เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษได้เปิดเผยการฆาตกรรมสุดโหด เมื่อชายรัสเซียรายหนึ่งได้ลงมือฆ่าเพื่อน ก่อนแล่เนื้อจากศพไปทำอาหารกินเอง และอีกส่วนหนึ่งนำไปขายในตลาด อ้างเป็นเนื้อหมู
รายงานระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย ชายวัย 35 ปีรายหนึ่ง ได้ซื้อกับแกล้มมานั่งกินพร้อมวอดก้ากับเพื่อนวัย 41 ปี แต่หลังจากที่ทั้งคู่นั่งดื่มว้อดก้าไปเรื่อย ๆ นั้น กับแกล้มที่เขาซื้อมาก็หมดลง แต่ชายวัย 35 ปีรายนี้ เกิดอยากจะหาอะไรกินคู่กับว้อดก้าให้ได้ ประกอบกับเขาอยู่ในอาการมึนเมาด้วย จึงคว้ามีดแทงไปบนร่างของเพื่อนซ้ำ ๆ จนเพื่อนเสียชีวิต ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ แล่เนื้อเพื่อนออกมาย่างกินจนอิ่มแปล้ แล้วนอนหลับไป
รุ่งเช้า เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่ายังมีเนื้อของเพื่อนเหลืออยู่อีกมาก และไม่รู้ว่าจะจัดการกับศพของเพื่อนอย่างไรด้วย จึงตัดสินใจแล่เนื้อของเพื่อนไปขายในตลาด แล้วอ้างกับใครต่อใครว่าเป็นเนื้อหมู แต่หลังจากที่ลูกค้ารายหนึ่งซื้อเนื้อไปทำอาหาร ก็พบว่าเนื้อหมูที่เขาซื้อมานั้นมีรสชาติและกลิ่นที่แปลกประหลาด ไม่เหมือนเนื้อหมูทั่วไป จึงนำไปส่งให้กับทางผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดู และก็ถึงกับผงะ เมื่อผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า เนื้อดังกล่าวไม่ใช่เนื้อสัตว์อย่างแน่นอน จากนั้นลูกค้ารายนี้จึงนำเนื้อดังกล่าวส่งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
หลังจากตรวจสอบเนื้อดังกล่าวอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นเนื้อมนุษย์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านของฆาตกรสุดโหดวัย 35 ปีรายนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในบ้าน ก็พบว่า ภายในบ้านมีเศษกระดูกมนุษย์ และในตู้เย็นก็มีศีรษะของมนุษย์แช่เย็นอยู่ จึงจับกุมฆาตกรรายนี้ทันที
จากการสอบสวน ฆาตกรรายนี้ให้การรับสารภาพว่า เขาเป็นคนลงมือฆ่าเพื่อน แล้วแล่เนื้อเพื่อนมาทำอาหารกินเป็นกับแกล้มว้อดก้า ก่อนที่จะนำเนื้อที่เหลือไปขายแล้วอ้างว่าเป็นเนื้อหมูดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้คดีดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อพิจารณาตัดสินคดี ขณะที่ฆาตกรรายนี้ยังคงถูกกักขังอยู่ในเรือนจำเพื่อรอผลการพิพากษาต่อไป