เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากรายการ เรื่องเล่าเช้านี้
8 ลูกเรือประมงสัตหีบ นำเนื้อปลาปักเป้าลายดำมากิน จนชักน้ำลายฟูมปากหามส่งโรงพยาบาล 6 ราย ส่วนอีก 2 รายนำไข่มาทอดกินเสียชีวิตทันที
วันนี้(27 กุมภาพันธ์์) เวลา 02.00 น. ร้อยตำรวจเอกเอกชัย มูลลี ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากนายแวว ไต๋เรือสุวิทย์การประมง สัญชาติลาวว่ามีลูกเรือชาวมอญ 8 คน นำเนื้อและไข่ปลาปักเป้ามาปรุงอาหารบริโภคจนทำให้หายใจไม่ออก ชาตามร่างกาย และบางรายถึงกับหมดสติแน่นิ่งไป จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ กำลังเร่งลำเลียงผู้ป่วย 6 ราย ขึ้นจากเรือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ทราบชื่อภายหลังคือ นายนาย, นายอาว, นายซู, นายเตอ, นายกะลา และนายซู โดย 1 ในจำนวนนั้นคือ นายซู มีแพ้พิษอย่างรุนแรงถึงกับหมดสติไม่รู้สึกตัว ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 2 ราย นอนอยู่ในเก๋งเรือ ได้แก่ นายดำ และนายชิด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายแวว ไต๋เรือและลูกเรือได้เดินทางออกจากท่าเทียบเรือสมุทรปราการ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อลากอวนหาปลาบริเวณน่านน้ำกลางอ่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อวนได้ลากติดปลาปักเป้าขนาดใหญ่และลูกเรือมีการนำปลาปักเป้าดังกล่าวไปปรุงอาหารรับประทาน แม้ว่าตนจะพยายามพูดห้ามปราม แต่ไม่มีใครเชื่อ หลังจากกินเนื้อและไข่ปลาไปไม่ถึง 10 นาที ทุกคนก็เริ่มมีอาการแพ้พิษปลาอย่างเห็นได้ชัด โดยในรายที่กินแต่เนื้อเริ่มมีอาการชาตามร่างกาย หมดเรี่ยวแรง ส่วนนายชิด นายนายดำ ซึ่งนำไข่ที่ทอดไปบริโภค มีอาการรุนแรงกว่า คือชักเกร็ง หายใจไม่ออก และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ส่วนนายซู ซึ่งมีอาการสาหัส แพทย์ได้ทำการรักษาทันจนอาการปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้ สำหรับปลาปักเป้าที่ถูกจับมาปรุงอาหารนั้น คาดกันว่าน่าจะเป็น ปลาปักเป้าลายดำ ซึ่งมีลักษณะลำตัวอ้วนกลม เรียว ปากเล็ก ฟันเหมือนนกแก้ว ตากลมโต ขนาดความยาวประมาณ 40-50 เซนติเมตร พื้นผิวลำตัวสีขาว แต้มด้วยจุดดำปะปนอยู่ทั่วไป อาศัยอยู่ใกล้พื้นทะเลบริเวณที่เป็นดินทรายปนโคลน พบทั่วไปในบริเวณอ่าวไทย ส่วนพิษปลาปักเป้าที่พบว่ามีพิษสะสมมากที่สุดคือ ไข่ ตับ ลำไส้ หนัง ส่วนที่เป็นเนื้อปลาจะมีพิษน้อยมาก หรือไม่มีเลย พิษจะมากในช่วงฤดูปลาวางไข่
อ่ายราละเอียดเพิ่มเติมจาก
