ.ภาคภูมิ กล่าว

          เป็นที่น่าสังเกตว่าโรคเกี่ยวกับอาการทางหูนั้น ร.ต.อ.เฉลิมเคยพูดกับสื่อมวลชนราวปลายปี 2552  ว่า "เข้ารักษาสุขภาพด้วยอาการโรคหูดับที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน กว่า 2 สัปดาห์"

          ต่อมาวันที่ 8 ธันวาคม 2552 ร.ต.อ.เฉลิมยืนยันว่า "อาการหูดับข้างซ้ายดีขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยแพทย์ได้ฉีดยาไปในแก้วหู 2 เข็ม พร้อมทั้งรมยาให้เส้นโลหิตสูบฉีด รวมทั้งได้เช็กสุขภาพแล้วพบว่าไม่ได้เป็นโรคอื่นๆ ไม่ว่าโรคตับ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และความดันก็ไม่มี แต่น้ำหนักลดลงไป 4-5 กิโลกรัม ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้ออกกำลังวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 70 นาที ถึงวันนี้ร่างการฟิตสมบูรณ์ดีแล้ว"

          นอกจากนี้ ในวันที่ 28 ธันวาคม ปีเดียวกันนั้น  ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวถึงอาการป่วยเกี่ยวกับโรคหูว่า "ในช่วงที่นอนป่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาแซวว่าโรคหูดับขอสงวนลิขสิทธิ์ไม่ให้ใครเป็น พร้อมกับหัวเราะด้วย เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณก็เคยเป็นโรคหูดับมาก่อน และยังบอกอีกว่าใช้เวลา 7-8 เดือนกว่าจะหายเป็นปกติ และขณะนี้หมอจึงห้ามขึ้นเครื่องบินจนกว่าจะหายดีด้วย"

          แต่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิมได้นั่งเครื่องสายการบิน เที่ยวบินทีจี  614 เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติด จึงยืนยันได้ว่าอาการเกี่ยวกับโรคหูของ ร.ต.อ.เฉลิมได้หายดีแล้ว เพราะสามารถขึ้นเครื่องบินเดินทางได้

          ขณะที่ นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาดื่มสุราขณะประชุมสภาเพื่อพิจารณาญัตติ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า จะหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคว่าจะเสนอในที่ประชุมสภาให้ดำเนินการพิสูจน์หรือ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าตนเองเมาจริงหรือไม่ หากผลออกมาว่าเมาจริง ก็พร้อมที่จะลาออก แต่หากผลออกมาไม่ได้เมา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวหาตนนั้นจะลาออกหรือไม่

          "ที่มาอ้างว่าเคยเป็นพยาบาล ดูรู้ว่าคนเมาเป็นอย่างไร ยังงงว่าจะรู้ได้อย่างไร ได้กลิ่นได้อย่างไร มาดมปากใกล้ๆ หรือ เหตุการณ์วันนั้นได้ใช้สิทธิยกมือและลุกขึ้นประท้วง แต่วิปรัฐบาลต้องการห้ามไม่ให้ประท้วง จึงดึงตัวผมลงนั่น ทำให้เกิดอาการเซ ก็ไม่ได้แปลกอะไร"

          นายอนันต์ กล่าวว่า ส่วนการฟ้องร้อง จะปรึกษาผู้ใหญ่ในพรรค และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก่อนว่าจะทำอย่างไร ซึ่งคนที่กล่าวหาต้องฟ้องแน่ ส่วนสื่อมวลชนนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร ใครที่ลงข่าวแก้ให้ก็จะไม่ดำเนินการฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิมและตนเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาก่อน จะมาเมาในสถานที่ราชการได้อย่างไร รู้ว่าอะไรควร-ไม่ควร ส่วนข้อเสนอให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ก่อนเข้าห้องประชุมสภานั้น เป็นเรื่องไร้สาระ ส.ส.แต่ละคนเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะกันหมด ไม่ใช่เด็กๆ จะมาตรวจแอลกอฮอล์ มันไร้สาระเกินไป

          เขากล่าวกรณีนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ ระบุช่วงการประชุมสภาดึก ๆ มีการตั้งวงดื่มสุราว่า นายไพจิตไม่ดื่มเหล้า ไม่รู้ที่พูดหมายถึงอะไร แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ดื่มเหล้า นอกจากนี้ยังมีโรคความดันและโรคหัวใจอยู่ด้วย จึงดื่มเหล้าไม่ได้อยู่แล้ว



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[28 กุมภาพันธ์] เฉลิม ปัดเมากลางสภาฯ ยันมีวินัย ปชป.จ้องจับผิด

เฉลิม อยู่บำรุง


คลิป ข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปัดเมากลางสภา


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          เฉลิม ยันไม่ได้เมาสุรากลางที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพราะมีวินัย แจงหน้าแดงเพราะออกกำลังกาย เซเพราะก้านหูป่วย พร้อมย้ำไม่ได้คุกคาม น.ส.รังสิมา ระบุ พรรคประชาธิปัตย์ จ้องจับผิด พร้อมให้ตรวจสอบ


         เมื่อวานนี้ (27 กุมภาพันธ์) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า ไม่ได้เมาสุราระหว่างการประชุมร่วมสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และตนเองเป็นคนมีวินัย ไม่ดื่มสุราในรัฐสภาอย่างแน่นอน เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้ง คนเมาคงไม่ทราบข้อบังคับของสภา

         "คำว่าเมา ในที่นี้อาจจะหมายถึงเมาสุรา หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คุณรังสิมา (รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์) ระบุว่าเห็นหน้าผมแดง ๆ ก็เชื่อแล้วว่าเมา ผมรู้สึกว่าคุณรังสิมาเก่งเกินเหตุ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

         ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ตนมีวินัยอย่างหนึ่งคือ ก่อนปราศรัยหรืออภิปรายในสภาฯ ตนจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ถามว่าตนดื่มไวน์เป็นหรือไม่ ตอบว่าดื่มเป็น และการมีไวน์ไว้ในรถและในบ้าน มันไม่ผิดกฎหมาย คนที่พิสูจน์ได้ว่าเมาไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ใครก็ตามขับรถ แล้วเขาตรวจแอลกอฮอล์ถึงจะรู้ว่าใครเมาหรือไม่เมา จะเก่งเกินไป น.ส.รังสิมาแค่เห็นหน้าก็รู้ว่าเมาแล้ว

         ถามว่าพร้อมจะชี้แจงหรือไม่ หากพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นกระทู้ถามสดในสภาฯ รองนายกฯ กล่าวว่า "กราบขอร้องเดี๋ยวนี้ ว่าช่วยยื่นกระทู้สดถามหน่อยเถอะ เจ้าประคุณเอ๋ย เอาสักหน่อย"

          พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า ไม่ได้คุกคาม น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ แต่เข้าไปพูดคุยทักทายเท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่ลุกขึ้นประท้วง เนื่องจาก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนอกประเด็น ไม่ใช่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ยื่นกระทู้ถามสดต่อกรณีนี้ และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรเล่นการเมืองในเรื่องไร้สาระ อย่าจองจับผิดตนเอง เพราะเห็นว่ามีผลงานมากกว่า ขณะเดียวกัน พร้อมให้ทุกองค์กรตรวจจริยธรรม อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ใดกล่าวหมิ่นประมาท ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

          "ผมกราบเรียนว่าที่ผมเดินไปหาคุณรังสิมา ไม่ได้ไปคุกคาม เพราะเจอข้างนอกสภาฯ ก็คุยกัน บ้านเขาอยู่สมุทรสงคราม บ้านผมก็อยู่ปลายบางบอน ใกล้ ๆ กัน ซึ่งผมเดินไปบอกคุณรังสิมาก็แค่ล้อเล่นกัน ผมไม่ได้เมาเหล้าหรอก แต่เมารัก แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็วิ่งกันมาใหญ่เลย แสดงบทบาทเหมือนกับผมจะไปทำร้าย ผมจะไปคิดอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะ 1.ผมอายุมากกว่า 2.รัฐสภาเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ จะไปตบตีผู้หญิงถือว่าเกินเหตุ อยากถามว่าลักษณะคุกคามคืออะไร ผมเดินไปบอกว่าผมไม่ได้เมา จะเป็นจะตาย"

          เขาบอกด้วยว่า "ทุกองค์กรมาเลย ตรวจสอบจริยธรรมผมหน่อย ไม่ได้ท้าทาย แต่ไอ้คนที่มันชั่ว มันคือพวกที่ชอบเป็นชู้กับเมียเขา หรือบางคนไปเป็นชู้กับผัวเขา อันนั้นน่ะชั่ว แล้วไปบอกผมหน้าแดง จะให้ผมหน้าดำได้อย่างไร ผมหน้าแดงเพราะผมออกกำลัง คนหน้าแดงก็เมาไม่เข้าใจ แต่ใครก็ตามที่ไปฆ่าคน หน้ามันจะดำ ผมไม่เคยไปฆ่าใครหน้าผมก็แดง" 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[27 กุมภาพันธ์] เฉลิม ส่งทนายฟ้องคนกล่าวหาเมาป่วนในสภาฯ แล้ว


เฉลิม ส่งทนายฟ้องคนกล่าวหาเมาป่วนในสภาฯ แล้ว

เฉลิม ส่งทนายฟ้องคนกล่าวหาเมาป่วนในสภาฯ แล้ว  (ไอเอ็นเอ็น)

          ทีมทนายความส่วนตัว ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางไปสน.แสมดำ ยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ เสนอข่าว เมาสุรา กลางสภา รอหารือ ฟ้อง ส.ส.รังสิมา และชวนนท์ ด้วยหรือไม่ พร้อมตั้งทีมกฎหมาย 8 คน ตรวจสอบหากพบมีผู้กระทำความผิดเพิ่มก็จะดำเนินการแจ้งความทันที

          นายโอภาส สร้อยสน ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ สน.แสมดำ ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณากับหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ หนังสือพิมพ์แนวหน้า และผู้ที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอข่าว ว่า ร.ต.อ.เฉลิม เมาสุราในการประชุมร่วมรัฐสภา พร้อมกับตั้งทีมกฎหมายขึ้น 8 คน เพื่อคอยตรวจสอบในเรื่องนี้ หากพบว่ามีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการแจ้งความทันที และในขณะนี้ ทีมกฎหมายกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการฟ้องร้อง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ และ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยหรือไม่

           ทั้งนี้ นายโอภาส กล่าวอีกว่า จะไม่มีการถอนฟ้องโดยเด็ดขาด และตั้งแต่ร่วมงานกับ ร.ต.อ.เฉลิม มา 10 ปี ไม่เคยเห็นว่าเมาสุรา



นายกฯ เมิน ปชป. สอบจริยธรรม เฉลิม เมาบอกยังไม่คุยกัน 

          น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการเดินทางมาดู ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย แข่งขันฟุตบอล ส่วนกรณีเกี่ยวกับเหตุความวุ่นวายในรัฐสภา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้พูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และมองว่าสมาชิกรัฐสภา ต้องเคารพในสภา และคำพูดต้องอยู่ในกรอบและหลักเกณฑ์ของรัฐสภา ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นสอบ ร.ต.อ.เฉลิม นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็ปล่อยเขาไป

          นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงค์มายังที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยกล่าวชม นายกรัฐมนตรี ว่า มีความเข้มแข็งขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังใจของตนเอง ส่วนหนึ่งต้องมาจากประชาชนทุกคน และขอยืนยันจะทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อรับใช้ประชาชนโดยเฉพาะต้องบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างความสุขให้กับคนในประเทศ



อภิสิทธิ์ ร้อง นายกฯ จัดการ เฉลิม เมาหรือไม่ 
 

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มีอาการมึนเมา เข้าร่วมการประชุมร่วมรัฐสภา ว่า เป็นหน้าที่ของ นายกรัฐมนตรี และประธานสภา เป็นผู้ตรวจสอบ ไม่ควรให้ฝ่ายค้านดำเนินการ แต่หากนายกรัฐมนตรี และประธานสภาไม่ดำเนินการ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กำลังดำเนินการว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

          ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ควรทบทวน และพิจารณาพฤติกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคม เพราะตำแหน่ง ส.ส. และรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นของใคร แต่เป็นของส่วนรวม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญ หากไม่มีการพิจารณาก็จะเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี เพราะประชาชนเห็นพฤติกรรมทั้งหมดขณะถ่ายทอดสดแล้ว




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เฉลิม ตอก รังสิมา ยันเมาในสภาไม่ผิดจริยธรรม อัปเดตล่าสุด 6 มีนาคม 2555 เวลา 18:02:42 52,558 อ่าน
TOP