x close

พนิตา แถลงข่าว โดนแกล้งพ้นปลัด พม.




พนิตาแถลงข่าวโดนแกล้งพ้นปลัดพม. ขู่ร้องกพค. (ไอเอ็นเอ็น)

          "พนิตา" แถลง รัฐบาล โยกย้ายไม่เป็นธรรม คาดสาเหตุความไม่โปร่งใส งบฯ ดูงานต่างประเทศ สมัยอดีตปลัดฯ ชี้ "สันติ" สอบสวนทางวินัยไม่โปร่งใส เตรียมร้องนายกฯ ขอความเป็นธรรม ไม่ได้ยื่น กพค.

          นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงข่าวว่า ตนถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม และเป็นการย้ายผิดคน ซึ่งเชื่อว่าเป็นกรณีจากการเบิกจ่ายงบประมาณไปศึกษาดูงานต่างประเทศไม่โปร่งใส ในสมัย นายวัลลภ พลอยทับทิม เป็นปลัดกระทรวง ในขณะนั้นมากกว่า ไม่ใช่เป็นปัญหาจากการคัดค้านการประมูลสร้างตึกใหม่ของกระทรวง แต่อย่างใด ทั้งนี้ นางพนิตา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เสนอเรื่องโยกย้ายดังกล่าวเข้าในวาระจรของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเป็นการพิจารณาอย่างรีบเร่ง และก็ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ประกอบกับ การดำเนินการสอบสวนทางวินัยของ นายสันติ ก็พบความไม่ชอบมาพากล โดยที่ ไม่มีการเซ็นรับรองเอกสารการสอบสวนทางวินัยแต่อย่างใด จึงถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

          อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เวลา 15.00 น. นางพนิตา จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรม ให้เพิกถอนคำสั่งของ ครม. แต่หากการประชุมในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ไม่มีการพิจารณาเพิกถอน ก็จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. ต่อไป





นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา


ปม‘เด้ง’พันล.ลาม ‘พนิตา’จ่อยื่นกพค. (ไทยโพสต์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก facebook พนิตา กำภู ณ อยุธยา

          "พนิตา" หอบหลักฐานเปิดแถลงแฉปมโดนเด้ง  เชื่อขัดแย้งประมูลสร้างตึกใหม่พันล้าน ปชป.ตอกซ้ำ รมว.พม.ยื้อเซ็นอนุมัติ หึ่งจ้องล้มประมูล "สันติ" ปัดพัลวันไม่เกี่ยว อ้างสั่งแจงรายละเอียดแต่กลับหายจ้อย สตง.ยันงบ 32 ล้านแค่ใช้เงินผิดประเภท ชี้ไม่ใช่เรื่องทุจริต งงแทงหนังสือตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้ว แถมปัดชงให้ย้าย

          เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า จะเปิดแถลงข่าวข้อเท็จจริงทั้งหมดพร้อมหลักฐานของการถูกโยกย้ายจากตำแหน่งปลัด พม. ในวันที่ 15 มี.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ที่อาคาร 60 ปีบ้านราชวิถี อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกตกใจอะไร และเตรียมใจมาหลายเดือนแล้ว จึงได้เตรียมข้อมูลหลักฐาน เพราะเชื่อแน่ต้องถูกรังแกในกรณีความขัดแย้งการประมูลก่อสร้างอาคารใหม่ของกระทรวงมูลค่านับพันล้าน และจะเข้ายื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ในเร็วๆ นี้

          ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พม. ปฏิเสธว่า การย้ายนางพนิตาไม่ได้เกี่ยวกับการประมูลก่อสร้างอาคารใหม่ของกระทรวง และยืนยันว่าไม่ได้พยายามจะล้มประมูลตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ โดยชี้แจงว่าได้รับหนังสือจากนางพนิตา ขอให้นำโครงการก่อสร้างอาคารเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติวงเงินดำเนินการ 1,290 ล้านบาทเศษ ซึ่งตนได้ศึกษาถึงกระบวนการทั้งหมดแล้ว จากนั้นจึงมีหนังสือถึงนางพนิตา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2554 ให้ชี้แจงการขอเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการก่อสร้าง และขั้นตอนดำเนินการทั้งหมดว่ามีความถูกต้องและเคร่งครัดหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงใดๆ

          นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า มีการไปร้องเรียนนางพนิตาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติงานซึ่งมีปัญหา ดังนั้นรัฐมนตรีต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และหากนางพนิตายังอยู่ในตำแหน่งปลัด พม.จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน ส่วนที่นางพนิตาจะร้องเรียนต่อ ก.พ.ค.นั้น ถือว่าเป็นสิทธิ แต่ทั้งหมดอยากให้รอฟังคณะกรรมการสอบสวนวินัยก่อน และหากผลสอบพบว่าไม่มีความผิด ก็พร้อมจะคืนความเป็นธรรม โดยอาจจะหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้

          วันเดียวกัน นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาการผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้แจงถึงกรณีที่นายสันติระบุสาเหตุการย้ายนางพนิตา เนื่องจาก สตง.ทำหนังสือให้นางพนิตาคืนเงินจากการใช้งบประมาณผิดประเภทจำนวน 32 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่นางพนิตาเป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการแล้ว โดย สตง.ตรวจสอบพบว่าช่วงปี 2541-2544 มีการจัดสรรงบเกี่ยวกับการไปดูงานต่างประเทศกว่า 32 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินบริจาค
  
          โดยพบว่าในจำนวน 22 คณะที่เดินทางไปต่างประเทศ มีทั้งอดีตปลัด พม.ที่เกษียณไปแล้วร่วมคณะด้วย ทำให้ สตง.เข้าไปตรวจสอบทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนางพนิตาที่เคยอยู่ที่กรมพัฒนาสังคมฯ ก่อนจะเป็นปลัด พม.ด้วย ดังนั้น สตง.จึงทำหนังสือถึง รมว.พม.ในรัฐบาลสมัยที่แล้วคือนายอิสสระ สมชัย เมื่อเดือน เม.ย.2553 ว่า สตง.ตรวจสอบแล้วพบว่างบ 32 ล้านบาทดังกล่าว อาจเป็นการใช้เงินผิดประเภท ทาง สตง.จึงได้ให้ปลัด พม.คนก่อนหน้านี้และนางพนิตาชี้แจงเป็นหนังสือกลับมา เมื่อเรื่องกำลังสอบสวนอยู่ก็มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และนางพนิตาได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัด พม.

          จากนั้นเดือน ส.ค.2554 สตง.จึงทำหนังสือถึงนายสันติว่า สตง.สอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่ ต่อมานางพนิตาได้ทำหนังสือมาถึง สตง.เมื่อเดือน ม.ค.2555 โดยยืนยันว่างบดังกล่าวไม่ได้ใช้งบผิดประเภท ทาง สตง.จึงตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าใช้งบดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ และกำลังเร่งทำข้อสรุปอยู่

          "ตอนที่ สตง.ทำหนังสือไปถึง รมว.พม. ก็เพียงแจ้งให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าให้ย้ายท่านปลัดกระทรวงหรือไปดำเนินการอะไร เพราะเราไม่มีอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว ตรงนั้นเป็นเรื่องของกระทรวงเขาไปพิจารณากันเอง เป็นดุลยพินิจของกระทรวง เราไม่เกี่ยว แต่ก็แปลกใจเหมือนกันที่จู่ๆ ก็มีการสั่งย้ายปลัดตอนนี้" นายพิศิษฐ์ระบุ

          อย่างไรก็ตาม หาก สตง.สรุปผลออกมาว่าได้ทำถูกระเบียบ เรื่องก็จบ จากนั้นแจ้งให้ รมว.พม.ทราบ แต่ถ้าพบว่าผิดระเบียบ ต้องแจ้งรัฐมนตรีเช่นกัน เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาปลัดกระทรวงเพื่อให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป โดยอาจจะต้องย้อนไปดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนว่าต้องรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน แม้บางคนจะเป็นอธิบดีหรือปลัดกระทรวงที่เกษียณอายุราชการไปแล้วก็ตาม

          นายพิศิษฐ์กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบเรื่องการใช้งบเดินทางไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องการทุจริต แต่เป็นเรื่องข้อสงสัยของ สตง.ในฐานะหน่วยตรวจสอบว่ากรมพัฒนาสังคมฯ ละเลยทำผิดระเบียบการใช้งบประมาณ และเห็นว่าเป็นเงินนอกงบประมาณที่ได้จากการบริจาค จึงควรต้องนำเงินคืนกระทรวงการคลัง

          นอกจากนี้ สตง.จะเข้าไปสอบสวนเรื่องการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มูลค่า 1,000 ล้านบาท หลังมีข่าวว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการโยกย้ายนางพนิตาในครั้งนี้ โดยจะเข้าไปดูว่าโครงการดังกล่าวมีอะไรผิดปกติหรือไม่ในการประมูลก่อสร้าง

          ด้านนายอิสสระ สมชัย อดีต รมว.พม. กล่าวว่า ส่วนตัวที่เคยทำงานกับนางพนิตา มั่นใจว่าไม่เคยมีปัญหาในเรื่องเงินงบประมาณ หากมีความผิดไม่ชัดเจน จะถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งข้าราชการประจำ และควรจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องโยกย้ายออกจากกระทรวงหรือไม่

          "เรื่องนี้มีปัญหาลึกซึ้ง โดยเฉพาะในเรื่องการก่อสร้างอาคารใหม่ของกระทรวง ซึ่งมีการอนุมัติงบประมาณในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีผมเป็นผู้ของบประมาณในวงเงิน 800 ล้านบาท จากนั้นได้มีการจัดประกวดราคาและเคาะราคากันในวันที่ 31 ส.ค.54 ซึ่งเป็นการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมีนายสันติเข้ามารัฐมนตรีแล้ว โดยดำเนินการอย่างถูกต้อง แต่มีข่าวลือว่า มีการวิ่งเต้นเพื่อให้ยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสันติก็ควรออกมาชี้แจง เพราะมีข่าวว่านางพนิตายืนยันว่าไม่สามารถยกเลิกการประกวดราคาได้ ไม่เช่นนั้นกระทรวงอาจถูกฟ้องร้อง ผมจึงสงสัยว่า การยกเลิกดังกล่าว เป็นเพราะผู้รับเหมาไม่ถูกใจรัฐมนตรีหรือไม่” นายอิสสระระบุ

          ทั้งนี้ งบประมาณก่อสร้างอาคารใหม่ดังกล่าวต้องใช้งบประมาณตั้งแต่ปี 2554 แต่จนถึงปัจจุบันนายสันติยังไม่ได้ลงนามอนุมัติ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงการใช้งบประมาณประจำปี 2555 แล้ว จำเป็นต้องมีการอนุมัติเงินงวดใหม่ที่ผูกพันในโครงการแทน และทราบว่าคนในกระทรวงพูดกันว่ามีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ ดังนั้นขอฝากไปถึงนางพนิตาว่าจะต้องออกมาสู้ ไม่เช่นนั้นข้าราชการจะเสียกำลังใจในการทำงาน ซึ่งยืนยันว่านางพนิตาไม่ใช่คนของพรรคประชาธิปัตย์

          นางจรวยพร ธรณินทร์ โฆษก ก.พ.ค. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะต้องให้ผู้ร้องทุกข์ คือนางพนิตา รวบรวมข้อมูลและระบุคู่กรณีว่า จะเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีด้วย โดยมีกำหนดระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่มติ ครม. ที่นางพนิตามีสิทธิ์ที่จะยื่นเรื่องต่อ ก.พ.ค. ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้รับความกดดันจากฝ่ายการเมือง โดยจะพิจารณาตามกฎระเบียบ ก.พ. เป็นไปตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551    
 
          นางจรวยพรยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมองค์คณะวินิจฉัย เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนของนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ถูกโยกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีว่า เจ้าของสำนวนกำลังยกร่างคำวินิจฉัย ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์คณะวินิจฉัย ก่อนที่จะส่งเรื่องให้องค์คณะ ก.พ.ค.ชุดใหญ่ ซึ่งนับจากนี้ไม่เกิน 30 วันจะได้ข้อสรุป จากนั้นจะส่งสำนวนคำร้องไปยังผู้ร้องทุกข์คือนายถวิล และคู่กรณีคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก





[14 มีนาคม] อนุสรณ์ ยันเด้ง พนิตา ไม่เกี่ยวผลงานน้ำท่วม



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก anusorn.fanclub

          อนุสรณ์ แจงกรณีสั่งเด้งอดีตปลัด พม. ตั้งกรรมการสอบไม่เกี่ยวกับผลงานตอนน้ำท่วม บอกถ้าคิดว่าไม่เป็นธรรม ยื่นเรื่องร้องเรียนได้
 
          วันนี้ (14 มีนาคม) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงประเด็นการตั้งกรรมการสอบวินัย นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) ว่า ไม่เกี่ยวกับการทำงานในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา แต่มีปัญหาบางประการในการบริหารงานเท่านั้น และที่ผ่านมานางพนิตาเองก็มีผลงานที่ดี
 
          นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า หากนางพนิตาเห็นว่าไม่เป็นธรรม ก็มีทางออกโดยการร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (กพค.) ได้ ส่วนจะได้ตำแหน่งคืนหรือไม่ คงต้องอยู่กับผลการสอบสวนว่าเป็นอย่างไร ถ้าผลออกมาว่า นางพนิตาไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็อาจคืนตำแหน่งเดิมให้ หรือตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า อย่างไรก็ตาม หากนางพนิตา ยื่นเรื่องเข้ามาจริง ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อกรรมการสอบสวนทางวินัย เพราะเป็นคนละประเด็นกัน

 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[13 มีนาคม] ย้ายด่วน! พนิตา พ้นปลัด พม.

นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา

วิเชียร์ ชวลิต
นายวิเชียร์ ชวลิต


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก facebook พนิตา กำภู ณ อยุธยา

           นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกสั่งย้ายกลางการประชุมรัฐมนตรี สลับให้ วิเชียร์ ชวลิต ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ท่ามกลางข่าวลือว่าโดนเด้งเพราะขวางล้มประมูลตึกใหม่

           วันนี้ (13 มีนาคม) มีรายงานแจ้งผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จังหวัดภูเก็ต ได้มีการเสนอวาระโยกย้ายภายในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย ครม. เห็นชอบให้มีการย้ายนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้นายวิเชียร์ ชวลิต ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยและมาช่วยราชการที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี มาเป็นปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แทน

           ซึ่งการย้ายฟ้าผ่าครั้งนี้มีกระแสข่าวว่า เกิดจากปัญหาการประมูลสร้างตึกใหม่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ที่มีฝ่ายการเมืองกดดันให้เปิดการประมูลใหม่ แต่นางพนิตาไม่ยอมเนื่องจากที่ผ่านมาดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว เพราะหากล้มเลิกการประมูลอาจจะถูกบริษัทที่ประมูลฟ้องร้อง

           สำหรับนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ก่อนจะมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์นั้น เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยมาก่อน ต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นกระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นก็ขึ้นเป็นรองอธิบดี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และผู้อำนวยการสำนักงาน (นักบริหาร 10) สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์ เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ ต่อจากนั้นก็เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

           ส่วนนายวิเชียร ชวลิตนั้น เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ก่อนจะขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และขยับขึ้นมาเป็นรองผู้ว่าราชการกระทั่งถึงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ แล้วถูกโยกย้ายมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจึงถูกย้ายให้มาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีแทน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พนิตา แถลงข่าว โดนแกล้งพ้นปลัด พม. อัปเดตล่าสุด 15 มีนาคม 2555 เวลา 18:00:22 20,394 อ่าน
TOP